ยินดีต้อนรับ

1000 Words
“หลบไป” ชลธรจำต้องเดินเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง แล้วให้ลูกน้องยืนรออยู่ข้างนอก มันผิดแผนที่เขาวางมาไปหมดเลย ทั้งที่เขาตั้งใจจะแค่มารับตัวเธอแล้วกลับไปโดยให้ลูกน้องเป็นคนทำทุกอย่าง แต่ไงเขาต้องมาดูเธอถึงในห้องนอนและเหมือนจะต้องแบกเธอออกไปเองเพราะลูกน้องดูจะกลัวแม่มาเฟียสาวกันจนหัวหดไปหมดแล้ว “ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้นอนวะ” แสงไฟที่ยังคงถูกเปิดจ้าเอาไว้ภายในห้องนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวทำให้คนมาเยือนอย่างเขานั้นได้เห็นผิวขาวๆ นมอวบๆ ของเธอเต็มสองตาเลย ทำเอาเขาต้องเบือนหน้าหลบไปทางอื่นแทบไม่ทัน เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเจอเธอใส่ชุดนอนที่เป็นสายเดี่ยวกับกางเกงตัวสั้นแค่คืบแบบนี้ “แล้วทำไมไม่ห่มผ้าวะเนี้ย ไอ้ภากรมันเลี้ยงลูกยังไงของมันวะ” เขายังคงหันหน้าไปทางอื่นไม่มองเธอ แต่มือกลับลงไปคลำหาผ้าห่มบนเตียงของเธอเพื่อจะเอามาห่อตัวเธอเอาไว้ก่อน ค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรเพราะร่างบอบบางที่แทบจะโป้ทั้งตัวนั้นดันนอนทับผ้าห่มเอาไว้ แต่มันก็ไม่เกินความสามารถของเขา จัดการยกปลายผ้าห่มทั้งสองด้านขึ้นมาแล้วห่อเธอเอาไว้เหมือนห่อขนม จับผ้าห่มห่อเธอจนแน่นหน้าเหมือนมันมี่ในสุสานเรียบร้อยแล้วก็อุ้มเธอเดินออกมาจากภายในห้องนอน แล้วพาออกจากบ้าน เขาพาเธอไปขึ้นรถที่ให้ลูกน้องขับมาจอดรออยู่แถวๆ หน้าบ้านของเธอ และรีบพาตัวเธอออกไปที่ท่าเรืออย่างรวดเร็ว “พวกมึงอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่ให้ดี มีอะไรให้รายงานกูทุกอย่าง” ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เขาก็พาเธอที่ยังคงหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยานอนหลับมาถึงท่าเรือ รีบพาร่างมัมมี่ของเธอนั้นขึ้นไปยังเรือของเขาที่จอดเทียบท่ารออยู่ โดยไม่ได้ให้ลูกน้องของเขาตามขึ้นไปด้วย เพราะคนทั้งห้าและอีกห้าคนที่อยู่รออยู่ในบ้านพักสุดลึกลับของเขาจะต้องอยู่ที่นี่คอยดูแลภากรเอาไว้ ไม่ให้ภากรได้รับอันตรายอะไรเป็นอันขาด ไม่ว่าธุรกิจของภากรจะเหลือหรือไม่เหลือแต่ชีวิตของมันจะต้องมีต่อไป เพราะเขาในฐานะเพื่อนจะไม่ยอมให้มันตายง่ายๆ แต่เพราะภากรห้ามไม่ให้เขาช่วยเหลือเอาไว้ ก็เลยจำต้องส่งลูกน้องติดตามคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ แบบนั้น ส่วนหญิงสาวนั้นเขาจะพาเดินทางกลับไปที่เกาะด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องคอยติดตาม