เมื่อโจวลี่หลินได้รับมอบหมายให้ดูแลจัดการทุกเรื่องภายในตำหนัก นางจึงจำเป็นต้องถามรายละเอียดจากหลี่กงกง และสำรวจดูสิ่งที่ขาดตกภายในตำหนัก ซึ่งหญิงสาวพบว่าทุกอย่างภายในตำหนักแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง ของใช้ทุกอย่างภายในตำหนักล้วนแล้วแต่เป็นของดีมีราคาแพงซึ่งหาได้ยาก บ่งบอกถึงฐานะของผู้เป็นเจ้าของ
"ดูเหมือนว่าหลี่กงกงจะจัดการตำหนักแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี"
"ย่อมไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์พร้อมหมดเสียทีเดียว หากพระชายาคิดว่ายังมีสิ่งใดขาดตก ต้องการให้กระหม่อมจัดหา เพียงบอกกับกระหม่อมจะไปจัดการให้ทันที"
"ไม่รบกวนหลี่กงกง สิ่งของที่ขาดเหลือนั้น ข้าอยากจะไปดูด้วยตนเอง และอยากจะถามความคิดเห็นจากท่านอ๋องด้วย จึงอยากจะทูลเชิญท่านอ๋องไปเลือกซื้อของด้วยกันกับข้า"
คำตอบของโจวลี่หลินถึงกับทำให้หลี่กงกงสำลักน้ำลายตนเอง เขามองจ้องดวงหน้าของนางคล้ายกับได้ฟังเรื่องราวที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก
"ท่านอ๋องไม่เคยเสด็จไปยังสถานที่พลุกพล่าน เกรงว่าคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก"
"เรื่องนั้นข้าจะจัดการเอง เพียงหลี่กงกงไปเตรียมรถม้าให้กับข้าและท่านอ๋องก็เพียงพอแล้ว"
โจวลี่หลินเอ่ยบอกเขาเสร็จ ก็เดินตรงไปยังห้องหนังสือที่เฉินตงหยางนั่งทำงานอยู่ เฉินตงหยางที่ไม่คาดคิดว่านางจะมาขอพบตนในเวลานี้ ก็ได้แต่แปลกใจ แต่ก็ยังอนุญาตให้นางเข้ามา
"เจ้ามีเรื่องอันใด"
"ในการรักษาอาการนอนไม่หลับของพระองค์นั้นยังมีตัวยาที่สำคัญ ซึ่งเป็นสมุนไพรหายากชนิดหนึ่ง หม่อมฉันเคยอยากได้มันมาเก็บไว้ แต่เคยลองถามกับร้านขายยาแห่งนั้นไปแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมขายให้กับหม่อมฉัน หากพระองค์ทรงออกหน้าด้วยพระองค์เอง อาจจะยังพอมีหวัง วันนี้จึงอยากจะทูลเชิญท่านอ๋องไปกับหม่อมฉันสักครั้ง"
"แค่ใช้นามของเปิ่นหวางก็เพียงพอแล้ว"
เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องใดเขาจึงละความสนใจหันไปจัดการกับเอกสารบนโต๊ะทำงานต่อ โจวลี่หลินไม่ได้ยอมแพ้ นางเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น จังหวะนั้นเองเฉินตงหยางจึงได้เงยหน้าขึ้นมามองนางอีกครั้ง
"แม้แต่ผู้มีฐานะมากมายกดดันให้เขาขายสมุนไพรชนิดนั้นให้ เขายังไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด เกรงว่าหากท่านอ๋องไม่ทรงเสด็จไปด้วยพระองค์เอง คงยากที่จะสำเร็จได้"
"มีผู้คนในเมืองนี้ที่ไม่หวาดกลัวชื่อเสียงของเปิ่นหวางด้วยหรือ"
"ก็หม่อมฉันคนหนึ่งนี่ไง ที่ไม่หวาดกลัวพระองค์" นางตอบเขาพร้อมกับส่งยิ้มหวานหยดย้อยไปให้ เฉินตงหยางมิคาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบเช่นนี้ จึงเสียกริยาไปเล็กน้อย ตอนนี้เขาจึงยอมวางเอกสารในมือลง พร้อมกับมองจ้องสตรีตรงหน้าอย่างจริงจัง
"ได้ เปิ่นหวางจะไปกับเจ้า"
โจวลี่หลินยิ้มจนถึงดวงตา แผนการอีกขั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี ในตอนนี้นางเพียงต้องการให้ทุกคนในเมืองหลวงเห็นว่าแท้จริงแล้วบุรุษผู้นี้ไม่ได้น่าหวาดกลัวอย่างที่ทุกคนคิด และข้อเท็จจริงที่ว่านางยังมีลมหายใจอยู่นี้ ก็สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดียิ่ง หากผู้คนในเมืองหลวงได้เห็นว่าชินอ๋องผู้มีฉายาอ๋องปีศาจสามารถพาชายาของเขาไปเดินเลือกซื้อของด้วยกันได้ คงเป็นภาพที่น่าดูไม่น้อย ภาพลักษณ์ที่น่ากลัวนี้ของเขาก็จะดูเบาบางลง
เฉินตงหยางที่ไม่รู้ถึงแผนการของหญิงสาว ในตอนนี้เขาจึงได้นั่งอยู่บนรถม้าคันเดียวกันกับนาง โดยที่มีหญิงสาวดูแลปรนนิบัติรินน้ำชาพร้อมกับนำขนมมาปรนนิบัติให้เขาอยากเอาอกเอาใจ
"เจ้าจะยิ้มอันใดนักหนา ตั้งแต่ออกมาจากตำหนัก ข้าก็ยังไม่เห็นเจ้าหุบยิ้มเลย"
"หม่อมฉันดีใจที่ได้ออกมากับท่านอ๋องเพคะ"
"ไร้สาระ"
ถึงแม้เฉินตงหยางจะกล่าวเช่นนั้น แต่ใบหูของเขาก็แดงก่ำ โจวลี่หลินสังเกตเห็นจึงได้ยกยิ้มอย่างพอใจ
หากบุรุษผู้นี้ไม่แสดงสีหน้าน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา เขาก็ถือเป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลา น่าดึงดูดสายตาผู้หนึ่ง สำหรับนางแล้วการได้มองเขาเช่นนี้ ช่างเป็นอาหารตาอันโอชะให้ได้รู้สึกกระชุ่มกระชวยจริงๆ
"ร้านสมุนไพรที่เจ้าว่าตั้งอยู่ที่ใด"
"ใกล้กับเหลาอาหารหรงอี้เพคะ"
โจวลี่หลินสอบถามหลี่กงกงมาแล้ว เกี่ยวกับย่านที่คึกคักที่สุดในเมืองหลวง เฉินตงหยางขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอันใด
เมื่อเดินทางมาถึงยัง มีผู้คนจำนวนมากอยู่ในบริเวณนี้ พวกเขาจึงต้องลงจากรถม้า พร้อมกับตรงไปยังร้านยาที่โจวลี่หลินบอกเขา
"ร้านปิดหรือ น่าเสียดายนัก"
เมื่อทั้งคู่ยืนอยู่หน้าร้านขายยาแห่งหนึ่งที่ผู้คนพลุกพล่านยิ่งนัก ก็พบว่าประตูร้านค้าปิดเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ…
"ให้คนของเราเข้าไปดูว่าตอนนี้มีใครอยู่ในร้านหรือไม่"
มีหรือที่เฉินตงหยางจะสนใจ หากเขาต้องการ ไม่ว่าร้านนี้จะเปิดหรือปิดย่อมไม่พ้นอำนาจของเขา โจวลี่หลินเห็นท่าไม่ดีรีบเอ่ยขึ้นว่า "ท่านอ๋องร้านปิดเราก็อย่าได้ไปรบกวนพวกเขาเลย หากว่าทำสิ่งใดให้เจ้าของร้านไม่พอใจ แล้ว ไม่ยอมขายสมุนไพรให้กับพวกเราขึ้นมาจะลำบาก ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็ไม่ควรใช้อำนาจข่มขู่ผู้อื่น จนเขาไม่พอใจจะดีกว่า เอาไว้พวกเราค่อยมาตกลงกับเขาใหม่ในภายหลังก็ได้"
"เปิ่นหวางต้องสนใจด้วยหรือ ของสิ่งใดที่เปิ่นหวางอยากได้ย่อมต้องได้"
"ท่านอ๋องถือว่าหม่อมฉันขอร้อง ร้านขายยาร้านนี้มีสมุนไพรที่หายากหลายชนิด ไม่สามารถพบเจอได้บ่อยนัก หม่อมฉันไม่ต้องการทำให้เขาขุ่นเคืองใจ หากวันหน้าเขามีสมุนไพรที่หายากเป็นที่ต้องการ เกรงว่าคงไม่ยอมขายให้กับหม่อมฉันอีกเป็นแน่"
โจวลี่หลินพยายามหว่านล้อมให้เขารู้สึกคล้อยตาม เพราะทั้งหมดเป็นเพียงข้ออ้างของนางเท่านั้น หญิงสาวแสดงสีหน้าสลดลง เฉินตงหยางมองดวงหน้านางแล้วก็กำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถม้าอย่างไม่สบอารมณ์ โจวลี่หลินจึงรีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้
"อันใดอีก…"
"อย่างไรก็มาแล้ว เดินตลาดกับหม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ"
คำขอของนางทำให้เฉินตงหยางรู้สึกชะงักไปชั่วครู่ คล้ายกับโจวลี่หลินรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องแสดงท่าทีเช่นนี้ นางจึงได้ยกยิ้มหวานจับใจ พร้อมทั้งประสานนิ้วมือไปตามข้อนิ้วของชายหนุ่มอย่างใจกล้า เฉินตงหยางมองมือที่พึ่งจะประสานกัน ก็ให้รู้สึกแปลกๆ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะสลัดมันออก รอยยิ้มของนางทั้งเจิดจรัส จนยากจะละสายตาได้ มันช่างแตกต่างกับเวลาที่มีคนมองจ้องเขาด้วยแววตาตื่นกลัวเหลือเกิน เมื่อมารู้สึกตัวอีกที สองข้อเท้าก็เดินไปตามการชักจูงของนางแล้ว
โจวลี่หลินเดินนำเขาไปเบื้องหน้า ชวนเฉินตงหยางดูสินค้าสองข้างทางอย่างอารมณ์ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือที่ๆทั้งสองคนผ่านไป ล้วนแล้วแต่ถูกผู้คนมากมายจับตามองพร้อมทั้งหลีกทางให้คล้ายกับหวาดกลัวกับบางสิ่ง เฉินตงหยางเห็นสายตาที่หวาดกลัวตนเองทอดมองมา ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่เสียงใสที่ดังเจื้อยแจ้วคล้ายกับไม่รู้สึกอันใดเลยของโจวลี่หลิน ทำให้เขารู้สึกสงบลงอย่างแปลกประหลาด
ถึงแม้โจวลี่หลินจะเดินดูของมากมายแทบจะทุกร้าน แต่มือก็ยังคงประสานกับชายหนุ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
"นั่นใช่ชินอ๋องจริงๆหรือ"
"ใช่ไม่ผิดแน่ ถึงพระองค์จะไม่เคยปรากฏกายให้ได้เห็นบ่อยครั้งนัก แต่ข้าจำได้ ใบหน้าเช่นนี้กลิ่นอายแห่งความน่ากลัวนี้เป็นของปีศาจที่ผู้คนต่างเล่าลือกันแน่นอน"
"บ้าไปแล้ว ผู้ใดกันว่าเขาเป็นอ๋องที่โหดเหี้ยมดุร้าย เป็นเจ้าบ่าวที่กลืนกินเจ้าสาวตั้งแต่คืนแรกมิใช่หรือ"
"หากข้าตาไม่ฝาดไป ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังจับมือกับสตรีผู้หนึ่งใช่หรือไม่"
"โอ๊ะ… ใช่แล้ว สตรีนางนั้นคือคุณหนูรองจวนอันหนิงกั๋วกงไม่ผิดแน่ นางพึ่งตกแต่งให้กับท่านอ๋องเมื่อวันก่อนไม่ใช่หรือ ตอนแรกข้ายังคิดว่าวันต่อมาจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับงานศพของนางแน่ๆ ผู้ใดจะไปคาดคิดว่าตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่ ไม่เพียงนางไม่ได้ตกตายไปเหมือนชายาคนก่อนๆ แต่ตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่คล้ายกับเป็นคู่รักที่รักกันมาก"
"หรือพระชายาคนนี้จะสามารถมัดใจท่านอ๋องได้จริงๆ"
"จริงไม่จริงเจ้าก็ดูเอาเถิด หรือว่าแท้ที่จริงแล้วท่านอ๋องไม่ได้โหดร้ายอย่างที่ข่าวลือได้ว่ามา"
โจวลี่หลินได้ยินประโยคนี้ก็ยกยิ้มอย่างพอใจ เฉินตงหยางหันกลับมามองจ้องนางอย่างเอาเรื่อง
"ท่านอ๋องอย่าได้สนพระทัยกับคำนินทาไร้สาระพวกนั้นเลย"
"เจ้าตั้งใจ…!?"
เฉินตงหยางไม่ใช่คนโง่เขลา เมื่อใคร่ครวญทุกอย่างละเอียดแล้วจึงเข้าใจวิธีการของนางทันที
"ทำไม…!?"
"เพราะหม่อมฉัน อยากให้พวกเขารู้ว่าพระองค์หาได้มีความโหดร้ายอย่างที่ถูกเล่าลือกัน"
"ข้าไม่ใช่คนใจดีอย่างที่เจ้าคิด" เขากล่าวเสร็จก็สะบัดมือนางออกพร้อมกับเดินหันหลังกลับไปขึ้นรถม้าโดยที่ไม่ได้หันมาให้ความสนใจกับหญิงสาวอีก โจวลี่หลินไม่เพียงไม่โกรธนางยังวิ่งตามเขาไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"รอหม่อมฉันด้วย"
เหล่าองครักษ์ได้แต่นับถือความกล้าของนาง พวกเขาไม่เคยเห็นสตรีใดที่มีความกล้าบ้าบิ่นเข้าใกล้ท่านอ๋องโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน