SOMETIME 02
******************************
“ฝนตกแบบนี้พี่ปล่อยให้หวานกลับห้องคนเดียวไม่ได้หรอกครับ”
พี่แทนขยี้ผมฉันเล่น ฉันเงยหน้ามองเขาชัดจนสายตาฉันเหลือบไปเห็นรอยจ้ำสีแดงที่ซอกคอของเขา
ฉันหยุดมองรอยจ้ำนั่นอยู่พักหนึ่งก่อนจะรู้ว่ามันเป็นรอยอะไร และใครเป็นคนทำให้เกิดรอยนี้
รอยยิ้มของฉันหายไปทันทีที่รู้ว่าก่อนหน้าที่เขาจะมารับฉันเขาไปทำอะไรกับใครมา
สิ่งที่เหมยมาบอกฉันเป็นเรื่องจริงและเขาก็คงไปทำเรื่องบนเตียงกับเธอคนนั้นมา ฉันเองก็อยากจะโวยวายนะแต่ก็ทำไม่ได้
เหมือนอย่างที่ฉันเคยบอกว่าเขาสามารถใจร้ายกับฉันได้ทุกเมื่อถ้าเขาคิดจะทำ และตอนนี้เขาก็กำลังทำอย่างนั้นอยู่
นี่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้กับฉันเพราะมันนับม่ถ้วนกับสิ่งที่เขาทำให้ฉันเจ็บ
“พี่แทนไปทำอะไรมาคะ?”
กะว่าจะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเขาแล้วนะ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ ฉันเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาต่อหน้าคนมากมายแบบนี้
ทั้งที่ควรจะชินได้แล้วเพราะมันไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งที่เขาทำร้ายฉันให้ต้องเจ็บปวด
“พี่ไปทำงานกับเพื่อนมาค่ะ พอทำเสร็จก็รีบมารับหวานเลยไง”
ยังมาทำหน้าเหมือนตัวเองไม่ได้ไปทำอะไรผิดมา และมันก็คงจะต้องเป็นเหมือนทุกทีที่ฉันยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทำไมนะทำไมฉันไม่ใจแข็งให้มากกว่านี้ แค่เดินออกจากชีวิตของพี่แทนทำไมมันถึงได้ยากเย็นแบบนี้ ผู้ชายสำส่อนแบบเขาทำไมฉันถึงยังรักได้ลงก็ไม่รู้
ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เลย ถ้าหากจะมีใครสักคนเข้ามาช่วยฉุดฉันออกไปจากตรงนี้ก็คงจะดีไม่น้อยเลย
“คงทำกันนานน่าดูเลยนะคะ”
“ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอกค่ะ” พี่แทนพูดยิ้มๆ
ฉันรังเกียจร่างกายของเขาจัง ร่างกายที่แนบชิดไปกับผู้หญิงคนอื่นแล้วเอามันมาเข้าใกล้ฉันแบบนี้
เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงไม่ยอมมีอะไรกับพี่แทนอีกหลังจากคืนนั้น เพราะฉันไม่อยากให้ร่างกายที่เต็มไปด้วยความสกปรกของเขามาแปดเปื้อนตัวฉัน ถ้าฉันมีทางไปฉันจะไม่ลังเลที่จะก้าวออกมาเลย
ขอเพียงแค่ฉันใจแข็งมากพอกว่านี้
“หวานวันนี้พี่คงไปดูหนังกับหวานไม่ได้แล้วนะ พี่ต้องไปทำงานที่ห้องไอ้แชมป์มันน่ะ”
“ยังทำไม่เสร็จอีกเหรอคะ?”
พี่แชมป์ที่พี่แทนพูดถึงก็คือเพื่อนของเขานั่นล่ะ เขาก็มักจะเอาเพื่อนมาอ้างเสมอเวลาที่จะออกไปหากินในเวลากลางคืนแล้วปล่อยฉันให้นอนเหงาอยู่ห้องอย่างเดียวดาย
นี่เขาเคยนึกถึงใจฉันบ้างหรือเปล่าว่าจะรู้สึกยังไง กี่คืนแล้วที่เขาแทบไม่กลับเข้ามานอนที่ห้อง
กี่คืนแล้วที่ฉันต้องนอนกอดกับความเหงาเพียงลำพัง ฉันอยากออกจากวังวนแบบนี้เหลือเกิน
ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละฉันไม่สามารถพูดมันออกมาได้หรอกว่าตัวเองต้องการเขามากแค่ไหน
อยากจะเอื้อมมือไปคว้าเขาเอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ มันน่าตลกใช่มั้ยล่ะที่คนอย่างฉันทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“หวานอยากไปกับพี่ป่ะล่ะ?” เพราะเขารู้ไงว่าฉันจะต้องตอบว่าไม่ไปถึงได้กล้ามาถามฉันแบบนี้
ที่ฉันไม่ไปเพราะไม่อยากก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขา ฉันพอจะรู้นิสัยเขาว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งจุ้นจ้านกับเรื่องของเขาไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม
“แต่น่าเบื่อหน่อยนะเพราะไม่มีไรทำ”
“แล้วจะกลับตอนไหนคะ?”
“น่าจะกลับดึกหรือไม่ก็ไม่ได้กลับค่ะ งานเยอะจริงพี่เองก็เบื่อเหมือนกัน”
ถ้าเบื่อคงไม่ออกไปแบบนี้แทบทุกวันหรอกมั้ง งานของเขาคงจะเป็นงานที่เร้าใจและตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาเลยสินะถึงทำให้เขาอยากออกไปทำงานแทบทุกวันแบบนี้ การที่เขาอยู่กับฉันมันคงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเขาไปแล้วล่ะ
“หวานจะบอกพี่แทนเหมือนกันว่าวันนี้หวานไม่อยู่ห้อง”
ในเมื่อเขาทำได้ ทำไมฉันจะทำกลับบ้างไม่ได้ พอกันทีกับความไร้เดียงสา ฉันไม่ใช่เด็กน้อยของเขาอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อทำดีแล้วไม่มีใครเห็นค่าก็อย่าทำมันเลยดีกว่า
ชอบผู้หญิงแรดๆ แรงๆ ใช่มั้ย ฉันจะเป็นให้ดู ไอ้ผู้หญิงน่ารักเรียบร้อยอ่อนหวานเขาคงไม่ชอบ
“หวานจะไปไหน?”
น้ำเสียงของพี่แทนเปลี่ยนไปทันที เขาไม่ชอบให้ฉันออกจากห้องในเวลากลางคืน ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
บางทีเขาอาจจะกลัวว่าฉันจะเห็นเขาแอบไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่นกลางดึกก็ได้มั้ง
“หวานจะไปไนต์คลับกับเพื่อนๆ น่ะค่ะ”
ฉันไม่ได้โกหกพี่แทนนะ แต่ฉันจะไปจริงๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วลองเป็นผู้หญิงแรดๆ มั่วผู้ชายสักวันคงไม่เสียหายอะไรในเมื่อเขายังทำได้อย่างหน้าตาเฉยเลย
“คงไม่กลับห้องก็เลยบอกเผื่อเอาไว้ก่อน”
“ทำไมถึงคิดที่จะไปทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบที่แบบนั้น”
ใช่! ฉันเคยบอกพี่แทนว่าไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่านและเสียงดัง อีกอย่างฉันไม่ชอบอะไรที่ดูแล้วมันน่ากลัว
แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างที่ฉันเป็น
การที่ฉันจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเหมือนที่เขาไปนอนด้วยเขาก็น่าจะชอบไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมจะต้องทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่ฉันแบบนี้ ไม่เข้าใจ
“หรือที่พูดเพราะประชด?”
