11 | แม่หมอวารี (1)

1344 Words
บทที่ 11 แม่หมอวารี (1) แสงไฟหลากสีพร้อมกับเสียงเพลงที่เปิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องรับรองขนาดใหญ่ ฉันที่เพิ่งมาถึงก็ได้แต่มองตาค้างกวาดสายตามองรอบ ๆ ตัวงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและสมฐานะของผู้เป็นเจ้าของงานที่สุด “โอ้โห พวกไฮโซนี่ชอบเล่นใหญ่ชะมัด” “แหม ทำมาเป็นพูดมึงเองก็ไฮโซค่า คุณหนูวารีทายาทคนโตของบริษัท MN ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องดื่มใหญ่ระดับประเทศ” จ๋าพูดสรรพคุณลองฉันเสร็จสรรพทั้งยังจีบปากจีบคอจนฉันนึกหมั่นไส้ขึ้นมา ไฮโซบ้าอะไรล่ะ ทุกวันนี้ฉันยังถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่หมอกุเรื่องงมงายหลอกเด็กอยู่เลย ฮึ่ย! คิดแล้วก็หงุดหงิดชะมัด ใครมันตั้งชื่อนี้ให้ฉันกันนะ อ่อ...ไอ้พี่เตนั่นแหละ! “นั่น ๆ ที่นั่งมึง ตอนนี้แขกยังมากันไม่เยอะ แต่หลังจากนี้คงเริ่มทยอยมากันแล้วล่ะ มึงโอเคนะ” “อื้อ” ฉันมองไปยังโต๊ะของฉันที่ถูกจัดวางแยกเป็นโซนบริเวณเดียวกับผู้ทำนายดวงชะตาคนอื่น ๆ ซึ่งบางคนก็เป็นที่ฉันรู้จักเพราะเคยเป็นลูกค้าไปดูดวงกับเขาน่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงเลือกดูดวงกับคนอื่นแทนที่จะเปิดไพ่และทำนายดวงชะตาของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่แล้วคนในวงการนี้ที่ฉันรู้จักก็มักจะไม่ค่อยดูดวงของตัวเองเท่าไหร่ จะให้คนอื่นเป็นผู้ทำนายให้มากกว่า ซึ่งฉันก็ไม่ได้มีคำอธิบายอะไรหรอกนะ เอาเป็นว่าฉันสะดวกแบบนี้แล้วกัน “มึงไปนั่งรอเลย เดี๋ยวกูไปดูหลังเวทีก่อน วงโฟร์ดรีมกำลังเตรียมตัวอยู่” “มึงว่าไงนะ” ฉันถึงกับร้องถามและหันมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างเอาคำตอบ เมื่อกี้ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือว่า ทำไมรู้สึกว่าได้ชื่อคำว่าโฟร์ดรีม ซึ่งเป็นวงดนตรีของไอ้พี่พยัคฆ์นั่นน่ะ “วงโฟร์ดรีมไง เออนี่วงนี้น่ะดังมากนะมึง แล้วที่สำคัญมึงต้องยังไม่รู้แน่ ๆ เพราะวงนี้น่ะเป็นวงของพวกพี่พยัคฆ์รุ่นพี่มอเราอะมึง!” กูรู้แล้วค่ะคุณเพื่อน! ที่แต่งงก็คงทำไมพวกเขาถึงมางานนี้ด้วย! “ไม่เห็นมึงจะบอกกูเลยว่ามีวงดนตรีมาที่งานนี้ด้วย” “เอ้า บอกแล้วมันจะทำให้มึงทำนายดวงชะตาแม่นขึ้นรึไงไอ้วา” “ไอ้จ๋า! โอ๊ย! ถ้ารู้แบบนี้กูไม่มาหรอก” ฉันตีเบา ๆ ที่แขนของเพื่อนสนิทเมื่อได้ยินมันพูดแบบนั้น นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ยทำไมช่วงนี้ถึงได้เจอหน้าพวกนั้นบ่อยนัก! “อะไรของมึงวะ หงุดหงิดอะไร หรือว่ามึงยังเหม็นหน้าพี่พยัคฆ์อยู่” คำว่า ‘เหม็นหน้า’ ทำให้ฉันพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี ก็จริงอย่างที่จ๋าว่า ฉันยังรู้สึกไม่ชอบหน้าพี่พยัคฆ์เพราะเรื่องในวันวานน่ะ แถมเขายังเป็นคนที่ไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด ปากหนักยิ่งกว่าอะไร ชอบทำหน้าเหวี่ยงใส่ฉันทุกครั้ง เหอะ! ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขานักหรอก พอนึกถึงเหตุการณ์วันนี้ฉันกล้าพูดได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ฉันเกลียด ถ้าดียังไงมาจูบฉันน่ะ ฮึ่ย! โมโห โมโหมาก! “ที่จริงกูเจอพวกพี่เขามาก่อนหน้าแล้ว ไว้กูค่อยเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน แล้วมึงจะเข้าใจว่าทำไมกูถึงไม่อยากเจอพวกเขา” “เออ ๆ แต่ตอนนี้มึงรับปากกูแล้วห้ามเทนะ ทำหน้าที่เป็นแม่หมอให้ดี ๆ นะเว้ย” “รู้แล้วน่า มึงจะไปเช็กความเรียบร้อยก็ไปเถอะ กูอยู่ได้” ฉันบอกก่อนจะดันตัวเพื่อนสนิทให้ไปทำหน้าที่ของตัวเองเสียที หลังจากนั้นก็เดินไปนั่งที่ประจำซึ่งมีชื่อของฉันตั้งอยู่เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่านี่เป็นโต๊ะของฉัน ฉันผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลงเพื่อควบคุมสติของตัวเองให้อยู่นิ่งที่สุด หวังว่างานวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีและขอให้อาการตากระตุกเมื่อช่วงสายเป็นเพียงธรรมชาติของร่างกายและไม่ได้ต้องการจะสื่อสารถึงลางเหตุอะไรทั้งนั้น “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~ สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณเพชร ขอให้เป็นอีกปีที่ดีและมีความสุขมาก ๆ ครับ” เสียงของพี่ภีมผู้รับหน้าที่เป็นนักร้องนำของวงเป็นตัวแทนกล่าวอวยพรกับเจ้าของวันเกิดหลังจากที่ร้องเพลงจนครบ หลังจากนั้นก็ได้เวลาของเจ้าภาพงานเสียที เค้กก้อนใหญ่วางอยู่ตรงหน้าเวลาพลันเมื่อสิ้นเสียงร้องเพลงวันเกิดก็ได้ยินเสียงปรบมือจากผู้คนภายในงานที่ต่างก็มาร่วมฉลองวันเกิดในวันนี้ “สวัสดีค่ะแม่หมอ ช่วยดูดวงให้ฉันหน่อยนะคะ” ทว่าไม่นานเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของฉัน ซึ่งฉันก็ยิ้มรับบาง ๆ และเริ่มต้นหน้าที่ของตัวเองอีกครั้งในฐานะแม่หมอดูดวงทั้งที่จริงแล้วฉันจะไม่ใช่ก็ตาม ฉันหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิก่อนจะกรีดไพ่สองชนิดและแบ่งเป็นสองกอง หลังจากนั้นก็ให้คนตรงหน้าเลือกไพ่ที่คว่ำอยู่และเริ่มการทำนายดวงชะตาผ่านไพ่ที่ได้เลือกไว้ ซึ่งใช้เวลาราว ๆ สิบห้านาทีในการพูดคุยและแนะนำแนวทางหลังจากดูดวงชะตาแล้วจึงจบสิ้นหน้าที่ของตัวเอง ขณะที่ฉันกำลังกรีดไพ่และจัดเรียงให้เป็นระเบียบหลังจากที่ผู้ดูดวงได้เดินออกไปแล้วก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาหา ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงักไปในทันที คงเดากันถูกใช่ไหมว่ากลุ่มคนตรงหน้าฉันคือใคร... “สวัสดีครับน้องวา” “พี่ไม่ยักรู้ว่าน้องวามีความสามารถด้านนี้ด้วย” ฉันส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคนตรงหน้าเพราะไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกไป ใช่...เขาคือพวกพี่ ๆ วงโฟร์ดรีมนั่นแหละ ลงจากเวทีแล้วก็รีบกลับไปสิ งานเยอะนักหนาไม่ใช่เหรอ แล้วจะเดินมาหาฉันทำไม! “แหะ ก็ประมาณหนึ่งค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นดูให้พี่บ้างได้ไหม พี่อยากรู้ว่าช่วงนี้ดวงของพี่เป็นยังไง” เป็นพี่ครามที่นั่งลงประจำเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉัน รวมถึงเพื่อน ๆ ของเขาที่ต่างก็ให้ความสนใจกันอย่างออกนอกหน้า แต่เว้นไว้คนหนึ่งนะ ก็ไอ้พี่พยัคฆ์นั่นแหละ สีหน้าของเขาไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด แถมยังกอดอกมองฉันด้วยสายตาจับผิดอีกต่างหาก! “ได้ค่ะพี่คราม พี่ครามหลับตาแล้วตั้งจิตนะคะ วาจะกรีดไพ่และให้พี่ครามเลือกไพ่ออกมาสามใบค่ะ” ฉันทำการกรีดไพ่สองกองอย่างชำนาญการและจัดเรียงวางไว้ตรงหน้าเพื่อให้พี่ครามได้เลือก และไม่นานเจ้าตัวก็วางไพ่ลงสามใบซึ่งคว่ำหน้าไว้อยู่ทำให้ฉันเปิดใบแรกขึ้นเพื่อเริ่มต้นการทำนายดวงชะตาของเขา “ห้าถ้วย เก้าดาบ...” ฉันเอ่ยเบา ๆ เมื่อเริ่มเปิดไพ่ที่พี่ครามได้เลือกไว้ก่อนจะแน่นิ่งไปชั่วครู่ คือไพ่ที่เปิดมันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่น่ะ หรืออาจจะไม่ดีมากเลยก็ว่าได้ แต่ฉันกลัวว่าจะทำให้เขาไม่สบายใจนี่สิ “ดวงไอ้ครามเป็นไงมั่งอะน้องวา” พี่ออกัสเอ่ยขึ้นทำให้ฉันส่งรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเริ่มต้นการทำนายไพ่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD