เริ่มไว้ใจ

2200 Words
เมื่อเห็นว่าเฉินตงหยางได้มาส่งตนเองแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปเสียที โจวลี่หลินเก็บความไม่เข้าใจไว้เต็มท้อง นางเกิดความลังเลชั่วครู่ว่าจะกล่าวถามเขาออกไปดีหรือไม่ "เอ่อ…" "ให้นางกำนัลมาเตรียมน้ำให้กับเปิ่นหวาง ส่วนเจ้าเข้ามาดูแลปรนนิบัติในตอนที่เปิ่นหวางชำระกาย" เฉินตงหยางไม่รอให้นางได้เปิดโอกาสถามตนเอง โจวลี่หลินได้แต่อ้าปากค้าง "ท่านอ๋องทรงรับสั่งให้หม่อมฉันทำสิ่งใดนะเพคะ" "ทำหน้าที่ชายา" คำตอบสั้นๆแต่ได้ใจความ ทำให้โจวลี่หลินจินตนาการออกไปไกลใบหน้าของนางเห่อร้อน มือทั้งสองข้างประสานเข้าหากันแน่น "หม่อมฉันไม่เคย ปรนนิบัติบุรุษมาก่อน ให้นางกำนัลดูแลปรนนิบัติพระองค์แทนดีหรือไม่" เพียงเฉินตงหยางได้เห็นดวงหน้าที่เขินอายของนาง เขาก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ใช่ท่าทีหวาดกลัวที่เขามักจะเคยเห็น "ฝึกบ่อยๆเดี๋ยวเจ้าก็เก่งเอง" เมื่อเห็นว่านางกำนัลได้ไปเตรียมน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว เฉินตงหยางจึงได้เดินเข้าไปหลังฉากกั้น พร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ออก โจวลี่หลินรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวหลังฉากกั้นนั้นดวงหน้าของนางก็แทบจะระเบิดออกมา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางจะได้ใกล้ชิดบุรุษถึงเพียงนี้ "เจ้าจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานหรือไม่" น้ำเสียงในตอนนี้ของเขาบ่งบอกว่าเริ่มไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากแล้ว โจวลี่หลินค่อยๆก้าวเท้าตามเขาไป หลังม่านหมอกภาพแผ่นหลังที่มีมัดกล้ามของบุรุษเพศทำให้นางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง หญิงสาวนำผ้ามาขัดแผ่นหลังให้เขาเป็นส่วนแรก เพียงปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงมัดกล้ามเนื้อที่แน่นขนัดของบุรุษเพศ นางก็ยิ่งเกิดความรู้สึกร้อนรุ่ม เฉินตงหยางรับรู้ได้ถึงท่าทีเก้ๆกังๆของนางแล้ว ก็ได้แต่ยกมุมปากขึ้น เขาไม่ได้รู้สึกไม่สบอารมณ์แต่อย่างใด "ในเมื่อเจ้าบอกว่ามีความรู้ในเรื่องของการแพทย์หากเจ้าเก่งจริง งั้นก็ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ จนทำให้นอนไม่หลับให้กับเปิ่นหวางดู ว่ามันจะได้ผลอย่างที่เจ้าโอ้อวดไว้หรือไม่" มือบางที่กำลังถูแผ่นหลังถึงกับชะงัก "ท่านอ๋องทรงนอนไม่หลับมานานเท่าใดแล้วเพคะ" "สามปี ไม่ว่าจะใช้การรักษาด้วยวิธีใด ก็ไม่เป็นผล หากวิธีของชาวโพ้นทะเลของเจ้าได้ผล เปิ่นหวางถึงจะยอมเชื่อการรักษาของเจ้า" "งั้นหม่อมฉันจะลองดูเพคะ" คล้ายกับบทสนทนานี้ทำให้โจวลี่หลินรู้สึกผ่อนคลายลง ความเขินอายก่อนหน้าจางหายไป นางเอ่ยถามถึงสิ่งที่ตนเองอยากรู้อีกหลายประโยค ก่อนที่จะบอกถึงสิ่งที่นางต้องการในการทำการรักษาให้กับเขา "งั้นคืนนี้หม่อมฉันจะลองวิธีแรกให้กับพระองค์" "กำยานนอนหลับนะหรือ เปิ่นหวางลองแล้วมันไม่ได้ผล" เมื่อเขาเห็นว่าโจวลี่หลินได้สั่งให้คนของตนจุดกำยานบางอย่างขึ้น จึงได้คิดว่านั่นเป็นกำยานสำหรับทำให้ตนเองนอนหลับ ซึ่งวิธีนี้เขาเคยลองใช้แล้วมันไม่เกิดผลแม้แต่น้อย "กำยานมีหลายชนิดแล้วแต่ว่าจะเลือกชนิดใดมาใช้ แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่ไม่เหมือนกัน กำยานที่หม่อมฉันให้คนของพระองค์นำมานี้ จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มันไม่ได้ช่วยในเรื่องที่ทำให้นอนหลับสบายเพียงอย่างเดียว และหม่อมฉันจะช่วยนวดกดจุดร่วมกับให้พระองค์เสวยยานอนหลับของหม่อมฉันร่วมด้วย" เมื่อไม่เห็นว่าเขาจะตอบปฏิเสธ หญิงสาวจึงได้สั่งให้คนของเขาไปตระเตรียมสิ่งของที่นางต้องการ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว นางจึงได้ให้เฉินตงหยางนอนอยู่บนเตียง โดยมีเพียงผ้าผืนบางปกคลุมส่วนสงวนของชายหนุ่มเอาไว้ โจวลี่หลินได้แต่คิดในใจ เหตุใดในตอนนี้ชายหนุ่มถึงไม่ได้มีท่าทีรักนวลสงวนตัวอย่างเช่นในตอนที่พบกันคราแรก ถ้วยยานอนหลับได้ถูกนำเข้ามาให้เฉินตงหยางได้ดื่ม ชายหนุ่มไม่ได้อิดออดยกถ้วยยาขมขึ้นมาดื่มทีเดียวจนหมด พร้อมกับนอนคว่ำหน้าลงกับเตียงกว้าง เขาหลับตาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นกำยานที่ถูกจุดขึ้นทั่วทั้งห้อง ซึ่งกลิ่นกำยานของนางนี้ แตกต่างจากกำยานทั่วไปอย่างที่นางได้บอกกับตนจริงๆ เพราะเพียงแค่เขาสูดดมเข้าไปก็รู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกเบาสบายอย่างแปลกประหลาด โจวลี่หลินเริ่มลงมือนวดกดจุดให้เขาที่บริเวณศีรษะก่อนเป็นอันดับแรก ชายหนุ่มหลับตารับสัมผัสจากนาง เพียงปลายนิ้วอ่อนนุ่มสัมผัสไปบนศีรษะ การกดแต่ละจุดชั่งลงน้ำหนักมือได้อย่างพอดิบพอดี เฉินตงหยางรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก เมื่อนางกดนวดศีรษะด้านหลังให้เขาเรียบร้อยแล้ว ก็บอกให้ชายหนุ่มเปลี่ยนมานอนหงาย ในตอนนั้นเองที่สายตาของทั้งสองประสานกัน เขาจึงได้เห็นว่าดวงหน้าของนางแดงก่ำ ซึ่งมันดูน่าขบขันอย่างยิ่ง "เพียงเท่านี้ก็รู้สึกเขินอายแล้ว เจ้าคงได้ยินกิตติศักดิ์เกี่ยวกับความปรารถนาในคืนแรกของการเข้าหอของเปิ่นหวางแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าจะสามารถรับแรงปรารถนาทั้งหมดของเปิ่นหวางได้อย่างไร มิใช่ว่าเจ้าจะกลายเป็นชายาคนที่แปดที่ตกตายไปตามชายาคนก่อนๆหรือ" "หม่อมฉันก็พึ่งทราบนี่แหละเพคะ ว่าการร่วมหลับนอนกันของบุรุษและสตรี จะอันตรายถึงขนาดปลิดชีวิตของสตรีผู้หนึ่งได้ นี่ยังคิดอยู่เลยว่าท่านอ๋องทรงร่วมรักแบบวิตถารหรืออย่างไร คงเป็นการร่วมรักที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่ แต่ในความคิดหม่อมฉันแล้ว…" นางทอดมองลงไปยังผ้าผืนเล็กที่ปิดจุดกึ่งกลางกายของเขาอยู่ เฉินตงหยางเองก็มองตามสายตานางไป ก็ได้มีใบหน้าเห่อร้อน เมื่อคิดว่านางกำลังมองสิ่งใด "หากไม่เพราะสตรีเหล่านั้นอ่อนแอเกินไป ก็คงเป็นเพราะว่าพระพลานามัยของท่านอ๋องทรงแข็งแรงสมบูรณ์ ถึงกับพี่สามารถร่วมหลับนอนกับสตรีได้ทั้งคืน จนพวกนางหัวใจวายตายเป็นแน่" ได้ยินคำตอบของนาง เฉินตงหยางคิ้วกระตุก นี่นางสามารถสนทนาเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไม่มีท่าทีเขินอายได้อย่างไร เป็นเขาเสียเองที่จินตนาการไปกับคำกล่าวของนางจนดวงหน้าแดงก่ำ ลามไปจนถึงใบหูเสียแล้ว "เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้ด้วยตนเอง" มือบางถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำตอบนี้ของเขา แต่หญิงสาวยังคงทำใจดีสู้เสือ "ก็ดีเหมือนกันเพคะหม่อมฉันจะได้หายข้องใจเสียที ว่าพระสวามีจะมีเรี่ยวแรงและวิธีการร่วมหลับนอนกับสตรีที่แปลกประหลาดเกินกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไปอย่างที่ผู้คนเล่าลือกันหรือไม่" ด้วยหลักการทางการแพทย์แล้ว การร่วมรักระหว่างบุรุษและสตรี หากไม่วิตถารจริงๆ ก็คงไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิตได้ และนางมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าบุรุษผู้นี้มิได้เป็นพวกวิตถาร นางเชื่อว่าการตายของชายาคนก่อนๆนั้น ต้องมีที่มาที่ไปที่ซับซ้อนมากกว่าข่าวเล่าลือที่ถูกพูดถึงกันแน่ เฉินตงหยางเชื่อแล้วว่าสตรีผู้นี้หาได้เหมือนสตรีทั่วไป แต่เมื่อเขาคิดจะสั่งสอนนางกลับรู้สึกไม่อยากขัดจังหวะในตอนที่นางกำลังกดนวดให้กับตนเอง เพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หญิงสาวเลื่อนมือจากบริเวณศีรษะไปทั่วเรือนกายของเขาแต่ละสัมผัสจากปลายนิ้ว ช่างเป็นจังหวะที่ออกแรงหนักเบาได้พอดิบพอดี เฉินตงหยางที่กำลังรู้สึกผ่อนคลายค่อยๆหลับตาลง และเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างช้าๆโดยไม่รู้สึกตัว เมื่อโจวลี่หลินเห็นว่าเฉินตงหยางหลับไปแล้ว นางจึงได้พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก บทสนทนาของทั้งคู่ก่อนหน้านี้ใช่ว่านางจะไม่รู้สึกหวาดกลัว แต่เพราะสัญชาตญาณบอกว่าบุรุษผู้นี้ไม่ได้น่าหวาดกลัวอย่างที่นางคิด จึงทำให้หญิงสาวกล้าที่จะท้าทายเขาออกไป "ในที่สุดก็หลับเสียที" โจวลี่หลินหอบหมอนและผ้าห่มมานอนยังตั่งเตียงด้านข้าง ถึงแม้ที่ตรงนี้จะเย็นและแข็ง แต่ก็ยังดีกว่านอนร่วมเตียงกับบุรุษผู้นั้นเป็นไหนๆ นางจึงไม่ลังเลแม้สักนิดที่จะมานอนขดกายอยู่ตรงนี้จนถึงยามเช้าตรู่ เฉินตงหยางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น พบว่าตอนนี้เป็นยามเช้าแล้ว เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะในรอบสามปีที่ผ่านมา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ตนเองนอนหลับสนิท เมื่อเขากวาดสายตาไปทั่วบริเวณภายในห้อง ก็พบกับร่างแบบบางที่นอนขดตัวอยู่ที่ตั่งเตียงด้านข้าง ชายหนุ่มเผลอมองจ้องใบหน้าหวานของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นชายาของตนเองด้วยความคิดที่หลากหลาย แค่เพียงใช้เวลากับนางไม่นาน เขาก็รู้สึกอยากจะค้นหาตัวตนของสตรีผู้นี้ แววตาของนางในขณะที่ทอดมองมายังตน หาได้มีความหวาดกลัวเหมือนกับคนอื่นๆที่ทอดมองมา จะมีผู้ใดบ้างที่ชื่นชอบให้คนอื่นมองมายังตนด้วยสายตากลัวเกรงเช่นนั้น เมื่อเห็นสายตาแบบนั้นบ่อยครั้งเข้า ก็เกิดเป็นความรู้สึกไม่สบอารมณ์และหงุดหงิดใจทุกครั้ง จนทำให้ชายหนุ่มไม่ชอบที่จะออกไปพบปะผู้คน เพราะไม่อยากเห็นสายตาที่มองมาคล้ายกับตนเองเป็นคนดุร้ายให้รู้สึกรำคาญ โจวลี่หลินเองคล้ายกับรับรู้ว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังทอดมองมาที่นาง จากเปลือกตาที่ปิดสนิทจึงค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อเห็นสายตาคมเข้มของบุรุษผู้หนึ่งทอดมองมายังตน และเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ก็ทำให้นางดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับหยัดกายขึ้นมาลุกนั่งตัวตรงทันที "อรุณสวัสดิ์เพคะ" "ถือว่าวิธีของเจ้าได้ผล เปิ่นหวางไม่ได้นอนหลับสนิทเช่นนี้นานแล้ว เมื่อคืนนี้เจ้าบอกว่ายังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับ งั้นก็ไปตระเตรียมเสีย" "หม่อมฉันรู้เพียงว่าอาหารชนิดใดช่วยให้นอนหลับสบาย แต่หม่อมฉันมีปัญหาว่าทำอาหารไม่เป็นเพคะ" คำตอบที่ตรงไปตรงมาของนาง ทำให้เฉินตงหยางหันกลับมาจ้องมองดวงหน้าของนางอีกครั้ง โจวลี่หลินจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป "งั้นก็บอกกับพ่อครัว ถึงวิธีในการปรุงอาหารก็พอ" เมื่อโจวลี่หลินเห็นว่าเขาไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจ นางจึงได้ยกยิ้มกว้างมากกว่าเดิม พร้อมกับเดินเข้ามาปรนนิบัติดูแลสวมใส่อาภรณ์ให้กับเขาด้วยตนเอง เฉินตงหยางที่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังยกยิ้มอย่างมีความสุข ก็เผลอจ้องมองดวงหน้าของนางอย่างลืมตัว สตรีผู้นี้ถือว่ามีดวงหน้าที่งดงาม ถึงแม้จะไม่ได้เรียกว่างามล่มเมือง แต่ก็ดูมีเสน่ห์น่าค้นหา "เหตุใดถึงได้ยกยิ้มดีใจถึงเพียงนั้น เจ้าไม่ได้หวาดกลัวเปิ่นหวางเลยหรือ" "ไม่เพคะ" โจวลี่หลินมองจ้องเข้าไปในดวงตาคมเข้มของเฉินตงหยาง ในขณะที่ตอบเขา ซึ่งคำตอบนี้ถึงกับทำให้ชายหนุ่มหัวใจกระตุกวูบ เมื่อโจวลี่หลินได้เห็นดวงหน้าที่แสดงอาการตกตะลึงของเขาแล้ว นางจึง เข้าใจได้ทันทีว่าที่ตนเองคาดการณ์ไว้นั้นถูกต้องแล้ว บุรุษผู้นี้หาใช่ปีศาจ เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ที่มีหัวใจและต้องการความรักจากผู้คนรอบข้างเช่นคนปกติ "เปิ่นหวางจะให้หลี่กงกงนำสมุดบัญชีในการจัดการตำหนัก และค่าใช้จ่ายทุกอย่างของตำหนักเมฆามาให้เจ้าได้เป็นผู้ดูแล" "ทำไมละเพคะ…!?" "มันเป็นหน้าที่ของเจ้ามิใช่หรือ" เพราะเขาอยากจะรู้ถึงความสามารถในการจัดการเรือนของนาง หากเป็นสตรีที่ดี มีความสามารถ ย่อมต้องดูแลจัดการเรื่องภายในเรือนหลังนี้ได้เป็นอย่างดี ตัวเขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าสตรีผู้นี้มีสิ่งใดให้น่าค้นหาบ้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD