02
อุบัติเหตุ
เปมิกาเดินทางมาถึงโรงพยาบาล เธอตรงดิ่งไปที่ห้องที่ร่างของอลินดานอนแน่นิ่งเมื่อเธอไปถึงก็เจอเข้ากับอัมพาและองอาจที่ยืนร้องไห้ระงมข้าง ๆ ร่างไร้ลมหายใจของอลินดา
เปมิกาเดินไปหาอลินดา เธอโผเข้ากอดร่างของอลินดาทั้งน้ำตาเธอจูบที่หน้าผากของอลินดาหนึ่งทีก่อนที่จะหยิบแหวนขึ้นมาสวมไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของอลินดาก่อนที่จะจูบไปที่มือของอลินดาอีกหนึ่งที
เปมิกาก้มลงไปกระซิบข้างหูของอลินดาเบา ๆ “ไม่ว่าอันอยู่ที่ไหน อันก็ยังเป็นของปริมนะ แหวนนั่นปริมจองอันไว้แล้วนะ” เปมิการ้องไห้ออกมาเสียงดังเธอยืนแทบไม่อยู่
องอาจที่เห็นอย่างนั้นก็เข้าไปปลอบใจเปมิกาทั้ง ๆ ที่เขาเองก็เสียใจไม่แพ้เปมิกาเลย “สู้สิลูก ดูพ่อสิ พ่อยังสู้เลย อันดาเขามีบุญมีกรรมมาแค่นี้ อย่าร้องไห้ไปเลยลูก” องอาจกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“เชิญญาติออกไปก่อนนะคะ ทางเราจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปค่ะ” พยาบาลท่านหนึ่งเดินมาบอกอย่างสุภาพอ่อนโยน
อัมพา องอาจและเปมิกาออกมานั่งรออย่างเสียใจต่างคนต่างนั่งร้องไห้กันคนละมุม องอาจต้องคอยเอายาดมให้อัมพาอยู่ตลอดเวลา อัมพาเอาแต่ร้องไห้ไม่ต่างจากเปมิกาที่เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด คนที่เข้มแข็งที่สุดตอนนี้ก็น่าจะมีแต่องอาจพ่อของอลินดาเท่านั้น
เมื่อขั้นตอนของทางโรงพยาบาลเสร็จสิ้นร่างไร้วิญญาณของอลินดาก็ถูกนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
อัมพาแม่ของอลินดาตั้งบำเพ็ญกุศลศพเป็นเวลา 7 วัน จะมีการสวดอภิธรรมทั้ง 7 วัน เปมิกามานั่งรอจุดธูปให้แขกผู้มีเกียรติที่มาไหว้ศพของอลินดาจนวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการสวดอภิธรรมที่วัด ตลอดระยะเวลาตั้งแต่อลินดาจากไปเปมิกานอนไม่หลับเลยสักคืน เปมิกาเอาแต่นอนร้องไห้อย่างเดียวจะมีหลับบ้างก็ไม่กี่ชั่วโมงเป็นเพราะเหนื่อยจากการร้องไห้นั่นเอง
“อัน ปริมคิดถึงอันเหลือเกิน ปริมรู้ถึงความทรมานแล้วว่าการอยู่อย่างโดดเดี่ยวมันเหงาอย่างนี้นี่เอง” เปมิกาที่กลับมาถึงห้องก็เอาแต่พูดคนเดียวเธอเหนื่อยไปทั้งกายทั้งใจ ชีวิตของเปมิกาตอนนี้ยิ่งกว่าตายทั้งเป็น
“ปริมไม่น่าปล่อยให้เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันเสียเวลาไปเพราะปริมเอาแต่เที่ยวไม่สนใจว่าอันจะรู้สึกอย่างไร” เปมิกานอนร้องไห้พร้อมกับพร่ำเพ้ออยู่คนเดียว
“ปริม ปริม นอนหรือยังลูกขอแม่เข้าไปนอนด้วยได้ไหม” เขมนิจเดินมาเคาะประตูห้องของลูกสาวกลางดึกเพราะเธอรู้ว่าลูกสาวของเธอคงนอนไม่หลับเป็นแน่
“เข้ามาได้เลยค่ะ ปริมไม่ได้ล็อคประตูค่ะ” เปมิกาบอกกับแม่ของเธอด้วยน้ำเสียงที่ขึ้นจมูกเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“เป็นไงบ้างลูก ทำไมไม่ไปอาบน้ำล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้วนะ” เขมนิจนั่งลงบนเตียงนอนข้าง ๆ เปมิกาที่นอนนิ่งเหมือนคนไม่มีหัวใจ
“ปริมไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นเลยแม่ ปริมเหมือนคนที่กำลังจะตายไปตามอันดา” เปมิกาพูดออกมาทั้งน้ำตายิ่งแม่มาถามเพราะความเป็นห่วงต่อมอ่อนแอของเธอก็ยิ่งทำงานหนักขึ้นไปอีก
“แม่ ปริมทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหวแล้วแม่ ปริมไม่อยากอยู่ถ้าไม่มีอัน” ปริมโผกอดเขมนิจแน่น
“ปริมฟังแม่นะลูก หนูไม่ได้เดียวดายหนูยังมีแม่อยู่ทั้งคนนะลูก ปริมต้องอยู่เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้อันดาได้รับรู้ว่าหนูไม่ใช่คนเดิมแล้ว หนูต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่ออันดา ปริมคิดดูนะลูกถ้าอันดารู้ว่าหนูเปลี่ยนตัวองเพื่อเขา อันดาต้องดีใจแน่ ๆ เลย แต่วันนี้หนูต้องไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นเดี๋ยวแม่นำนมอุ่น ๆ มาให้นะ จะได้นอหลับสบาย” เขมนิจพูดจบก็เดินออกไปเพื่อนำนมอุ่น ๆ มาให้เปมิกา
เปมิกาคิดตามที่แม่พูดเธอจึงลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ จริง ๆ แล้วเปมิกาต้องพักผ่อนได้แล้วเพราะถ้าเธอยังทำตัวเองให้เหนื่อยล้าไปกว่านี้จะกลายเป็นเธออีกคนที่ต้องตายตามอลินดาไปแน่ ๆ
เขมนิจกลับมาพร้อมกับนมอุ่น ๆ พอดีกับเปมิกาที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี เปมิกาดื่มนมที่แม่เธอนำมาให้หมดแก้ว เธอเข้านอนพร้อมกับเขมนิจเธอหลับไปในอ้อมกอดของแม่เป็นคืนแรกที่เธอสามารถหลับได้สนิทหลังจากที่เธอไม่ยอมหลับมาหลายคืน
เปมิกาที่เหนื่อยล้ามาหลายวัน เปมิกานอนหลับสนิทแต่เธอต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะความฝันของเธอช่างเหมือนความจริงเหลือเกิน
เปมิกาฝันว่าอลินดามายืนร้องไห้ข้าง ๆ เตียงของเธอ เปมิกาพยายามจะแตะต้องตัวของอลินดาแต่เปมิกาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ แม้ว่าเธอจะพยายามสักเท่าไรก็ตาม
เปมิกาลืมตาตื่นมาพยายามมองหาว่าอลินดามาหาเธอจริงไหมแต่เธอมองไม่เห็นอลินดา แต่อลินดายืนอยู่ข้าง ๆ เธอนั่นเอง
อลินดายืนร้องไห้เหมือนที่เปมิกาฝันเธอเสียใจที่เธอตายไปโดยที่เธอยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อและแม่ของเธอเลย เธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ อลินดาโกรธเปมิกาอย่างมากที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอตาย
เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสของเปมิกา “เป็นอย่างไรบ้างลูกเมื่อคืนนอนสบายไหมมีแม่นอนด้วย คงไม่สบายเหมือนนอนกับสาวหรอใช่มั้ย” เขมนิจพูดหยอกเหย้าลูกสาวของเธอ เขมนิจอยากให้ลูกผ่อนคลายจิตใจลงบ้าง
“นอนกับแม่ต้องสบายอยู่แล้วค่ะ แม่คะ เมื่อคืนปริมฝันเห็นอันดามายืนร้องไห้ข้าง ๆ เตียงนอนปริม ปริมพยายามถามพยายามคุยพยายามแตะตัวอันแต่ปริมแตะตัวอันไม่ได้เลยค่ะ อันเอาแต่ร้องไห้ไม่พูดอะไรเลย” เปมิกาเล่าความฝันให้เขมนิจฟัง
“คงไม่มีอะไรหรอกลูก ปริมคิดถึงอันดามากหนูก็เลยฝันไปไงคะ ทานข้าวเช้าเถอะจะได้ไปวัดให้ทันถวายเพลพระ” เขมนิจปลอบใจเปมิกาอย่างเข้าใจ
“เออ! ปริมเมื่อเช้าแม่ไปซื้อของหน้าหมู่บ้านแม่ได้ยินว่าหนูไยไหมเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวหัวกระแทกพื้นอย่างแรงจนหัวใจหยุดเต้นไปหลายนาที แต่โชคดีมีกู้ภัยมาปั้มหัวใจคืนมาได้แต่ได้ยินว่าน้องจะต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา” เขมนิจเล่าเรื่องของลูกสาวของเพื่อนบ้านซึ่งก็คือ ใยไหมที่ค่อนข้างสนิทกับเปมิกา
เปมิกาได้ยินเรื่องดังกล่าวเธอก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะวันนั้นใยไหมยังไปนั่งดื่มกับเธออยู่เลย