มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วโว้ย!
บ้านเดี่ยวในหมู่บ้านจัดสรรราคาไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลักย่านปทุมธานี ‘กลิ่นหอม’ หญิงสาวที่ใช้ชีวิตแบบฟรีแลนซ์ที่เรียกว่านักเขียนมาตั้งแต่เรียนจบไม่คิดไม่ฝันว่าเงินยาไส้อันน้อยนิดแต่ละเดือนของเธอจะสามารถกู้เงินซื้อบ้านหลังนี้ได้ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะความพยายามและความตั้งใจ ตอนนี้เธอถึงได้มายืนจังก้าอ้าแขน ประกาศกร้าวว่า...
“มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วโว้ย!”
เสียงนั้นดังพอที่ข้างบ้านจะได้ยิน ทำเอาเพื่อนสนิทชายแต่หัวใจสาวน้อยต้องรีบเปิดกระจกรถซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านมาร้องบอก
“ดีใจอะไรของแกหนักหนานังหอม ก็แค่ซื้อบ้านได้”
“เออ ฉันไม่ได้รวยเหมือนแกนี่ ถ้ารวยเหมือนแก พ่อแม่มีมรดกให้ คำว่า ‘ก็แค่ซื้อบ้านได้’ ฉันก็ไม่พูดหรอกย่ะนังมนตรี”
กลิ่นหอมยอกย้อนไม่จริงจังนัก ส่วนมนตรีก็ได้แต่ถอนหายใจพรืดที่ถูกเรียกด้วยชื่อจริง
“เรียกฉันมนตรีอีกที ฉันจะฟาดปากแกด้วยกระเป๋าเสื้อผ้านี่แหละ อุตส่าห์มานอนเอาฤกษ์เอาชัยที่บ้านใหม่เป็นเพื่อนแท้ๆ โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆ”
พูดพลางทำท่าจะลงจากรถไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่อยู่กระโปรงท้ายรถมาฟาดหน้าเพื่อนสาวจริงๆ หากแต่กลิ่นหอมกลับหัวเราะคิกคัก ชอบเหลือเกินที่ได้หยอกเย้าเพื่อนให้หัวเสียแบบนี้
“ฉันก็แค่ล้อแกเล่นเอง”
“เออ ล้อเล่นให้ฉันด่า”
“ใช่ แกด่าตลกอะ เลยชอบให้ด่า”
“ฉันว่าแกต้องเป็นโรคแน่ๆ ยัยหอม ว่างๆ ไปหาหมอ ตรวจสุขภาพจิตบ้างนะ”
มนตรีบ่นพึมพำไปเรื่อย กระนั้นก็ทำหน้าที่ของตนตามที่กลิ่นหอมขอร้องเมื่อหลายวันก่อนว่าให้มานอนเป็นเพื่อนในวันเข้าบ้านวันแรก เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกับบ้านหลังใหม่ ในฐานะเพื่อนที่ดี มนตรีจึงตกปากรับคำโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ชักจะคิดผิดแล้วที่ยอมรับคำ เพราะแทนที่จะได้มานอนอย่างอารมณ์ดี กลับโดนเพื่อนสาวขี้แกล้งหยอกเย้าจนหน้าบูดบึ้งเสียนี่
ทว่าก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากบ่นพึมพำเรื่อยเปื่อย พลันลงจากรถไปคว้าเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบขนาดย่อมของทั้งคู่เข้ามาในตัวบ้าน กลิ่นหอมกวาดตามองไปรอบๆ ห้องรับแขกขนาดเล็กที่มีเฟอร์นิเจอร์บางส่วนมาลงและตกแต่งแล้ว และวันนี้ที่เธอตัดสินใจมานอนก็เพราะเธอเชื่อว่าวันนี้เป็นวันฤกษ์ดีนั่นเอง
จะไม่ให้ดีได้อย่างไรล่ะ เธอดูปฏิทินมา บอกว่าเป็นวันมงคลก็เท่ากับว่าเป็นวันมงคลอย่างแน่นอน
“แล้วจะเอายังไง คืนนี้นอนโซฟา?”
มนตรีถามเมื่อเอาข้าวของเข้ามาเก็บในบ้านเป็นที่เรียบร้อย พลันกวาดตามองไปยังโซฟาทรงตัวแอลซึ่งตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น ขณะที่กลิ่นหอมพยักหน้า
“อือ สั่งเตียงไปแล้วแต่ยังไม่มาส่ง คืนนี้แกกับฉันนอนกันบนโซฟานี่แหละ”
“จะให้ฉันนอนใกล้ๆ กับแกว่างั้น?”
“หรือแกจะนอนบนพื้นก็ได้ ไม่มีปัญหา”
มนตรีถอนหายใจออกมาเต็มแรงกับท่าทางไม่ยี่หระของหญิงสาว สุดท้ายก็อดปากสอนออกไปไม่ได้
“ฟังนะยัยหอม ประเด็นที่ฉันถามมันไม่ได้เกี่ยวกับที่ว่านอนโซฟาหรืออะไร ปัญหาก็คือแกเป็นผู้หญิง แล้วฉันก็เป็นผู้ชาย มานอนด้วยกันแบบนี้มันไม่เวิร์กมั้ง”
“ไม่เวิร์กยังไง แกเป็นเพื่อนสนิทฉันนี่ สนิทมาตั้งแต่ตอนเรียนมหา’ลัยด้วย เมื่อก่อนก็นอนด้วยกันออกจะบ่อย”
กลิ่นหอมพูดไปตามตรง นึกคิดสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เธอกับมนตรีและเพื่อนคนอื่นๆ ก็มักมานอนรวมกันที่ห้องพักของเพื่อนคนใดคนหนึ่งเป็นประจำ ทว่าสำหรับมนตรีในตอนนี้แล้ว การกระทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ไม่สมควรสักเท่าไรนัก
“แกอย่าไว้ใจใครมากเลยไอ้หอม โดยเฉพาะพวกผู้ชาย เพื่อนนี่แหละตัวดีเลย ดีนะที่ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง ไม่อย่างนั้นได้แกเป็นเมียไปแล้ว”
พูดมาอย่างนี้ ทำไมกลิ่นหอมจะไม่เข้าใจ เธอไม่ได้โง่จนหัวทึบ แค่มนตรีเปิดปาก เธอก็เข้าใจตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าเธอไม่มีเพื่อนสนิทคนไหนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเท่ากับมนตรี เลยทำให้อดไม่ได้ที่จะทำหูทวนลม อีกอย่าง เธอมั่นใจว่าผู้ชาย...หัวใจสีชมพูอย่างมนตรีคงไม่ทำอะไรเธอแน่
ไม่มีวัน...ไม่มีทางทำอะไรล่วงเกินเธออย่างแน่นอน เพราะมนตรีก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ถึงขนาดออกปากต่อท้าย
“และต่อให้ฉันชอบผู้หญิง ฉันก็ไม่เอาแกมาทำเมียหรอก รู้เช่นเห็นชาติกันแบบนี้ คิดว่าต้องเป็นผัวเมียกับแกแล้วก็ขยะแขยง”
สิ้นคำพูด กลิ่นหอมก็หัวเราะร่วน ไม่ยี่หระกับคำพูดของเพื่อนตัวเองเลยสักนิด ราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นสิ่งที่มนตรีพูดเป็นประจำอยู่แล้ว
“จ้า รู้แล้วจ้า แล้วนี่แกจะนอนตรงไหน ตรงฝั่งนั้นไหม มันยาว แกจะได้เหยียดขาได้ เดี๋ยวฉันนอนตรงนี้เอง”
และก่อนที่มนตรีจะได้บ่นต่อ จู่ๆ หญิงสาวก็เปลี่ยนเรื่อง ชี้นิ้วไปที่ส่วนที่เป็นตัวแอลของโซฟา มนตรีมองตามแล้วปฏิเสธลั่น
“ไม่เอาอะ มันหันเท้าออกนอกบ้าน ฉันถือว่าเวลานอนไม่ควรเอาเท้าออกประตูนอกบ้าน”
“โอเค งั้นฉันไปนอนตรงนั้นแทน”
เรื่องที่นอนไม่มีปัญหา กลิ่นหอมนอนตรงไหนก็ได้ เธอถือว่าบ้านหลังนี้เป็นของเธอแล้ว เรื่องสำคัญต่อหลังจากนั้นคือเรื่องของกินต่างหาก พอตกลงเรื่องที่นอนกันได้แล้ว กลิ่นหอมก็ชักชวนให้มนตรีไปขับรถตะลอนหาร้านอาหารอร่อยๆ ในละแวกบ้านกิน เพื่อจะได้รู้สำรวจบริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านด้วย มนตรีรับคำอย่างรวดเร็ว ก่อนทั้งคู่จะพากันขึ้นรถและขับออกไป