บทบรรยาย โฮคิ
คืนนั้น...
“ยกเลิกคำสั่งซะ”
ผมพูดเสียงเรียบพลางจ้องหน้า ‘คุรัน’ เจ้าของรูปร่างสูงโปร่งเบื้องหน้าที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ราคาเหยียบล้านข้างกายของมันขนาบด้วยผู้หญิงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น ขณะที่มันนั่งพ่นควันบุหรี่อย่างสบายใจและทำราวกับไม่เห็นหรือได้ยินที่ผมพูด
“เปล่าประโยชน์น่าโฮคิ ไสหัวกลับไปๆ”
เสียงนี้เป็นเสียงหนึ่งในลูกน้องของมันซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังของผม ผมไม่ได้หันหลังกลับไปมองแต่จับจ้องไปยังบุคคลเบื้องหน้าที่ทำท่าทีเหมือนผมเป็นเพียงเศษละอองที่มองไม่เห็น
คุรันคือหัวหน้าของผมและทุกคนในที่นี้ซึ่งเป็น มือกำจัด หรือ นักฆ่า มันมีอำนาจใหญ่โตและเป็นที่เคารพสำหรับทุกคน อายุของมันแค่สามสิบต้นๆ เท่านั้น อีกทั้งยังชอบหิ้วผู้หญิงอายุสิบกว่ายี่สิบกว่าไปปรนเปรอตัวเอง แน่นอน...ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธมันได้ เพราะถ้าใครขัดขืนหรือปฏิเสธมัน มันจะฆ่าทิ้งทันทีอย่างไม่ลังเล
นอกจากนี้มันยังมีอำนาจมากเป็นอันดับต้นๆ ในตลาดมืด ถึงแม้อายุของมันจะยังน้อยแต่ความสามารถในทุกๆ ด้านของมันมีเกินอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำลายล้างและการเข่นฆ่า แต่ไม่ว่ามันจะมีอำนาจใหญ่โตและเป็นหัวหน้าของผม ผมก็ใช่จะเห็นด้วยกับการตัดสินใจทุกอย่างที่มันต้องการ
“คุรัน ยกเลิกคำสั่งฆ่าซะ” ผมพูดอีกครั้งพร้อมก้าวเท้าเข้าไปใกล้มันมากขึ้น ทว่าต้องชะงักเมื่อลูกน้องของมันจำนวนเกือบสิบพร้อมใจกันขวางทางผม ผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ การจะเข้าไปอยู่ในรัศมีห้าสิบเมตรของมันถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะตลอดเวลา...ลูกน้องของมันจะคอยปกป้องรอบทิศรอบด้านราวกับเกราะกำบัง
เช่นเดียวกัน...ถึงแม้ว่าผมจะรู้จักและทำงานให้มันมาหลายปี ทว่าผมเองก็ได้แต่ยืนคุยกับมันในระยะหกสิบเมตรเท่านั้น
“ถ้าแกไม่ทำฉันก็ไม่ว่า แต่ไอ้ที่มาให้ยกเลิกงานเนี่ย...แกว่ามันถูกต้องเหรอโฮคิ?” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหน้าซึ่งถูกลูกน้องจำนวนเกือบสิบบังเอาไว้ หากไม่นานลูกน้องของมันก็เคลื่อนตัวออกไปเมื่อคุรันส่งสัญญาณบางอย่าง มันมองหน้าผมด้วยแววตาดูแคลนขณะที่ในปากของคาบบุหรี่เอาไว้
ผมไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงซึ่งในกระเป๋าที่ผมล้วงอยู่นั้นเป็นรูปของเหยื่อรายล่าสุด ก่อนหน้านี้หกชั่วโมงผมได้รับคำสั่งฆ่าจากมันและแน่นอนว่าผมสนใจเพราะค่าหัวรายนี้มีจำนวนเงินเป็นแสน ทว่าผมกลับต้องปฏิเสธงานไปเมื่อเหยื่อที่ว่าดันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบทำท่าทางแปลกๆ เวลาเจอหน้าผม
ใช่...ผมจำได้ตอนที่ไอ้คินโซเรียกเธอ เธอมีชื่อว่าสีเทียน ผมไม่รู้ว่าสีเทียนไปก่อเรื่องอะไรไว้ ทำไมอยู่ๆ ถึงมีคนอยากจะกำจัด ผมปฏิเสธไป อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมผมต้องทำแบบนี้ ผมไม่รู้เหตุผลอะไรทั้งนั้น รู้เพียงอย่างเดียวคือไม่อยากฆ่าเธอ
ทว่าเมื่อผมปฏิเสธงานไป คุรันกลับยกหน้าที่นี้ให้กับคินโซ มือกำจัดอันดับหนึ่งของที่นี่ ไอ้คินโซไม่รั้งรอและรีบคว้าโอกาสเอาไว้ หลังจากที่มันได้รับคำสั่งแทนผมมันก็ออกจากที่นี่ไปทันทีพร้อมกับปืนชนิดพิเศษซึ่งสามารถเก็บเสียงได้ ตอนนั้นผมพยายามจะเข้าไปขัดขวางมัน ทว่าผมกลับถูกสกัดด้วยลูกน้องของคุรันก่อนจะถูกเล่นงานจนได้แผลไปทั้งตัว
แต่ดีเมื่อหลังจากที่พวกมันปล่อยผม ผมก็สามารถตามตัวคินโซเจอและพบว่ามันกำลังนั่งคุยกับสีเทียน จังหวะที่ผมไปถึงคือจังหวะที่มันกำลังล้วงปืนออกมาจากกระเป๋า ยังดีที่ผมเรียกห้ามมันได้ทันเวลาและนั่นทำให้สีเทียนปลอดภัย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าสีเทียนไม่สมควรจะเป็นเหยื่อ เธอดูบริสุทธิ์และสดใส สิ่งเหล่านั้นทำให้ผมมองว่าชีวิตของเธอมีค่า เหตุนั้นจึงต้องบอกให้เธออยู่ใกล้ผมเอาไว้เพราะไอ้คินโซมันไม่มีวันทิ้งงานที่ตนเองได้รับคำสั่งและต้องกลับมาเอาชีวิตของเธออีกครั้งเป็นแน่
ถือว่าดีที่ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ที่เดียวกับผมแล้ว ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกไม่ไว้วางใจเลยรอให้เธอหลับแล้วมาหาคุรันอีกครั้ง แน่นอนว่าผมไม่ได้ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ผมฝากเธอไว้กับไอ้ลิมซึ่งมันก็เพิ่งจะรู้จากปากผมไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
อ้อ...ลืมบอกไป ไอ้ลิมเองก็เป็นมือกำจัดเหมือนผมและไอ้คินโซ มันเป็นอันดับสามของที่นี่ ผมเป็นดับสอง และแน่นอนว่าอันดับหนึ่งคือไอ้คินโซ...
“ยกเลิกซะ” ผมย้ำคำเดิม คุรันกระตุกยิ้มก่อนยกขายาวๆ พาดบนโต๊ะด้านหน้าที่วางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมาย ตาข้างหนึ่งของมันจ้องมองผมคล้ายกับมีความหมายซุกซ่อนอยู่ ส่วนอีกข้างหนึ่ง...ผมไม่รู้ เพราะมีผ้าสีดำปิดตาของมันเอาไว้ ผมไม่เคยเห็นว่าตาข้างที่ถูกปิดด้วยผ้านั้นเป็นเช่นไร มีบาดแผลหรือยังไง เพราะตั้งแต่ที่ผมเข้ามาอยู่ที่นี่ผมก็เห็นมันเป็นแบบนั้นแล้ว
“หุบปากแล้วอยู่เงียบๆ ดีกว่าโฮคิ แค่ชีวิตเด็กผู้หญิงคนเดียวแกจะแคร์อะไร” มันว่าพลางจ้องหน้าผม แววตาของมันเป็นประกายเล็กน้อยราวกับหยั่งรู้บางสิ่ง “หรือว่าแกเกิดตกหลุมรักความไร้เดียงสาของยัยนั่นเข้าล่ะ?”
สิ้นเสียงของคุรัน ภายในห้องโถงกว้างนี่ก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลัง พวกมันทั้งหมดต่างก็หัวเราะคิกคักราวกับคำพูดของคุรันเป็นเรื่องน่าขัน
ตกหลุมรัก...เหรอ?
คนอย่างผมจะไปมีไอ้ความรู้สึกแบบนั้นได้ยังไง ตั้งแต่เกิดมาสิ่งที่ผมคุ้นเคยมีแค่ซากศพและคาวเลือด ผมทำร้ายคน ฆ่าคนมามากมายนับไม่ถ้วน มือของผมแปดเปื้อนแต่สิ่งสกปรกเฉกเช่นความคิดและหัวใจ ความรู้สึกรักใคร่อะไรแบบนั้นผมไม่รู้จักหรอก
“หุบปาก” ผมพูดเสียงเย็นพลางเหลือบตามองรอบกายของตนเองอย่างไม่สบอารมณ์ บางคนหลบสายตาของผม แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ผมพูดเท่าไหร่ กลับกัน...มันกลับไหวไหล่เหมือนคำพูดของผมคือฝุ่นละอองที่ไม่สะทกผิวหนัง
“หึหึ งานนี้ท่าจะยากแล้วสิคินซ์...เหยื่อของนายดันเป็นคนรักของหมายเลขสองซะได้” คุรันเหลือบตาไปยังร่างสูงที่สวมด้วยชุดไปรเวทธรรมดาซึ่งยืนกอดอกพิงกับผนังอยู่มุมหนึ่งของห้อง
ใช่ มันคือไอ้คินโซ แต่คุรันเรียกมันสั้นๆ ว่า ‘คินซ์’
“ผมก็เห็นอยู่...ออกโรงปกป้องซะยกใหญ่ น่าขำชะมัด” ไอ้คินโซส่ายหน้าไปมาพลางหัวเราะในลำคอ ผมตวัดสายตามองมันครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะหันกลับมามองด้านหน้า เพราะถ้าผมสามารถทำให้คุรันยกเลิกคำสั่งฆ่าได้ ไอ้คินโซเองก็จะไม่ทำ
“ยกเลิกคำสั่งฆ่าซะ...คุรัน” ผมยังพูดด้วยประโยคเดิมเช่นเคย จนคุรันหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วลุกจากที่นั่ง ทุกคนเงียบแล้วมองคุรันตาไม่กะพริบ มันก้าวเท้าเข้ามาหาก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าผม
ระยะห่างไม่ถึงเมตร...
“ทำไม ฉันขอเหตุผลดีๆ สักข้อหน่อยสิ ทำไมแกถึงอยากให้ฉันยกเลิกคำสั่งฆ่า?” คุรันถาม มันจ้องหน้าผมอย่างเค้นคำตอบ แววตากดดันนั่นกำลังนึกสนุก เชื่อไหมว่าทุกคนในที่นี้ต่างก็เงียบ อาจเพราะคุรันไม่เคยเดินเข้าหาใครเองล่ะมั้ง เฮอะ ผมล่ะโคตรตื้นตัน...
“ไม่มี” ผมตอบไปเช่นนั้น ทว่าไม่ถึงเสี้ยววินาทีหลังจากที่ผมตอบออกไป มันก็กระชากคอเสื้อของผมพลางจ้องด้วยแววตาที่แปรเปลี่ยนจากเดิม ตอนนี้แววตาของมันดุดัน
“ฉันรู้สึกว่าแกชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้วนะโฮคิ นอกจากจะขัดงานคนอื่นแล้วยังไม่มีเหตุผลอะไรอีก” มันกดเสียงต่ำ ดวงตาของมันเริ่มแดงก่ำแสดงออกถึงความโกรธ แต่ผมเพียงแค่มองหน้ามันนิ่งเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรแม้แต่น้อย
“เหตุผล”
“...”
“ก็เหมือนกับการฆ่า...” ผมเอ่ยพลางกระตุกริมฝีปาก คุรันขมวดคิ้วเล็กน้อย ผมจึงต้องต่อประประโยคเพื่อให้มันเข้าใจ “จะฆ่าใครไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล และถ้าฉันไม่อยากฆ่า...เหตุผลมันก็ไม่ได้สำคัญ”
“หึ...พัฒนาขึ้นเยอะเลยนะโฮคิ” คุรันปล่อยคอเสื้อผมก่อนผลักออกจากตัว “แต่ฉันก็คงต้องยืมสิ่งที่นายพูดมาพูดเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน”
“...”
“ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยกเลิกคำสั่งฆ่า”
พูดจบ มันก็หันหลังกลับไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ทันที เพียงเท่านี้ผมก็รู้แล้วว่ามันจะไม่ยอมยกเลิกคำสั่งฆ่าแน่นอน แววตามุ่งมั่นนั่นคือแววตาของนักล่าของแท้ คุรันคือคนที่ยึดมั่นกับการตัดสินใจของตนเองและเลือดเย็นได้น่ากลัวที่สุด
ห้ามมันไม่ได้...
ผมมองแผ่นหลังของมันนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันกลับไปยังประตูทางออกของที่นี่ทันที ผมว่าผมควรทำอะไรสักอย่าง...สินะ
จบบทบรรยาย โฮคิ