เธอคิดว่านี่มันไม่ใช่ความบังเอิญแล้วล่ะ แต่มันเป็นการลงโทษของพระเจ้าต่างหาก!
เมื่อคืนกว่าที่เธอจะสลัดพายุออกไปได้ ก็เล่นเอาเกือบต้องทำโอที จริงอยู่ว่าตั้งแต่รับลูกค้ามา เขาเป็นลูกค้าที่ค่อนข้างสุภาพในระดับหนึ่ง (สัมผัสเฉพาะในพื้นที่ที่สัมผัสได้) แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เธอหลงเคลิบเคลิ้มไปกับเขาเหมือนอย่างผู้หญิงคนอื่นสักหน่อย โดยเฉพาะไอ้คำพูดที่หวังจะเคลมเธอทุกครั้งที่มีโอกาสนั้น ทำเอาเธอถึงกับยกนิ้วกลางในใจให้อยู่หลายสิบครั้งเลยทีเดียว
สุดท้ายเขามันก็เหมือนกับผู้ชายห่วยๆ ที่หาได้ง่ายยิ่งกว่ากล้วยหอมในร้านสะดวกซื้อ ไม่สิ กล้วยหอมที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์อยู่สูงกว่าผู้ชายคนนั้นเยอะ เอาเป็นว่าพายุก็เป็นแค่ผู้ชายเฮงซวยที่ไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่งด้วยเด็ดขาด
เห้อ…เธอชักจะสงสารสาวๆ ที่เข้าไปติดกับดักของนายนั่นแล้วสิ ถ้าได้รู้ว่านายนั่นมันนินทาผู้หญิงของตัวเองยังไงล่ะก็ คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้แน่ๆ
รวมทั้งตัวเธอด้วย!
แต่พอตื่นขึ้นมาและออกไปเรียน ก็เจอกับเขาที่หน้าหอพักอีกแล้วนี่สิ จนทำให้เธอคิดว่าเขาพักอยู่หอพักนี้หรืออย่างไร หรือว่าจะมารับผู้หญิงของเขาที่คบด้วย ได้ข่าวว่ารอบนี้เป็นถึงดาวคณะบริหารเลยนี่ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น จนมาเจอกันอีกครั้งในตึกเรียนของคณะที่ทำให้เธอถึงกับคิ้วขมวด เพราะจำได้ว่านายนั่นเป็นบุคคลที่ไม่คิดจะเข้าเรียนต่อให้โดนอาจารย์ตัดเอฟก็ตาม
แต่ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นก็คือได้เจอกับเขาในหอสมุด!
“ไพลิน มาทำงานเหรอ” พายุทักด้วยน้ำเสียงสดใสเป็นมิตรชนิดที่ผู้หญิงคนอื่นได้ยินคงจะเคลิ้มแน่ๆ
เพียงแต่มันไม่ได้ผลกับคนที่แทบจะรู้ไส้รู้พุงอย่างไพลิน แต่ถ้าเธอไม่ได้เป็นพริตตี้ เธอก็อาจจะหลงคารมของเขาและแอบเผลอคิดเข้าข้างตัวเองด้วยเช่นกัน
“อืม มาทำงานน่ะ” ไพลินตอบกลับสั้นๆ เหมือนอย่างเคย จากนั้นวางหนังสือลงบนโต๊ะที่จองเอาไว้ ซึ่งหนังสือส่วนใหญ่เป็นนิตยสารแฟชั่นและโฆษณา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรายงานของวิชาออกแบบสื่อนิเทศที่วางพายุเอาไว้เป็นนายแบบนั่นแหละ
พายุยกยิ้มน้อยๆ เมื่อได้รับคำตอบแสนสั้นแต่ได้ใจความ แต่มันกลับฟังดูไร้เยื่อใยราวกับไม่อยากพูดคุยกับเขาต่อ เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเจอ ไม่ใช่แค่ไม่ง่าย แต่กลับตั้งกำแพงเอาไว้สูง และนั่งมองเขาอยู่บนหอคอยด้วยสายตาเย็นชา
เขาที่เคยคว้าหัวใจของผู้หญิงที่ใจแข็งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จึงไม่แปลกที่อยากจะเอาชนะคนกำแพงสูงอย่างไพลิน
“ใช่งานกลุ่มของเราหรือเปล่า เราก็อยากช่วย” พายุเอ่ยพร้อมกับถือวิสาสะหยิบนิตยสารแฟชั่นเล่มหนึ่งมาเปิดดูผ่านๆ
ไพลินเหลือบมองชายที่อยู่ๆ ก็นั่งลงข้างเธอด้วยความสงสัย
อย่างนายเนี่ยนะอยากช่วยงาน วันนี้หิมะคงตกแน่ แต่ถ้าจะดีก็ช่วยอยู่เฉยๆ เถอะ อย่าทำให้งานของเธอวุ่นวายไปมากกว่านี้เลย (แปล : อย่ามาทำเป็นรู้จักกัน)
โชคดีที่นั่นเป็นแค่ความคิด
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นยื่นนิตยสารเกี่ยวกับความนิยมศิลปะตามยุคสมัยให้ชายหนุ่มอีกสองเล่ม
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยอ่านแล้วลิสต์เทรนด์ศิลปะที่คิดว่ากำลังมาแรงในช่วงนี้ให้ทีนะ” แล้วก็ช่วยหุบปากและเลิกคุยกับเธอได้แล้ว เพราะนายมันโดดเด่นเกินไป
ไพลินยิ้มให้อย่างเป็นมิตร และรีบหันไปสนใจงานของตัวเองต่อทันที
พายุผู้ถูกตัดเยื่อใยอีกครั้งถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะไม่คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองจะใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะให้ความสนใจก่อนแบบนี้
แต่ทว่ารอยยิ้มเพียงครู่เดียวของไพลินกลับทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อย หรือลักยิ้มที่อยู่ข้างแก้มเพียงข้างเดียว
“ได้สิ งานนี้ฉันจะช่วยเธอเอง” พายุยิ้มบางให้กับความห่างเหินของเพื่อนร่วมรุ่น แต่ในใจกลับหมายมาดอยากเอาชนะมากขึ้น อยากรู้ว่าถ้าเขายอมเล่นด้วยแล้ว ผู้หญิงที่ดูใสซื่อแบบนี้จะทนได้นานเท่าไหร่