Chapter 2 ข่าวร้าย

1532 Words
Chapter 2 กระดาษแผ่นเล็กร่วงหล่นลงจากมือบางนุ่ม สิ่งที่เธอเพิ่งจะรับมา เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เลวร้ายมากเกินพอ ทั้งเงินกู้ในระบบและยังมีนอกระบบ ดอกเบี้ยแสนโหด สิ่งโหดร้ายที่สุดของครอบครัวเล็กๆ ของเธอ คือบ้านสวนหลังนี้กำลังจะถูกยึด หากแต่วันวานปัญหานั้นถูกแก้ไข หัวใจเธอกำลังจะเข้มแข็งพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่ แต่ไยฟ้ากลับกลั่นแกล้งครอบครัวเล็กๆ ของเธอไม่จบสิ้น เธอไม่มีวันเชื่อว่า บิดาของเธอที่เป็นถึงครูบาอาจารย์สั่งสอนลูกศิษย์จนได้ดีมานักต่อนัก จะคิดสั้นหนีปัญหาโดยการฆ่าตัวตายเอาประกัน แต่เธอก็ไม่สามารถคัดค้านเอกสารทางราชการที่แบหราอยู่ในมือได้ ลมในช่องท้องเริ่มติดขัดจนขาดเป็นห้วงๆ ในที่สุดหญิงสาวก็ล้มพับไปทั้งที่มือยังกำกะดาษแผ่นนั้น ยังดีที่หมอกรุณพลที่ยืนอยู่ด้านหลังช้อนร่างเอาไว้ได้ทัน “รัณ!” เสียงสุดท้ายที่หญิงสาวได้ยินก่อนที่สติจะหลุดลอยไป เกือบสี่ทุ่มกว่าที่ดารัณลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดมึนศีรษะที่มีเพิ่มขึ้นมาเสมือนแบกรับสิ่งที่หนักอึ้ง เธอนวดวนขมับเบาๆ หวังจะช่วยทำให้สมองรู้สึกปลอดโปร่งโล่งยิ่งขึ้น แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย อาการปวดตึงเหมือนเกลียวเชือกขมวดปมเป็นกลุ่มก้อนเต้นตุบๆ ไปทั่วทั้งศีรษะที่แทบจะระเบิดเป็นเสี่ยง ร่างบางขยับเล็กน้อยเพื่อคลายความเครียดบนเส้นประสาทเธอปิดตาหลับลงอีกครั้ง สองฝ่ามือบีบขมับแน่นเพื่อลดแรงกระแทกสั่นตึงปล่อยเวลาพ้นผ่านไปช้าๆ จึงรู้สึกดีขึ้น เปลือกตาบางกับแพขนตางอนกะพริบถี่ๆ ปรับม่านตาให้เปิดรับแสงอีกครั้ง “ที่นี่...มันโรงพยาบาลนี่” หญิงสาวพยายามนึกถึงค่ำคืนที่ผ่านมา คิ้วบางขมวดมุ่นตกใจเมื่อรู้ว่า ตัวเองไม่ได้นอนอยู่ที่บ้านอย่างที่ควรจะเป็น เธอลุกพรวดขึ้นทันที แต่ด้วยความหนักอึ้งของศีรษะทำให้ต้องล้มตัวลงนอนบนหมอนอีกครั้ง “นอนลงก่อนเถอะรัณ เดี๋ยวจะหน้ามืดอีก” เสียงหวานของเพื่อนร่วมอาชีพร้องบอกก่อนที่คนป่วยบนเตียงจะขยับลุกนั่ง เธอเดินประคองถาดเอา ผ้าชุบน้ำอุ่นมาซับหน้าคนบนเตียง “เรามาที่นี่ได้ยังไงสิตา” ดารัณถามเพื่อนสาว ระยะทางจากบ้านมาถึงโรงพยาบาลค่อนข้างห่างไกล แต่เธอกลับมานอนอยู่ที่นี่โดยที่ไม่รู้สึกตัวสักนิด “เธอเป็นลม หมอพลพาเธอมาให้น้ำเกลือบอกว่าเธออ่อนเพลียมาก ตั้งแต่ตอนคุณพ่อของเธอเสียเธอก็หน้าซีดจนทุกคนดูออก พวกเราก็เป็นห่วงเธอนะรัณ พักบ้าง ปล่อยวางเรื่องงานในสวนสักพัก” กันสิตาบอกอย่างห่วงใย แต่ก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องภายในครอบครัวของเธอ นอกจากคุณหมอกรุณพล เพื่อนสนิทของเธอ “เรายังไหว ไม่เป็นอะไรมากหรอกสิตา” “อย่าดื้อนะรัณ เธอเป็นพยาบาลก็น่าจะรู้ตัวดี” “ก็เพราะเราเป็นพยาบาลน่ะสิ” ดารัณยังดันทุรังจะลุกขึ้นต่อ “แต่หมอเป็นหมอ มีสิทธิ์สั่งคนไข้ของหมอให้นอนพักใช่ไหม” เสียงของหมอหนุ่มดังขัดจังหวะสนทนาของสองสาว และดูท่าว่าคนป่วยบนเตียงก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ “แต่รัณไม่เป็นอะไรแล้ว รัณจะกลับบ้านสวน” หญิงสาว หากแต่เสียงกลับอ่อยลงไปมาก “ไม่มีการเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ถ้ารัณยังดื้อไม่เลิก หมอก็จะสั่งน้ำเกลือเพิ่มให้อีก ดูจากสุขภาพของรัณก็คงอยู่โรงพยาบาลต่อได้อีกนานหลายวัน” “ก็ได้” ดารัณรับคำเสียงอ่อยก่อนที่จะล้มศีรษะลงบนหมอนใบเดิม “ว่าง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย” หมอหนุ่มเย้า หันไปสบตากับ กันสิตา พยาบาลสาวรู้หน้าที่ขอตัว เลี่ยงออกไปทันที “เราขอตัวไปทำงานก่อนนะรัณ อย่าดื้อกับคุณหมอให้มากล่ะ” เพื่อนสาวไม่วายเย้าคนบนเตียงก่อนจะเดินออกไป คล้อยหลังกันสิตา หมอกรุณพลก็หันกลับมาหาคนป่วยอีกครั้ง “หมอขอนะรัณ กลับมาอยู่ที่คอนโดสักพักเถอะ หมอเป็นห่วง ถ้าเกิดวันนี้หมอไม่อยู่ด้วยจะทำอย่างไร เอาไว้ให้รัณจิตใจเข้มแข็งดีกว่านี้แล้วค่อยกลับไปลุยต่อ” “แต่หมอก็รู้ว่า รัณมีภาระที่ต้องจัดการ เรื่องประกันที่รับเงินมาแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะว่าอย่างไร” “เรื่องนั้นเราค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไปนะรัณ หมอมีเพื่อนเป็นตำรวจ เขาแนะนำว่า เราก็แค่คืนเบี้ยประกันเขาไปก็จบ” “ปัญหามันอยู่ที่ว่า รัณใช้เงินก้อนนั้นไปหมดแล้วนี่สิ” หมอกรุณพลเลื่อนมือไปกุมมือหญิงสาวยกขึ้นมาแนบอก ทอดสายตาอ่อนโยนมองคนบนเตียงด้วยความรักที่มิอาจปิดกั้นไว้ได้อีกต่อไป “ถ้ารัณไม่ว่าอะไร ให้หมอช่วยได้ไหม” “หมอ” ดารัณเงยหน้ามองหมอกรุณพล “แต่งงานกับหมอนะรัณ หมอจะเป็นคนดูแลรัณต่อไปเอง” “แต่รัณไม่พร้อมที่จะแต่งงาน ที่สำคัญ...รัณไม่อยากเอาเปรียบหมอ คนดีๆ อย่างหมอจะต้องได้เจอคนดีและเพียบพร้อมมากกว่ารัณ” “แต่หมอไม่มีสายตาไว้มองใครอีกแล้ว รัณก็น่าจะรู้” “เรารักษาความเป็นเพื่อนกันอย่างนี้เอาไว้ดีกว่านะ รัณยังไม่พร้อมจริงๆ” “ถ้ารัณยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานก็ไม่เป็นไร หมอรอได้เสมอ แต่เรื่องเงินหมอขอช่วยรัณได้ไหม” ดารัณมีสีหน้าหนักใจ ทั้งเกรงใจเพื่อนชายที่ต้องมารับรู้เรื่องราว และช่วยแบกรับ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเลี่ยง “อย่าเลยค่ะ รัณขอหาทางด้วยตัวเองก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ รัณจะบอกหมอเป็นคนแรกนะ” “แต่หมอว่า...” แต่ยังไม่ทันที่หมอหนุ่มจะพูดจบประโยค ดารัณก็ค้านขึ้นมาเสียก่อนอย่างรู้ทัน เสียงหวานออดอ้อนทำให้คนยอมทุกครั้งใจอ่อนอีกจนได้ “นะคะ...