เพราะแค่เดินทางไปชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเข้าอาณาเขตของเขาที่มีลูกน้องลาดตระเวนอยู่ แค่นั้นเขากับเธอก็จะปลอดภัยเหมือนอยู่บ้านแล้ว “นายหัวโชคดีนะครับ เดินทางปลอดภัย และมีความสุขกับเมียมากๆ นะครับ” ซาลลูกน้องที่ค่อนข้างสนิทกับนายหัวชลธรมากที่สุดคนหนึ่งเอ่ยบอกลาผู้เป็นเจ้านาย เพราะเห็นว่าเจ้านายได้มีทั้งขาวทั้งสาวก็อดไม่ได้ที่จะอวยพรให้ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ ด้วยหน้าที่ครั้งนี้อาจอยู่บนฝั่งนาน เกรงว่าจะกลับไปไม่ทันคืนเข้าหอของนายหัวชลธรเขาเลยต้องรีบอวยพรออกมาก่อน “ไอ้ซาล หุบปากไปเลยมึงก่อนจะถูกส้นตีนยัดปาก” เขาตวาดลูกน้องเสียงดังลั่นพร้อมกับหมายจะขึ้นจากเรือมาไล่เตะปากมันให้แตก ให้เลือกกกปากเผื่อว่ามันจะรู้จักหุบปากลงไปบ้าง แต่ซาลกลับวิ่งหนีไปขึ้นรถเสียก่อนเลยทำให้เขาได้ตั้งท่าจะเตะแต่ก็ไม่ได้เตะ เมื่อลูกน้องวิ่งหนีไปแบบนั้นแล้วเขาก็กลับมาประจำที่คนขับเรือ แล้วขับเรือออกจากท่าจอดไป เพราะถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ กว่าจะเดินทางถึงเกาะอาจจะเจอกับแดดร้อนตอนเที่ยงวันก็เป็นได้ และลูกของไอ้ภากรอาจจะตื่นก่อนจะถึงเกาะก็เป็นได้ด้วยยานอนหลับมันออกฤทธิ์แค่ไม่กี่ชั่วโมงแค่นั้นเอง “ยินดีต้อนรับสู่เกาะของฉัน ขอให้มีชีวิตรอดไปให้ได้ก็แล้วกัน” ขับเรือไปเขาก็จิบเหล้าไปเพื่อฆ่าเวลาไป ผ่านไปห้าชั่วโมงในการนั่งเรือตกหมึกความเมาก็เริ่มได้ที่ เขาก็ขับเรือกลับมาถึงเกาะพอดี เขากล่าวต้อนรับเธอเล็กน้อยก่อนจะให้ลูกน้องพาตัวเธอไปขังไว้ที่บ้านไม้ริมหาดห่างไกลบ้านคนงานคนอื่นๆ และให้ลูกน้องเป็นคนคอยเฝ้าดูแลเธอเอาไว้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมาแล้วหนีไปได้ และก็ดูแลความปลอดภัยให้กับเธอ ถึงเธอจะเป็นลูกมาเฟีย ถูกฝึกอะไรหลายๆ อย่างมาแบบมาเฟีย แต่ทว่าการใช้ชีวิตบนเกาะที่มันห่างไกลความเจริญแบบขั้นสุดแบบนี้ มันก็คงไม่ง่ายสำหรับเธอที่สบายมาทั้งชีวิต เขาในฐานะเจ้าของเกาะก็ขอให้เธอโชคดีรอดตายไปจนกว่าพ่อเธอจะมารับก็แล้วกัน แล้วเขาก็แยกตัวไปพักผ่อนยังบ้านพักส่วนตัวที่อยู่ห่างออกไป เพราะความเมามาย แต่ถึงจะห่างไกลจากจุดที่เขาขังเธอเอาไว้ แต่ทว่าเขาก็กลับมองเห็นเธออยู่ดีด้วยบ้านพักของเขาตั้งอยู่สูงกว่าตรงจุดนี้มาก เขาไม่ได้จะปล่อยเธออยู่กับลูกน้องของเขาตามลำพังหรอก เพราะเธอร้านเกินกว่าจะไว้ใจได้ง่ายๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD