“หลบไป”
ชลธรจำต้องเดินเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง แล้วให้ลูกน้องยืนรออยู่ข้างนอก
มันผิดแผนที่เขาวางมาไปหมดเลย ทั้งที่เขาตั้งใจจะแค่มารับตัวเธอแล้วกลับไปโดยให้ลูกน้องเป็นคนทำทุกอย่าง
แต่ไงเขาต้องมาดูเธอถึงในห้องนอนและเหมือนจะต้องแบกเธอออกไปเองเพราะลูกน้องดูจะกลัวแม่มาเฟียสาวกันจนหัวหดไปหมดแล้ว
“ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้นอนวะ”
แสงไฟที่ยังคงถูกเปิดจ้าเอาไว้ภายในห้องนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวทำให้คนมาเยือนอย่างเขานั้นได้เห็นผิวขาวๆ นมอวบๆ ของเธอเต็มสองตาเลย
ทำเอาเขาต้องเบือนหน้าหลบไปทางอื่นแทบไม่ทัน เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเจอเธอใส่ชุดนอนที่เป็นสายเดี่ยวกับกางเกงตัวสั้นแค่คืบแบบนี้
“แล้วทำไมไม่ห่มผ้าวะเนี้ย ไอ้ภากรมันเลี้ยงลูกยังไงของมันวะ”
เขายังคงหันหน้าไปทางอื่นไม่มองเธอ แต่มือกลับลงไปคลำหาผ้าห่มบนเตียงของเธอเพื่อจะเอามาห่อตัวเธอเอาไว้ก่อน
ค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรเพราะร่างบอบบางที่แทบจะโป้ทั้งตัวนั้นดันนอนทับผ้าห่มเอาไว้
แต่มันก็ไม่เกินความสามารถของเขา จัดการยกปลายผ้าห่มทั้งสองด้านขึ้นมาแล้วห่อเธอเอาไว้เหมือนห่อขนม
จับผ้าห่มห่อเธอจนแน่นหน้าเหมือนมันมี่ในสุสานเรียบร้อยแล้วก็อุ้มเธอเดินออกมาจากภายในห้องนอน แล้วพาออกจากบ้าน
เขาพาเธอไปขึ้นรถที่ให้ลูกน้องขับมาจอดรออยู่แถวๆ หน้าบ้านของเธอ และรีบพาตัวเธอออกไปที่ท่าเรืออย่างรวดเร็ว
“พวกมึงอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่ให้ดี มีอะไรให้รายงานกูทุกอย่าง”
ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เขาก็พาเธอที่ยังคงหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยานอนหลับมาถึงท่าเรือ
รีบพาร่างมัมมี่ของเธอนั้นขึ้นไปยังเรือของเขาที่จอดเทียบท่ารออยู่ โดยไม่ได้ให้ลูกน้องของเขาตามขึ้นไปด้วย
เพราะคนทั้งห้าและอีกห้าคนที่อยู่รออยู่ในบ้านพักสุดลึกลับของเขาจะต้องอยู่ที่นี่คอยดูแลภากรเอาไว้ ไม่ให้ภากรได้รับอันตรายอะไรเป็นอันขาด
ไม่ว่าธุรกิจของภากรจะเหลือหรือไม่เหลือแต่ชีวิตของมันจะต้องมีต่อไป เพราะเขาในฐานะเพื่อนจะไม่ยอมให้มันตายง่ายๆ
แต่เพราะภากรห้ามไม่ให้เขาช่วยเหลือเอาไว้ ก็เลยจำต้องส่งลูกน้องติดตามคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ แบบนั้น
