แป๊บๆ การฝึกงานของขนิษฐาและปรัตถกรก็เสร็จสิ้นลงไป หมูน้อยอดใจหายไม่ได้เมื่อวันนี้คือวันสุดท้ายของการฝึกงานแล้ว
“ไป เดี๋ยวพี่พาไปลาท่านรอง”
แม็กกี้เอ่ยกับเด็กฝึกงานทั้งสองคน ก่อนจะเดินนำไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องทำงานของรองประธาน
และเมื่อสหัสนัยได้รู้ว่าผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดสาวสวยพาน้องๆ มาลาเนื่องจากฝึกงานเสร็จสิ้นแล้วก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“วันสุดท้ายแล้วเหรอ เร็วเหมือนกันเนอะ”
“ค่ะ/ครับ”
“แล้วเป้หายดีหรือยัง” ชายหนุ่มหันไปถามปรัตถกรเป็นพิเศษ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ทราบว่าปรัตถกรขอลาป่วยหนึ่งสัปดาห์เพราะถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากหายดีเป็นปกติและฝึกงานมาได้จวนจะครบกำหนดแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ดันมาโดนรถเฉี่ยวจนทำให้ต้องลาป่วยไปอีกสองวัน
ซึ่งอันที่จริงสหัสนัยไม่ได้ซีเรียสเรื่องการลาของน้อง แค่ถามไถ่เพราะห่วงใยเท่านั้นเอง
“หายดีแล้วครับ” ปรัตถกรยังคงตอบแบบถนอมปากถนอมคำเช่นเคย ก่อนจะเหลือบไปมองดูคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วเขาก็ได้เห็นว่าขนิษฐาส่งยิ้มแฉ่งมาให้ เลยส่งยิ้มบางๆ กลับไปให้เธอเช่นกัน
“ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยเนอะ ทั้งเป้ทั้งอ้ายเลย”
“ขอบคุณค่ะ/ครับ” ทั้งขนิษฐาและปรัตถกรเอ่ยออกมาพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง
“พี่ก็ขอบคุณเป้กับอ้ายมากๆ นะครับ ที่มาฝึกงานที่นี่ และก็ช่วยงานพี่ๆ เขาได้เยอะเลย ถ้าเรียนจบแล้วอยากมาทำงานที่นี่ก็ยินดีต้อนรับนะครับ ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จนะ”
พูดจบสหัสนัยก็ยกมือรับไหว้สองเด็กฝึกงานที่ยกมือไหว้ขอบคุณเขาอีกรอบ ก่อนจะหันไปพูดกับลูกน้องของตนเอง
“พี่แม็กซ์มีของอะไรให้น้องหรือเปล่า น้องมาช่วยงานตั้งหลายเดือน”
“มีค่ะ ให้ท่านรองมอบให้น้องได้มั้ยคะ”
“ไม่เป็นไร ฝ่ายมอบเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจพี่ น้องเขาทำงานกับแม็กซ์อยู่แล้ว”
เมื่อได้รับคำสั่งแบบนั้นแม็กกี้จึงไม่อาจคัดค้านได้ เลยรับหน้าที่มอบของที่ระลึกให้น้องๆ ทั้งสองคน
ส่วนสหัสนัยก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ และก่อนที่แม็กกี้จะพาน้องๆ กลับออกไปเขาก็เอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวนะ พี่ไม่มีอะไรให้ เอาอันนี้ไปชอปปิงละกัน” ว่าจบก็ยื่นกระดาษสีสวยให้ขนิษฐาและปรัตถกรคนละหนึ่งใบ
เมื่อรับมาแล้วขนิษฐาถึงได้เห็นว่ามันคือบัตรกำนัลมูลค่าสามพันบาทที่สามารถใช้แทนเงินสดในการซื้อของในห้างสรรพสินค้าได้เลย...
เมื่อถึงช่วงเย็นที่จะต้องกลับบ้านแล้ว ขนิษฐาก็บอกลาพี่ๆ ทุกคนอีกครั้ง ก่อนจะหอบหิ้วเอาของขวัญสามสี่อย่างที่พี่ๆ มีน้ำใจมอบให้เป็นของที่ระลึกเดินออกมาที่ลิฟต์ ที่จริงปรัตถกรอาสาจะช่วยถือมาส่ง แต่หมูน้อยเห็นแล้วว่าเพื่อนเองก็พะรุงพะรังเช่นกัน เลยปฏิเสธไปอย่างนิ่มนวล ปรัตถกรก็ไม่ได้เซ้าซี้และเขาก็ต้องรีบกลับไปดูแลยายที่สุขภาพไม่ค่อยดี
เมื่อเดินมาถึงลิฟต์ รอเพียงไม่นานลิฟต์ก็จอด ครั้นเดินเข้าไปข้างในก็ชะงักนิดหน่อย ก่อนจะส่งยิ้มอย่างอายๆ ให้คนที่อยู่ในนั้นที่ส่งเสียงทุ้มทักทาย
“กลับบ้านแล้วเหรอ”
“กลับแล้วค่า”
“พี่ช่วยถือมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ใครจะกล้าใช้ท่านรองกันเล่า!
สหัสนัยไม่พูดอะไร แต่กลับยื่นมือมาดึงตุ๊กตากับกล่องของขวัญไปถือไว้เสียเอง ขนิษฐาเลยต้องอ้อมแอ้มขอบคุณเขาเสียงแผ่ว
“แล้วกลับยังไง”
“วันนี้เอารถมาค่ะ”
“โอเค เดี๋ยวพี่ไปส่งที่รถ” ชายหนุ่มอาสาอย่างใจดี อีกอย่างเขาเองก็จะไปที่ลานจอดรถอยู่แล้วด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ”
เขาว่าเสียงเรียบพร้อมกับหันมายิ้มให้บางๆ ขนิษฐาเลยปล่อยเลยตามเลย ทั้งสองคนเดินตามกันมาเงียบๆ พอมาถึงรถ สหัสนัยก็ช่วยจัดเก็บสิ่งของที่ถือมาใส่รถให้ขนิษฐาจนเสร็จ
“ขอบคุณท่านรอง เอ่อ พี่เรียวมากๆ เลยนะคะ” ทั้งที่ใจอยากเรียกพี่เรียว แต่ปากมันก็คอยแต่จะพูดว่าท่านรองทุกทีเลยสิน่า
“ยินดีครับ”
“เอ่อ พี่เรียวคะ” สาวน้อยรีบเรียกเขาไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะหันหลังให้
“ครับ?”
“อ้ายขอถามอะไรสักนิดได้ไหมคะ”
“ถามว่า?”
“พี่เรียวหาพี่หุ่นไอรอนแมนเจอได้ยังไงอะคะ” คิดอยู่นานว่าควรถามเขาดีหรือไม่ แต่ไหนๆ วันนี้ก็จะได้เจอกันเป็นวันสุดท้ายแล้ว หมูน้อยเลยไม่อยากปล่อยให้ความสงสัยค้างคาใจ
“พี่เปิดกล้องดูครับ”
“หือ?” คนได้ฟังคำตอบตาโตขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
“หนูวางกระเป๋าไว้บนเก้าอี้ พนักงานคนนึงเดินไปชนของเลยหล่นจากกระเป๋า ตอนที่เขาเก็บกระเป๋าวางไว้ให้ที่เดิมน่ะ คงไม่ได้สังเกตว่าหุ่นยนต์หล่นออกมาด้วย”
“อ้าว...” เมื่อได้ยินดังนั้นหมูน้อยก็หน้ามุ่ย
“ตอนเย็นแม่บ้านมาทำความสะอาด เขาเห็นก็เลยเอาไปใส่ถังขยะ เราถึงหาไม่เจอตอนนั้น พอหนูกลับบ้านไปพี่ก็มาเปิดกล้องดู แล้วก็เก็บมาคืนให้”
สหัสนัยไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะต้องมาสาธยายอะไรยาวเหยียดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรหรอกนะ เพียงแค่รู้สึกแปลกใจตัวเองเล็กน้อยเท่านั้นเอง
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ”
“ทีหลังต้องเก็บของไว้ในลิ้นชักดีๆ รู้มั้ย” อดไม่ได้ที่จะดุแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่ได้มาฝึกงานด้วยแล้วก็ตาม
งื้อ โดนดุเลย...
ฝ่ายหมูน้อยก็ได้แต่ทำหน้าหงอย ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ แล้วรับปากเสียงแผ่วอย่างประจบ
“รู้แล้วค่า”
พอได้ยินอย่างนั้นพี่เรียวก็ยิ้มบางๆ แล้วหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้หมูน้อยมองตามหลังตาละห้อย และเมื่อคิดได้ว่าน่าจะไม่ได้มาที่นี่อีกแล้วก็ให้รู้สึกเหงาหงอยยิ่งกว่าเดิม
จะอดใจไม่ให้คิดถึงได้ไหมนะ...