กะจะวิ่งกลับไปที่อพาร์ตเม้นต์ เดาเอาว่าเดวีคงจะรอเขาอยู่ที่นั่น แต่ผิดคาด แค่วิ่งออกมายังอาคารส่วนหน้า เขาก็เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คุ้นตานั่งไขว่ห้าง เล่นกับใบไม้ในกระถางตกแต่งรออยู่อย่างสบายอารมณ์ เจ้าอรุณชะงักฝีเท้ากึก หยุดยืนหายใจหอบฮั่กก่อนจะออกปากเรียกเสียงดัง “เดวี!” เดวีหันไปมองตามต้นเสียง พอเห็นว่าเป็นเจ้าอรุณก็ยิ้มเผล่ “ฉันบอกแล้วใช่ไหมที่รักว่าเดี๋ยวนายจะต้องเรียกหาฉันใจแทบขาดแน่ๆ” เรียกหาน่ะใช่ แต่ไอ้ที่ขาดน่ะไม่ใช่ใจ เป็นหัวนายต่างหาก! รู้อยู่แล้วแต่แรกแน่ๆ ว่าต้องเป็นแบบนี้ ไอ้เจ้าเล่ห์เอ๊ย! เจ้าอรุณก้าวอาดๆ มาหยุดตรงหน้าเดวี คุมอารมณ์ตัวเองอย่างสุดความสามารถไม่ให้ไปกระชากคอเสื้อคนตรงหน้า พลันถามเสียงขุ่น “นายทำอะไรกับเถาวัลย์ในเรือนกระจกไม่ทราบ” แน่นอนว่านอกจากถามเสียงขุ่นแล้วยังถามเสียงเบาด้วยเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน เดวียังคงยิ้มยั่ว พลันส่ายหน้าพรืด “ไม่ได้ทำอะไรสัก