หนีเสือปะจระเข้

1135 Words
          แต่เธอก็พลาดท่า สองอาทิตย์ที่แล้ว ลุงโทรศัพท์มาบอกให้เธอไปรับเงินจำนวนหนึ่งที่ผับ ซึ่งลุงบอกว่าไปงานวันเกิดเพื่อนแต่ป้าจำเป็นต้องใช้เงินด่วน และให้เธอนั่งรถไปรับเงินจำนวนนั้นมาให้ป้าหลังเลิกเรียน ซึ่งวันนั้นเธอมีเรียนเซคชั่นหกโมงครึ่ง กว่าจะเลิกก็สองทุ่มครึ่ง จึงได้นั่งรถไป เมื่อไปถึงลุงก็คะยั้นคะยอให้นั่งและรับประทานอาหาร ด้วยความหิวเธอก็จัดการกับข้าวผัดแหนมที่ลุงสั่งมาให้เสียเรียบก่อนจะดื่มน้ำเปล่าเสียหมดแก้ว           ห้านาทีต่อมา หญิงสาวรู้สึกมึนงงแปลก ๆ มันง่วงงุนผสมร้อนในกาย เธอรังเกียจเสมอเมื่อลุงสัมผัส แต่วันนั้น เธอกลับรู้สึกว่ามันดี เขาเริ่มเข้ามากอด เข้ามาสูดดมความหอมจากเรือนกายสาวแรกรุ่น มือเริ่มตะกรุมตะกรามบีบเคล้นไปทั่ว   เธอปัดป้องเขายิ่งรุกเร้าหนัก ในผับทั้งมืดทั้งเสียงดัง เลยไม่มีใครสนใจ ลุงเริ่มล้วงมือเข้ามาในกระโปรง ตอนนั้นล่ะที่เพียงขวัญรวบรวมสติวิ่งหนีออกมาจากผับนั้น           แล้วเธอก็หนีเสือปะจระเข้ หนีลุงชายปะลุงมาร์ติน !           จะเอายังไงดีหนอ อยู่ที่นี่ก็ไม่ปลอดภัย ออกไปก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี           แต่เธอไม่อยากพลาดท่าเสียทีให้กับลุงเขย ไม่อยากได้ชื่อว่ามีผัวคนเดียวกับป้า ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ที่ป้าแท้ ๆ ไม่เคยมีความรักความห่วงใยให้กับเธอแม้แต่น้อย           ไม่แน่นะ ผู้ชายหน้าฝรั่ง อีตามาร์ตินคนนั้น อาจจะเป็นคนดีก็เป็นได้ หญิงสาวคิดปลอบใจตัวเอง           “ หนูจะไปอยู่กับคุณมาร์ตินค่ะ ” เธอตัดสินใจในวินาทีนั้น           เด็กสาวเก็บข้าวของใส่กระเป๋าลวก ๆ แล้วเดินตามป้าลงไปข้างล่าง ส่วนลุงชายนั้นเดินกลับเข้าห้องไปอย่างไม่พอใจที่เหยื่อชายแก่หัวงูอย่างหลานสาวต้องหลุดมือไป และไม่อยากลงไปพบมาเฟียผู้เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่เบื้องล่าง           “ มาแล้วค่ะคุณมาร์ติน ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ ”           มาร์ติเนซเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง หลังจากที่หญิงกลางคนหายไปราวยี่สิบนาที หลังจากที่กระโดดงับข้อเสนอของเขาอย่างทันควัน แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นห่วงเป็นใยหลานสาวแม้แต่น้อย ราวกับว่าอยากกำจัดไปให้พ้น ๆ           “ ยัยขวัญ สวัสดีคุณมาร์ตินสิลูก ”           เพียงขวัญเงยหน้ามองเขาแล้วกระพุ่มมือทำความเคารพ ดวงตากลมโตแดงก่ำเหมือนคนพึ่งร้องไห้มา ถ้าเขาไม่คิดไปเองเขาว่าร่างบอบบางนั้นสั่นเทาเล็กน้อย           กลัวเขา งั้นเหรอ ?           หรือว่าสั่นอยากจะโดน ?           “ สวัสดีค่ะคุณมาร์ติน ”           เสียงใสเอ่ยทักทายสั่น ๆ เขายกยิ้มมุมปากเพื่อหวังจะ  ผูกสัมพันธ์ให้ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี แต่เธอกลับรู้สึกว่าเหมือนงูเจ้าเล่ห์ที่หวังจะรัดเหยื่อแล้วเขมือบลงท้องเสียมากกว่า           “ สวัสดี หนูเพียงขวัญ ”  แล้วคุณป้ารัตน์ก็รีบชิงร่ายยาวถึงคุณสมบัติหลานสาว           “ เดี๊ยนขอบคุณมากเลยนะคะที่มีจิตใจกรุณา หลานเพียงขวัญของดิฉันคนนี้เป็นเด็กดีมาตลอด ผลการเรียนนี่ไม่เคยได้อันดับมากกว่าที่หนึ่งถึงห้าเลย เรียบร้อย ไม่เถลไถล ยิ่งเรื่องเพื่อนชายนี่ไม่เคยมีเลย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ”           เพียงขวัญเผลอเหลือบสายตามองเขาแว้บหนึ่ง แล้วก็เป็นความคิดอันผิดมหันต์ เมื่อดวงตาคมกริบนั้นมองมาที่เธออยู่แล้ว ความร้อนมันวิ่งปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย นี่กระมังที่เขาเรียกว่ากินปูนร้อนท้อง           ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง งั้นเหรอ ! มุมปากหยักของมาเฟียหนุ่มใหญ่ถูกยกยิ้มขำ ๆ           สาวบริสุทธิ์ที่ไหนจะไปถอดกางเกงในถ่างขาเชิญชวนให้ผู้ชายลองลิ้มแบบนั้นเล่า แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เมื่อคุณป้าแสนดีเล่นละครมา เขาก็ต้องเล่นละครกลับไปเหมือนกัน           “ ดีครับ ถ้ารู้ว่าเป็นเด็กดีแบบนี้ผมก็สบายใจ เพียงขวัญ ต่อไปนี้หนูจะอยู่ในอุปการะของฉัน เราจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ให้หนูเรียกผมว่าแด๊ดดี้หรือไม่ก็ป๋า โอเคนะ ”           “ อ๋อ ที่แปลว่าพ่อใช่ไหมคะ แหมคุณมาร์ตินเนี่ย เป็นพ่อที่อบอุ่นใจดีจริง ๆ ” เสียงแหลมของคุณป้าสอดขึ้นอย่างเอาอกเอาใจ           แด๊ดดี้หรือป๋า มันแปลว่าพ่อ ใช่..           แต่สำหรับคนอย่างเขา เพียงขวัญแน่ใจว่ามันไม่ได้หมายความว่าพ่อเป็นแน่...           พ่อที่ไหนจะทั้งดูดทั้งเลียลูกตัวเองแบบนั้น           พ่อที่ไหนจะแผ่รังสีความร่านร้อนมาทางสายตาให้ลูกสาวตัวเองตลอดเวลาแบบนั้น           แต่เธอไม่มีทางเลือก เขาคือทางสุดท้ายที่จะสามารถพาเธอออกไปจากบ้านนี้ ออกไปจากเงื้อมมือของลุงเขยจอมหื่น           ไม่แน่นะ เขาอาจจะเป็นคนดี รักและเอ็นดูเธอราวกับลูกกับเต้าก็เป็นได้           เพียงขวัญคิดโง่ ๆ ให้ตัวเองสบายใจ ทั้งที่รู้ว่าความเป็นไปได้ของมันพอ ๆ กับที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกนั่นละ           ช่างมันเถอะ เธอพร้อมแล้วที่จะเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คิดได้เช่นนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาดุเฉี่ยวคมกริบนั้นตรง ๆ ก่อนเรียกเขาเสียงหนักแน่น           “ ขอบคุณมากค่ะ ป๋ามาร์ติน ”           ***         “ กลัวอะไรนักหนา ” เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางมองขำ ๆ ที่สาวน้อยเบียดร่างบอบบางของตนเข้ากับประตูรถลีมูซีน    ราคาแพง เธอนั่งตอนหลังคู่มากับเขา           เพียงขวัญหันไปมองเขาแว่บหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบสั้น ๆ           “ หนูไม่ได้กลัว ”           “ ไม่กลัวแล้วไปนั่งเบียดประตูรถทำไม ทีคืนนั้นยังไม่เห็นเป็นแบบนี้ ” ใบหน้าหวานแดงก่ำ ตอบกลับไปปากคอสั่น           “ คืนนั้นหนูไม่รู้ตัว หนู.. เอ่อ.. หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ” มาร์ติเนซกระตุกยิ้มที่มุมปาก           “ ฉันต้องเชื่อเธอใช่ไหม ”           “ ไม่เชื่อก็ตามใจคุณ ”  พลันมือใหญ่ก็เอื้อมคว้าที่เอวบางแล้วยกมานั่งบนตัก เธอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ           “ เธอทำให้ฉันคลั่ง เพียงขวัญ ”           “ หนูไม่รู้ หนูไม่ได้ตั้งใจ ปล่อยหนูนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ ” เธอดิ้นพลางใช้มือทั้งสองดันไปที่แผงอก พยายามดิ้นรนลงจากตักและพันธนาการนั้น แต่ก็ไม่สามารถ           “ อย่าดื้อสิ ”           “ ปล่อยหนู !  ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD