ความบังเอิญ

1175 Words
“นีน่า อีก 10 นาทีบอกให้ผู้จัดการฝ่ายบัญชีเข้ามาหาผมด้วย แล้วเอารายงานการเงินทั้งหมดเข้ามาให้ด้วย” “ค่ะบอส” สตีฟ ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของประเทศ ที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย เรียกว่าสุดแสนจะเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้สำหรับผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง เขาพึ่งได้รับตำแหน่งประธานบริษัทแทน คุณดวิน ผู้เป็นบิดาเมื่อต้นปี ด้วยการยอมรับจากทุกคนในบริษัทหลังจากเข้ามาช่วยบริหารงานนานกว่า 3 ปี ด้วยการบริหารงานอันชาญฉลาดของเขา ทำให้บริษัทขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น ปึก! “นี่มันอะไร” เขาโยนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าผู้จัดการฝ่ายบัญชีด้วยสีหน้านิ่งเรียบ จนคนที่ยืนก้มหน้าอยู่เริ่มสั่นกลัวด้วยความผิดที่ก่อ “เอ่อ ผม...” “จะลาออกหรือให้ไล่ออก” สตีฟไม่ได้พูดหรือถามอะไรขึ้นมาอีกนอกจากประโยคคำถามที่ทำเอาผู้จัดการฝ่ายบัญชีถึงกับเข่าทรุดนั่งคุกเข่าอย่างหมดแรง “ผมขอโอกาส...” “นั่นแหละโอกาสของคุณ จะลาออกหรือให้ไล่ออก” สตีฟยังคงยืนยันคำเดินออกมา เมื่อเขานั้นกรุณาสุดๆแล้ว เพราะถ้าเกิดลาออกเองก็จะไม่มีประวัติการฉ้อโกงติดตัวไปนั่นแหละโอกาสที่เขายื่นให้เพราะเห็นว่าเป็นคนเก่าแก่ “ลาออก...” “อืม ออกไปได้แล้ว” “..............” และสตีฟก็บอกออกมาอย่างไม่คิดลังเล เมื่อบริษัทของเขาเป็นบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จะให้มีการโกงกินไม่ได้อย่างเด็ดขาดเพราะมันอาจหมายถึงผลประโยชน์ที่อาจเสียหายมากมายในอนาคต “บอสคะ บ่าย 2 จะมีฝ่ายออกแบบเข้ามาเอาแบบให้เลือก บอสจะให้เข้ามาในนี้หรือที่ห้องประชุมใหญ่ดีคะ?” “ในนี้เลย เดี๋ยวผมจะออกไปทานข้าว คุณก็ไปด้วยกันสิ” “ค่ะ” จากนั้นทั้งเจ้านายและลูกน้องสาวก็เดินคู่กันออกจากบริษัทไป ทำเอาพวกสาวๆในบริษัทต่างมองมาที่นีน่าอย่างนึกอิจฉา เมื่อเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบริษัทนี้ที่ได้เข้าใกล้และสนิทสนมกับสตีฟแบบนี้ “สั่งแบบเดิมให้ผมด้วยนะเดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อน” “ได้ค่ะ” พอมาถึงห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากบริษัท สตีฟสั่งขึ้นก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำโดยมีนีน่ามองตามด้วยสายตาชื่นชมเมื่อเธอนั้นแอบมีความรู้สึกที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้องให้กับสตีฟ แต่นั่นก็แค่ความรู้สึกที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ภายใน เพราะถ้าเกิดเขารู้เธออาจถูกไล่ออกหรือไม่ก็ย้ายงานไปทำที่แผนกอื่นอย่างแน่นอน ไม่จริง...ทำไมมันถึงบังเอิญขนาดนี้ได้... ลูกจันทร์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำถึงกับรีบหลบแทบไม่ทัน เมื่อดันเจอเข้ากับคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในโลก หัวใจที่เคยนิ่งสงบกำลังเต้นโครมครามพลางมองหามารดาและลูกชายตัวน้อย ที่ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ตรงไหนกันแล้วอย่างเริ่มกลัว กลัวว่าสิ่งที่พยายามหนีมาตลอดจะตามมาเจอเธอเข้า พอเห็นว่าเขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำชายแล้ว ลูกจันทร์ก็รีบเดินออกมาพร้อมกับมองหามารดาและลูกชายของเธอไปด้วย “ไปอยู่ที่ไหนกัน...” เธอเดินหาไปรอบๆแต่ก็ไร้เงาของทั้งสอง ส่วนสตีฟ พอเข้าห้องน้ำเสร็จเขาก็ต้องหงุดหงิด เมื่อดันเดินไปเกี่ยวกับกลอนประตูเข้าจนทำให้มีแผลที่นิ้วนางข้างซ้าย เขาออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินตรงไปยังร้านขายยาเล็กๆที่เขาเคยเห็นว่ามันอยู่ชั้นบนจากชั้นที่เขาอยู่ พลั๊ก! “อุ๊!...” ขณะที่กำลังจะเดินตรงไปยังร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกลก็มีร่างเล็กวิ่งเข้ามาชนเขาเข้า สตีฟรีบก้มลงไปพยุงเด็กน้อยที่มองเขาอย่างสงสัยขึ้นยืน “โอ๊ย เจค คุณยายเหนื่อยแล้วนะลูก ทำไมวิ่งไม่หยุดแบบนี้ แฮ่กๆๆ” เสียงอันหอบเหนื่อยของคุณหญิงสายใจดังขึ้น เมื่อเอาแต่วิ่งตามหลานชายตัวน้อยจนแทบหมดเรี่ยวแรง “คุณป้า...นี่หลานของคุณป้าเหรอครับ?” สตีฟที่หันไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเจอเข้ากับคุณหญิงสายใจ เพื่อนรุ่นพี่ของ คุณหญิงแสนศิริ มารดาของเขากำลังเดินเข้ามาหาและมองเขาด้วยสายตาขอบคุณที่หยุดร่างเล็กเอาไว้ให้ “อ่าว สตีฟ เฮ้อ ขอบใจมาก เจ้าตัวเล็กนี่วิ่งเก่งเหลือเกิน ป้าแทบวิ่งตามไม่ทัน” เธอเดินเข้ามาดึงร่างเล็กเอาไปกอดเอาไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณออกมา ทำเอาสตีฟถึงกับมองหน้าเด็กน้อยอย่างรู้สึกสงสัย เพราะเมื่อไม่นานมานี้เขาพึ่งเจอกับ ลูกแพร์ และ ชิตตะวัน กับลูกชายของทั้งสอง แต่ไม่ใช่เด็กคนนี้อย่างแน่นอน “หลานของคุณหญิงป้า...เหรอครับ?” สตีฟอดถามขึ้นไม่ได้ “จ๊ะ หลานชายคนโต ลูกชายของลูกจันทร์น่ะ ดูซิ ซนเหมือนใครก็ไม่รู้ วิ่งไม่หยุดเลย นั่นไง จะไปอีกแล้ว งั้นป้าขอตัวก่อนนะ เจค! รอคุณยายด้วย” คุณหญิงสายใจบอกออกมาก่อนจะวิ่งตามร่างเล็กของหลานชายไปเมื่อจาคอปเริ่มมีแรงวิ่งต่อแล้ว ทำเอาสตีฟที่ได้ยินชื่อของลูกจันทร์เหมือนกับว่าถูกเอาค้อนหนักๆมาทุบที่หัวของเขา ชายหนุ่มค่อยๆมองตามหลังร่างเล็กที่วิ่งอยู่ด้วยความสับสน เมื่อเด็กที่พึ่งวิ่งออกไปนั้นช่างเหมือนเขาเหลือเกิน เหมือนจนเขาอดคิดบ้าๆไม่ได้ว่าอาจเป็นเด็กที่เกิดจากความผิดพลาดของเขาในคืนนั้นเมื่อ 3 ปีก่อนก็เป็นได้ ไม่จริง...เขาคงไม่รู้หรอก... ลูกจันทร์ที่เดินมาทันเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แต่ยืนใจสั่นรัว เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าจาคอปนั้นเป็นลูกชายของเขาเมื่อลูกชายของเธอนั้นไม่ได้มีส่วนไหนที่เหมือนเธอเลย นั่นก็แสดงว่าจาคอปนั้นเหมือนกับคนเป็นพ่อของเขานั่นเอง “บอสคะ...เอ่อ บอส...” “หือ?...มีอะไรรึเปล่า?” นีน่าที่เห็นเจ้านายแทบไม่แตะต้องอาหารตรงหน้าอดเรียกขึ้นไม่ได้ ทำเอาคนที่คิดเกี่ยวกับเด็กน้อยที่พึ่งเจอถึงกับสะดุ้ง “เปล่าค่ะ เอ่อ พอดีอีกครึ่งชั่วโมงบอสมีนัดกับฝ่ายออกแบบ...” “อ้อ งั้นไปกันเลยก็ได้...เก็บตังค์ด้วยครับ” “..............” และนีน่าก็อดสงสัยกับท่าทีแปลกๆของเจ้านายไม่ได้ เมื่อเขาแทบไม่แตะต้องอาหารตรงหน้าแถมเอาแต่ครุ่นคิดและทำหน้ายุ่งอย่างที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จากนั้นทั้งสองก็พากันกลับเข้าไปที่บริษัท
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD