บทที่2

1148 Words
บทที่2 “ไปตลาดมาได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับชายแดนบ้างหรือไม่” น้ำเสียงที่เพียงแค่เอ่ยก็ฟังรู้แล้วว่าไม่พอใจของแม่สามีทำให้หวงอิ๋งจื่อเอ่ยตอบกลับไปเบา ๆ “ไม่มีเจ้าค่ะ” เสียงพ่นลมหายใจแรงราวกับไม่พอใจดังมาจากคนที่เอ่ยถาม “หากเป็นบุตรสาวของนายทหารสักคนก็คงจะตอบคำถามนี้ได้ ส่วนบุตรชายของข้าก็คงจะไม่ว่างเพราะจะต้องรบทัพจับศึกจนไม่มีเวลาเขียนจดหมาย ช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก” ฟ่านหลันส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย สะใภ้ที่บุตรชายคนเดียวแต่งเข้าจวน ฐานะต้อยต่ำช่วยเหลือผลักดันบุตรชายคนเดียวของนางไม่ได้สักนิด ใช้งานอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง หากนางได้เลือกสะใภ้ด้วยตนเองคงดีกว่านี้ หวงอิ่งจื่อออยากจะอธิบายให้แม่สามีได้ฟังว่าต่อให้เป็นแม่ทัพบางทีก็ไม่ใช่ว่าจะส่งจดหมายออกมาจากค่ายทหารได้ง่าย ๆ ถึงนางจะไม่ใช่บุตรสาวของขุนนางสูงส่งแต่ก็ใช่ว่าจะไร้ความรู้ น่าเสียดายนางไม่สามารถอธิบายให้แม่สามีเข้าใจได้ เพราะแค่นี้แม่สามีก็ด่านางเช้าด่านางเย็นแล้ว หายใจเสียงดังนางยังผิด เอาเถอะก้มหน้าทนๆไป อย่างไรนั่นก็แม่สามี “จะมานั่งอยู่ทำไมอีกเล่า เข้าไปทำกับข้าวในครัวสิ ไร้ประโยชน์ ไม่รู้จะแต่งเข้ามาทำไม” เสียงด่าทอยังคงดังไล่หลังมาแต่หวงอิ๋งจื่อเลือกที่จะไม่สนใจ หวงอิ่งจื่อเดินเข้าไปในห้องครัว เมื่อเหล่าสาวใช้เห็นฮูหยินเล็กก็วางสิ่งที่กำลังทำอยู่ลงทันที ตอนแรกที่ฮูหยินเล็กแต่งเข้ามา ก็มีบางคนที่คอยเข้ามาช่วยเหลือนางหยิบจับงานต่างๆ แต่เมื่อผ่านปีแรกมา ก็ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนไม่มีประโยชน์ที่ฟ่านหลันเรียกอย่างหวงอิ่งจื่ออีกแล้ว “ไปกันเถอะ ได้พักสักนิดก็ดีเหมือนกัน ฮูหยินเล็กอย่าทำอะไรเสียหายนะเจ้าคะ หากเกิดอะไรขึ้นพวกเราจะบอกว่าฮูหยินใหญ่ว่าท่านเป็นคนทำนะเจ้าคะ” ทุกคนเดินออกไปพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย หวงอิ่งจื่อก้มหน้ารับกับชีวิตของตัวเองในตอนนี้ก่อนจะลงมือนวดแป้งและทำอาหารของวันนี้เพื่อไปขึ้นโต๊ะอาหาร และนี่ก็คือชีวิตที่ผ่านไปวัน ๆ ไม่ทำกับข้าว ก็ซักเสื้อผ้า ต่อให้อากาศจะร้อนหรือหนาวเย็นมากแค่ไหน หวงอิ่งจื่อก็มีหน้าที่จะต้องทำทุกวัน ไม่มีแม้แต่วันหยุด ยังดีที่นางยังพักในเรือนนอนของฟ่านเฉิงเฉิงได้ อย่างน้อยที่นั่นก็ยังมีเตียงให้นอนฟูกที่นิ่ม กระดาษและตำราหนังสือเอาไว้ให้นางอ่านยามที่เบื่อหน่าย วันเวลาผ่านจากวันเป็นเดือน เหมันต์ผ่านมาครั้งแล้วจากไปก่อนจะกลับมาอีกครั้งหวงอิ่งจื่อก็ยังคงนอนอยู่เพียงลำพังในเรือนนอนของฟ่านเฉิงเฉิง สองปีมาแล้วที่นางต้องปรนนิบัติทุกคนในตระกูล มิใช่ไม่เต็มใจ แต่บางเรื่องก็เหมือนกับโดนกดขี่ข่มเหงเสียอย่างนั้น เพราะแม้แต่เหล่าสาวใช้ก็ไม่เคยเห็นหัวนางสักครั้ง หากโยนอะไรให้ทำได้ก็จะทำอย่างไม่รู้สึกว่าควรไม่ควร “อย่างน้อยก็ยังมีที่ให้ซุกหัวนอนนะอิ่งจื่อ” นางกำลังซักเสื้อผ้าทามกลางน้ำที่กำลังจะกลายเป็นน้ำแข็ง อากาศหนาวเช่นนี้ไม่มีใครอยู่ที่ลานซักล้างหรอก ยกเว้นฮูหยินเล็กของจวน “ฮูหยินเล็ก เหล่าฮูหยินให้ข้ามาตามท่านไปนวด” หวงอิ่งจื่อพยักหน้ารับรู้ สิ่งที่ท่านย่าต้องการจะทำคือช่วยนางสินะ น้ำตาของหญิงสาวแทบจะไหลออกมา เพียงแค่ได้ความอบอุ่นจากใครสักคน เพราะยามนี้นางไม่เหลือใครอีกแล้ว หากจะมีใครดูดำดูดีนางอยู่บ้างก็คงเป็นท่านย่า หวงอิ่งจื่อจัดการสิ่งที่ต้องทำจนเสร็จ มือของนางสากเสียยิ่งกว่ายามอยู่กับบิดาในกระท่อมหลังเล็กเสียอีก นางอยากกลับไปอยู่ที่นั่นเหลือเกิน แต่จะทำเช่นไรได้ ที่นั่นนางไม่เหลือใครอีกแล้ว ครอบครัวที่สามารถเรียกได้ว่าครอบครัวก็คงเป็นสามี และครอบครัวของสามี แต่มารดาของสามีนั้นรังเกียจนางยิ่งนัก แต่โชคก็ยังดีที่ท่านย่าของฟ่านเฉิงเฉิงเอ็นดูนาง และสิ่งที่หวงอิ่งจื่อพอจะทำได้คงเพียงแค่ดูแลสตรีชราผู้นี้เสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งในครอบครัวก็เท่านั้น และบางทีหากเอ่ยถามว่ามีใครคิดว่านางเป็นครอบครัว ก็คงมีแค่ท่านย่า เพราะแม้แต่สามีของนาง นางยังไม่กล้าคิดเลยด้วยซ้ำว่าเขายังมองนางเป็นภรรยาอยู่หรือไม่ “ถึงท่านจะไม่คิดถึงข้าแต่ข้าคิดถึงท่านนะ” เสียงหวานเอ่ยกับท้องฟ้าราวกับจะฝากคำนั้นไปให้สามีของตนที่อยู่ที่ชายแดน โดยไม่ได้รู้เลยว่าฟ่านเฉิงเฉิงกำลังเดินทางมายังเมืองหลวงแล้ว และเพราะข่าวที่ล่าช้าจึงทำให้ข่าวการศึกยังมาไม่ถึง ประตูจวนเปิดออกพร้อมกับร่างของบุรุษในชุดเกราะ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับสตรีคนอื่นเป็นสิ่งที่หวงอิ๋งจื่อไม่คิดว่าจะเห็นเป็นอย่างแรกหลังจากที่วิ่งตามเหล่าสาวใช้ที่ตะโกนไปทั่วว่า นายท่านกลับมาแล้ว ฟ่านเฉิงเฉิงเดินผ่านหวงอิ่งจื่อไปคุกเข่าต่อหน้ามารดาและท่านย่าของตน “ลูกกลับมาแล้วท่านแม่ หลานกลับมาแล้วท่านย่า” รอยยิ้มจากทุกคนนั้นเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็ยังไม่วายแอบสงสัยเกี่ยวกับสตรีในชุดงดงามที่เดินผ่านประตูจวนเข้ามาพร้อมกับผู้นำของตระกูล “ไปจุดธูปไหว้บิดาเจ้าก่อนเถอะเฉิงเฉิง” หวงอิ่งจื่อไม่มีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับสามีเลยแม้แต่น้อย และดูเหมือนสามีอย่างฟ่านเฉิงเฉิงก็จะมองเห็นว่านางเหมือนมีบางอย่างจะกล่าว จึงเดินมาหาหวงอิ่งจื่อ แต่กลับไม่ได้เดินมาเพียงลำพัง หวงอิ่งจื่อมองไปยังมือของสตรีที่เกาะเกี่ยวเอาไว้ที่แขนของสามีตน หากบอกว่าไม่คิดอะไรเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่เพราะฟ่านเฉิงเฉิงเป็นคนรักษาสัญญาหวงอิ่งจื่อจึงคิดว่าเขาคงไม่มีทางรับคนอื่นมาแทนที่นางเป็นแน่ แม้ว่าจะไม่รักนางก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD