ฉันก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่รู้ว่าเขาเป็นถึงหนุ่มฮอตของมหาลัยแอลเพราะถึงเขาจะนิ่งแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่เขาหล่อมากๆ หล่อแบบหาตัวจับยากมากที่แปลกใจว่าอันดับ 9 ยังหล่อขนาดนี้ไม่อยากจะคิดถึงอันดับต้นๆ เลยว่าจะหล่อขนาดไหน
“เป็นไงหนุ่มฮอตอันดับ 9 ของมอแอลพอจะเทียบความหล่อของพี่อัศวินได้ไหม”นิด้ากระแซะไหล่พร้อมถามอย่างมีเลศนัยเพราะเห็นกาแฟเอาแต่มองตามแผ่นหลังของพี่นักรบ
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่หล่อ”
“จ้ะแม่คนสวย”
ฉันยกยิ้มก่อนจะไขว่ห้างจิบเหล้ารสแรงผ่านลำคอช่วงนี้มีแต่อะไรให้คิดได้มาผ่อนคลายก็ดีเหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องของพี่วินฉันกำลังชั่งใจว่าควรเล่าให้เพื่อนฟังดีไหม
“มาเที่ยวนะทำไมทำหน้าเครียด”
“มีเรื่องให้คิด”
“เล่าได้นะ”
“อืม ก็ไม่มีอะไรมากเมื่อคุณตาบอกว่าอัศวินอยากหมั้นกับฉัน!”
“ห๊ะ..มะ..หมั้นหรอ”
“อืม”
ฉันตอบเพื่อนด้วยท่าทางเรียบเฉยแต่แอบแปลกใจกับใบหน้าตื่นตระหนกของนิด้ามากปกติเธอจะแค่รับฟังยิ้มและทำหน้าปลงตกแต่พอเป็นเรื่องนี้เพื่อนกลับแสดงสีหน้าอย่างชัดเจน
“เรื่องเป็นอย่างนี้”ฉันตัดสินใจเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้เพื่อนฟัง
วันนี้เป็นวันหยุดไม่มีเรียนแต่ยังไงก็ต้องตื่นเช้าอยู่ดีเพราะคุณตาเป็นคนเคร่งในกฎระเบียบบ้านที่อยู่ตอนนี้เป็นบ้านของตาบุญธรรมที่รับฉันมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กและให้ใช้นามสกุลเดียวกันกับท่านฉันถือว่าโชคดีมากที่ถูกท่านรับมาเลี้ยงเพียงเพราะตาแท้ๆ ของฉันเป็นเพื่อนกับท่าน
มองห้องนอนหรูหราที่อาศัยมาตั้งแต่เด็กแล้วอดเศร้าไม่ได้ถ้าพ่อกับแม่ยังอยู่ฉันคงมีความสุขมากกว่านี้ภายนอกฉันต้องสวย ฉลาด เก่งมีความเป็นผู้ดีใครจะรู้ว่าภายในฉันก็อยากเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาเท่านั้น
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณตา” ฉันเอ่ยทักทายคุณตาที่แสนเงียบขรึมท่านเพียงพยักหน้าก่อนจะก้มอ่านหนังสือพิมพ์ในมือต่อ
หลายคนอาจจะคิดว่าท่านดูเย็นชาแต่สำหรับฉันนี้ถือว่าท่านอารมณ์ดีได้ยินจากเลขาคุณตาว่าวาโยเริ่มกลับมาคุยกับท่านแล้วทั้งที่ท่านเฝ้ารอมาตั้งหลายปีตอนเด็กมีโอกาสได้เจอวาโยอยู่บ้างแต่พอโตขึ้นเรียนมหาลัยเดียวกันฉันก็พยายามผูกมิตรด้วยยังไงก็ถือว่าเป็นพี่น้องกันแต่หมอนี่กลับนิสัยแย่เกินเยียวยาฉันเลยขี้เกียจพูดกับเขา
“ได้ยินว่าจะไปเที่ยวหรอคืนนี้” คุณตาถามขึ้นมาแล้วไอ้คำว่าได้ยินนี่ตาได้ยินมาจากใครกัน
กึก!
ฉันที่กำลังจะยกน้ำส้มขึ้นจิบเป็นอันต้องวางลงก่อนจะปรับสีหน้าให้ปกติและเอ่ยตอบ
“ใช่ค่ะ..แฟมีนัดกับนิด้าคุณตาจำนิด้าเพื่อนสมัยเรียนไฮสคูลแฟได้ไหมตอนนี้เธอเรียนที่มหาลัยแอลค่ะ”
“ตาพอจะคุ้นอยู่บ้าง”
“นิด้าน่ารักและนิสัยดีมากๆ เลยนะคะ”
“ก็ดีเราจะได้มีเพื่อนบ้างเห็นวินบ่นว่าเพื่อนน้อย” เมื่อคุณตาเอ่ยจบฉันเป็นต้องขมวดคิ้วทันทีทำไมต้องพูดถึงด้วยเนี่ย
“พี่วินก็แบบนี้แหละห่วงแฟไม่เข้าเรื่อง”
“นี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าวินคิดยังไงกับเราน่ะ…ตอนแรกตาคิดว่าเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กวินอาจจะไม่รู้ใจตัวเองแต่ผ่านมาหลายปีก็ยังไม่เปลี่ยนใจเลยนะ”เกิดความเงียบขึ้นมาสักพักฉันถอนหายใจเมื่อคุณตาพูดมาขนาดนี้มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
“แต่แฟไม่ชอบ”
“ตาก็ไม่ได้บังคับแต่ในอนาคตเราต้องเลือกคนดีๆ เข้ามาในชีวิตรู้ไหม…อีกอย่างวินก็เป็นทางเลือกที่ดีตารู้ว่าวินจะดูแลเราได้”
ใช่สิ ก็พี่วินเป็นหลานคุณหนิฉันเข้าใจดีว่าท่านรักฉันดั่งหลานแท้ๆ เพราะยังไงก็เลี้ยงมาแต่กับพี่วินมันไม่ได้จริงๆ นะฉันมองเขาเป็นพี่ชาย
“แต่แฟ..”
“อย่าพึ่งตัดสินใจเลยลองให้โอกาสวินดูก่อนเมื่อวานวินเข้ามาพูดกับตาเรื่องนี้เพราะอีกปีเดียววินก็จบตาเลยไม่อยากปิดบัง”พอคุณตาเปิดมาแบบนี้ฉันเลยได้แต่เข่นเขี้ยวในใจว่าพี่วินมันไปพูดอะไรไร้สาระอีก
“วินบอกอยากหมั้นกับแฟ”
“ห๊ะ..หมั้นหรอคะ” ฉันเบิกตากว้างถามย้อนคุณตาเสียงดังจะไม่ให้ตกใจได้ยังไงฉันพึ่งจะยี่สิบกำลังจะยี่สิบเอ็ดเองนะการที่มาพูดเรื่องหมั้นออกจะเร็วไปมันดูเหมือนเขาต้องการมัดมือชกฉันมากว่า
ถึงว่าทำไมช่วงนี้ไม่เจอเพราะมีแผนนี่เองฉันขบฟันแน่นด้วยความโมโห
“ใช่..เราลองพิจารณาดูก่อนนะถึงตาจะหวงเราแต่ถ้าเป็นวินตาก็โอเค”
แน่สิ..ก็พี่วินหลานแท้ๆ ตาหนิ!
“อาหารเช้ามาแล้วค่ะ” ไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันต่อแม่บ้านก็ยกอาหารเข้ามาตั้งบนโต๊ะทำให้บทสนทนาทั้งหมดต้องหยุดลงและตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารจนจบมื้อเช้าคุณตาก็ออกไปข้างนอกทันทีเห็นว่ามีนัดกับเพื่อนนักธุรกิจ
“เดี๋ยวแฟไปส่งค่ะ” ฉันรีบวิ่งไปหยิบเสื้อสูทของคุณตามาถือก่อนจะวิ่งตามไปส่งที่หน้าคฤหาสน์เหมือนที่ทำเป็นประจำสักพักคนขับรถก็ลงมาเปิดประตูรถให้คุณตา
“ขอบใจมากหลานรักดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”ท่านวางมือลงบนผมยาวสลวยของฉัน
“ค่า อยู่บ้านตัวเองไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ”
“ก็ดี..แต่อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ”ฉันหุบยิ้มลงทันทีเมื่อตาเอ่ยถึงเรื่องของพี่วินเมื่อเห็นฉันหน้าบึ้งท่านก็หัวเราะ
“เอาน่าลองเปิดใจดู..ตาไปแล้วนะ”ท่าทางอารมณ์ดีของท่านทำให้ฉันฝืนยิ้มให้ถึงแม้เรื่องที่ท่านเอ่ยขึ้นมาจะทำให้ฉันไม่สบอารมณ์เลยก็ตาม
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“มีอะไร”
“เอ่อ..ไม่มีค่ะแฮร่” ฉันกลืนถามลงคอก่อนจะเผยยิ้มแห้งให้คุณตาออกไปท่านทำเพียงส่ายหัวก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งในรถ
เมื่อรถยนต์คันหรูจากยุโรปเคลื่อนออกจากคฤหาสน์แล้วฉันเลยรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องทันทีเกือบแล้วเมื่อกี้เกือบลืมตัวถามออกไปแล้วว่าถ้าฉันมีแฟนตาจะยัดเหยียดพี่วินให้อยู่ไหมแต่ถ้าถามออกไปตอนนั้นมีหวังท่านได้สงสัยแน่ดังนั้นฉันเลยไม่ถามและกลับมาคิดทบทวนวางแผนก่อนดีกว่า
ฉันไม่มีทางยอมหมั้นกับอัศวินแน่!!!!
“เรื่องก็มีเท่านี้แหละ”ฉันเล่าจบพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมาจรดริมฝีปากเพราะรู้สึกคอแห้ง
“ละ..แล้ว..แกจะหมั้นไหม”เพื่อนถามเสียงแผ่วนัยน์ตาหวานดูวิตกกังวลอย่างชัดเจน
“ไม่มีทาง!”ฉันตอบอย่างมั่นใจ
“งั้นหรอ..แล้วถ้าที่บ้านบังคับล่ะ”
“ไม่มีใครบังคับฉันได้อยู่แล้ว” เพราะในบ้านคนที่ใหญ่ที่สุดคือคุณตาแม้ว่าป้าดวงลูกสาวของท่านจะรักและตามใจลูกชายอย่างพี่วินมากแต่ก็ไม่มีทางเห็นด้วยกับเรื่องหมั้นหรอเพราะฉันมันคนไม่มีอะไรเขาจะอยากได้ฉันเป็นสะใภ้ทำไม
“แกอย่ามั่นใจไปพี่วินเขาดู..รักแกมากๆ ยังไงเขาต้องหาทางให้หมั้นให้ได้”นิด้าเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจเหมือนเธอรู้จักพี่วินแต่เปล่าเลยทั้งคู่แทบไม่เคยจะคุยกัน
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ”
“แกมีแฟนดีไหม”
“ห๊ารวดเร็วขนาดนี้เลย”
“อืม ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี..ไม่ใช่หรอ”นิด้าตอบหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับสั่นไหวจนฉันจับสัมผัสได้เลยยกแก้วขึ้นมาจิบพร้อมกับผินหน้าออกไปมองบรรยากาศ
“ตกลงว่ายังไง..ที่ฉันเสนอไปน่ะมันก็เป็นความคิดที่ดีนะไม่ต้องมีจริงๆ ก็ดีแค่ให้พี่วินตัดใจจากแกก็พอ”
“อืม ก็น่าคิดนะเพราะถ้าจะให้รีบมีแฟนในตอนนี้ฉันคิดว่าอาจจะเร็วไปแต่ถ้าแฟนหลอกๆ ก็พอได้”ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอ
“ฉันว่าแล้วว่าคนฉลาดอย่างแกต้องตัดสินใจได้ว่าแต่มองๆ วันนี้เลยก็ดีนะที่นี่แหล่งรวมของดีมอแอลเลยล่ะ” นิด้าวางแก้วเหล้าพร้อมกับเสนอความคิดออกมาอีกครั้งอย่างกระตือรือร้น
กึก! ฉันวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับฉีกยิ้มหวานออกมาให้เพื่อนสาว
“เอาไว้ก่อนงานดีแค่ไหนฉันก็ต้องคิดให้รอบคอบ”
“ลืมไปว่าแกมันเลือกเยอะคุณหนูกาแฟ”
“ใช่ค่า อย่างฉันถึงจะเลือกปลอมๆ ก็ต้องคิดเยอะเป็นธรรมดา” ฉันจีบปากจีบคอตอบก่อนจะสะบัดผมไปหนึ่งที
“งั้นมาชนแก้วกันหน่อย”
“มาๆๆๆ”
กริ้งงง!!