ตั้งแต่มาอยู่บ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ชีวิตของมนรดาก็เป็นเหมือนทาสในเรือนเบี้ยที่ต้องทำงานจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต ตื่นตีสี่มาหุงข้าวทำอาหาร ตีห้าอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดแล้วขึ้นไปบำเรอผู้ชายคนนั้น เจ็ดโมงเช้าลงจากเตียงมายกข้าวยกน้ำไปให้เขา ตอนเที่ยงกินมื้อกลางวันเสร็จก็ต้องนอนกับเขา แล้วก็ไปล้างจานถอนหญ้าบริเวณรอบๆ บ้าน ตกเย็นก็ทำอาหารให้เขากิน หลังสองทุ่มก็ขึ้นไปแก้ผ้านอนรออยู่บนเตียง ทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนล่วงเลยมาห้าวันเต็มแล้ว ช่วงบ่ายของวันนี้ ผู้ชายเลวทรามคนนั้นไม่อยู่ เธอจึงมีเวลานั่งอู้จับเจ่าอยู่กับตัวเอง แววตาที่เคยไร้ความรู้สึกมาหลายวันเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ซบใบหน้าลงปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาจนเปียกแขนเสื้อไปหมด แต่พอได้ยินเสียงรถกระบะดังแว่วเข้ามาใกล้ มนรดาจึงรีบร้อนปาดแขนเช็ดน้ำตาจนแน่ใจว่าไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ ถึงได้ก้มหน้าก้มตาถอนห