ส่วนหญิงสาวนั้นเขาจะพาเดินทางกลับไปที่เกาะด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องคอยติดตาม
เพราะแค่เดินทางไปชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเข้าอาณาเขตของเขาที่มีลูกน้องลาดตระเวนอยู่ แค่นั้นเขากับเธอก็จะปลอดภัยเหมือนอยู่บ้านแล้ว
“นายหัวโชคดีนะครับ เดินทางปลอดภัย และมีความสุขกับเมียมากๆ นะครับ”
ซาลลูกน้องที่ค่อนข้างสนิทกับนายหัวชลธรมากที่สุดคนหนึ่งเอ่ยบอกลาผู้เป็นเจ้านาย
เพราะเห็นว่าเจ้านายได้มีทั้งขาวทั้งสาวก็อดไม่ได้ที่จะอวยพรให้ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่
ด้วยหน้าที่ครั้งนี้อาจอยู่บนฝั่งนาน เกรงว่าจะกลับไปไม่ทันคืนเข้าหอของนายหัวชลธรเขาเลยต้องรีบอวยพรออกมาก่อน
“ไอ้ซาล หุบปากไปเลยมึงก่อนจะถูกส้นตีนยัดปาก”
เขาตวาดลูกน้องเสียงดังลั่นพร้อมกับหมายจะขึ้นจากเรือมาไล่เตะปากมันให้แตก ให้เลือกกกปากเผื่อว่ามันจะรู้จักหุบปากลงไปบ้าง
แต่ซาลกลับวิ่งหนีไปขึ้นรถเสียก่อนเลยทำให้เขาได้ตั้งท่าจะเตะแต่ก็ไม่ได้เตะ
เมื่อลูกน้องวิ่งหนีไปแบบนั้นแล้วเขาก็กลับมาประจำที่คนขับเรือ แล้วขับเรือออกจากท่าจอดไป
เพราะถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ กว่าจะเดินทางถึงเกาะอาจจะเจอกับแดดร้อนตอนเที่ยงวันก็เป็นได้ และลูกของไอ้ภากรอาจจะตื่นก่อนจะถึงเกาะก็เป็นได้ด้วยยานอนหลับมันออกฤทธิ์แค่ไม่กี่ชั่วโมงแค่นั้นเอง
“ยินดีต้อนรับสู่เกาะของฉัน ขอให้มีชีวิตรอดไปให้ได้ก็แล้วกัน”
ขับเรือไปเขาก็จิบเหล้าไปเพื่อฆ่าเวลาไป ผ่านไปห้าชั่วโมงในการนั่งเรือตกหมึกความเมาก็เริ่มได้ที่ เขาก็ขับเรือกลับมาถึงเกาะพอดี
เขากล่าวต้อนรับเธอเล็กน้อยก่อนจะให้ลูกน้องพาตัวเธอไปขังไว้ที่บ้านไม้ริมหาดห่างไกลบ้านคนงานคนอื่นๆ
และให้ลูกน้องเป็นคนคอยเฝ้าดูแลเธอเอาไว้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมาแล้วหนีไปได้ และก็ดูแลความปลอดภัยให้กับเธอ
ถึงเธอจะเป็นลูกมาเฟีย ถูกฝึกอะไรหลายๆ อย่างมาแบบมาเฟีย แต่ทว่าการใช้ชีวิตบนเกาะที่มันห่างไกลความเจริญแบบขั้นสุดแบบนี้ มันก็คงไม่ง่ายสำหรับเธอที่สบายมาทั้งชีวิต เขาในฐานะเจ้าของเกาะก็ขอให้เธอโชคดีรอดตายไปจนกว่าพ่อเธอจะมารับก็แล้วกัน
แล้วเขาก็แยกตัวไปพักผ่อนยังบ้านพักส่วนตัวที่อยู่ห่างออกไป เพราะความเมามาย
แต่ถึงจะห่างไกลจากจุดที่เขาขังเธอเอาไว้ แต่ทว่าเขาก็กลับมองเห็นเธออยู่ดีด้วยบ้านพักของเขาตั้งอยู่สูงกว่าตรงจุดนี้มาก
เขาไม่ได้จะปล่อยเธออยู่กับลูกน้องของเขาตามลำพังหรอก เพราะเธอร้านเกินกว่าจะไว้ใจได้ง่ายๆ