“เปล่าค่ะ หวานอยากลองดูบ้าง”
คำว่าลองที่ฉันพูดออกไปทำให้ใบหน้าของพี่แทนตึงเครียดขึ้นมาทันที เขาไม่เคยทำหน้าตาที่แสดงออกว่าเขาไม่พอใจออกมาให้ฉันได้เห็นเลย
แต่วันนี้เขาสามารถทำให้ฉันได้เห็นและมันยังทำให้ฉันรู้ด้วยว่าเขาไม่ได้อยากให้ฉันไปที่แบบนั้นแน่นอน
เขาจะมาห้ามฉันทำไมในเมื่อเขาเองก็ไปแทบทุกวันแถมยังไปมั่วกับผู้หญิงในนั้นอีกด้วย และฉันก็ไม่เคยไปห้ามเขาเพราะงั้นเขาจะมาห้ามฉันไม่ได้เหมือนกัน
“ถ้าพี่บอกว่าไม่ให้หวานไป?” พี่แทนเสียงแข็งขึ้นมาทันที เขาคงไม่อยากให้ฉันไปอย่างที่เขาบอกจริงๆ นั่นแหละ
ไอ้การกระทำของเขามันก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ชอบผู้หญิงเหมือนผ้าพับไว้
การที่ฉันจะแสดงความแรดแรงร้ายออกมาทำไมถึงไม่ชอบอีก แล้วฉันต้องทำยังไงเขาถึงจะยอมหยุดที่ฉันแล้วไม่ไปมองคนอื่น
“หวานขอเหตุผลด้วยค่ะ”
“เหตุผลของพี่พี่เคยบอกหวานไปแล้วนะ”
ฉันนึกย้อนไปถึงคืนที่เรามีอะไรกัน เขาบอกฉันว่าเขาหวงฉันมากไม่อยากให้ฉันอยู่ห่างจากเขา
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็จะยังคงยืนยันคำเดิมว่าหวงฉันมากที่สุด เขายอมแลกทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเพื่อให้ได้ฉันมา
แต่นั่นมันผ่านมานานแล้วและฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ฉันเชื่อฟังเขา
ขนาดการกระทำของเขายังเปลี่ยนไปเลย นับประสาอะไรกับคำพูดที่เป็นเพียงลมปากเท่านั้น
“ขอโทษค่ะหวานลืมไปแล้ว พี่แทนช่วยบอกอีกได้มั้ยคะ?”
ฉันอยากให้เขาพูดอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนตัวเขาเองไม่ใช่ฉัน ทุกคำพูดทุกการกระทำของเขาฉันจำมันได้มั้งหมด ไม่เคยลืม ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนฉันก็ยังคงจำวันที่เรามีความสุขด้วยกันได้
“หรือพี่แทนก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน”
“พี่หวงหวาน” พี่แทนพูดสวนขึ้นมาทันที
เหตุผลนี้อีกแล้วสินะที่เขาชอบเอามาอ้าง คนหวงกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ ฉันว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ เขาปล่อยให้ฉันต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว ไม่เคยถามว่าฉันอยู่คนเดียวได้หรือเปล่า
เขาปล่อยให้ฉันต้องนอนกอดตัวเองในคืนที่หนาวเหน็บ เขาปล่อยให้ฉันต้องรอกินข้าวจนเย็นชืด นี่คือการกระทำของคนที่หวงกันเหรอ
“พี่ไม่อยากให้ร่างกายของหวานไปสัมผัสกับผู้ชายคนอื่น พี่หวงเข้าใจแล้วนะ”
“ถ้าหวานจะบอกพี่แทนว่าหวานเองก็หวงพี่แทนเหมือนกันล่ะคะ” น้ำตาอยู่ดีๆ มันก็เอ่อล้นที่ขอบตาเตรียมจะไหล
เขาบอกว่าหวงฉันแล้วฉันล่ะมีสิทธิ์หวงเขาได้มั้ย
หวงที่เขาเอาร่างกายของเขาไปแนบชิดกับคนอื่น
หวงริมฝีปากที่เขาใช้จูบฉันไปสัมผัสเนื้อผิวร่างกายผู้หญิงคนอื่น
หวงนิ้วมือของเขาที่ใช้ลูบไล้ร่างกายผู้หญิงคนอื่น
ฉันมีสิทธิ์จะหวงได้มั้ย