แล้วรัณจะกลับมาอยู่คอนโดโรงพยาบาลสักพัก ตามที่หมอขอ” “ก็ได้ครับ” “ขอบคุณค่ะ...หมอมีงานก็ไปทำก็ได้นะคะ รัณอยู่คนเดียวได้” หมอกรุณพลก้มลงมองคนป่วยบนเตียง ดึงจมูกรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว “หน้าที่ของหมอตอนนี้คือนอนเฝ้าไข้คนป่วย แต่ถ้าหากคนป่วยดื้อก็ต้องมีบทลงโทษตามระเบียบ” “ขอหลับก่อนล่ะ” หญิงสาวบอกพร้อมกับปิดตาลง ที่จริงเธอต้องการหนีความปวดร้าวไม่ต้องการให้ใครเห็นความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มของเธอต่างหาก นางจินตนามาเยี่ยมหลานสาวทุกวัน จนนานวันผันผ่านหัวใจ ดวงน้อยเริ่มกร่อนจากการถูกกัดเซาะด้วยคำพูดหว่านล้อมของคนเป็นป้าจนกระทั่งหายเป็นปกติและสามารถไปทำงานได้ หญิงสาวไม่ยอมปริปากบอกเรื่องเงินของเธอให้คนเป็นป้ารู้ เพราะว่าเธอกับป้าก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปี จู่ๆ โผล่เข้ามาในชิวิต ดารัณยังแปลกใจ ไม่หาย แต่มีหรือคนซอกแซกอย่างจินตนาจะไม่รู้เรื่องราว ไม่มีใครรู้ว่า ป้าที่ไม่เคยนับญาติสักครั้งจะทำดีกับหลานเพราะเหตุผลอะไร แม้กระทั่งดารัณเอง เช้าวันทำงานดารัณได้รับโทรศัพท์จากสาวรับใช้คนสนิทของผู้เป็นป้าตั้งแต่เช้า นางให้คนโทรมาแจ้งว่า จะไม่ได้เข้าไปหาเธอที่บ้านสวนหลายวัน หญิงสาวจะถามถึงเหตุผล สาวเจ้าก็วางสายไปเสียก่อน ที่ผ่านมานางจินตนาเฝ้าทำดีถามสารทุกข์สุกดิบเยี่ยงป้าหลานที่รักกันปานจะกลืน หลังจากที่วางโทรศัพท์ ดารัณถอยหายใจเฮือกอย่างไม่เข้าใจ เธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้ป้าเข้ามาดูแลอย่างนี้ ไม่ได้ใส่ใจกับการโทรมาแจ้งมากนัก เพราะคิดว่า คนเป็นป้าคงติดธุระเรื่องธุรกิจ หญิงสาวสาละวนกับคนไข้ที่ล้นวอร์ดจนลืมเรื่องของป้าไปสนิท ติ๊ดๆ ๆ เสียงเตือนข้อความดังขึ้น หญิงสาวหันกลับไปมองโทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะเดินไปหยิบ แสงไฟที่กะพริบเตือนหน้าจอบอกถึงเหตุผลได้เป็นอย่างดีว่า เป็นเสียงจากเครื่องของเธอ “ป้าหกล้มไม่สบายมาก” ข้อความเพียงสั้นๆ กระตุกหัวใจของคนอ่าน ถึงแม้ว่า เธอจะเพิ่งรู้สึกดีกับนาง แต่สายใยความผูกพันระหว่างสายเลือดก็ตัดกันไม่ขาด เธอโทรกลับไปถามทันที แต่เสียงตอบรับกลับมาคือติดต่อไม่ได้ ริ้วรอยความกังวลใจฉายแววออกมาชัดเจน ยิ่งอาชีพของเธอ การไม่ดูดำดูดี คนป่วยเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD