ตอนนี้น่านน้ำไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ บิดไอ้เกอร์คู่ใจจนมามาถึงห้องแถวรายวันและชั่วคราวเขาก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในห้องแถวรายวันทันที และนั่นยิ่งทำให้คนที่ถูกอุ้มฉุดมากรีดร้องโวยวายเสียงดัง พร้อมทุบตีแขนของเขาที่บิดคันเร่งอยู่
“นายพาฉันมาที่ห้องแถวรายวันทำไมนายน่าน ไม่นะ นายไม่ปล้ำฉันนะ”
เขานิ่งเงียบไม่พูดตอบ ไม่แสดงสีหน้าหรืออารมณ์ใดๆ ออกมาให้เธอได้เห็น มีเพียงใบหน้านิ่งขรึมดุดันที่มีหนวดเคราล้อมกรอบหน้าไว้เท่านั้น และตอนนี้พิมพ์มาดารู้สึกหวาดกลัวเมื่อรถที่นั่งมาจอดนิ่งสนิทพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ดับลง
“ยังไงเราก็ต้องแต่งงานกันใช่ไหม” เขาพูดพร้อมกับก้าวขาลงจากรถ พร้อมกับอุ้มเธอขึ้นพาดไหล่อีกครั้ง
“มะ...ไม่นะนายน่าน ฉันไม่แต่งงานกับคนถ่อยอย่างนายแน่นอน” เธอส่ายหัวแรงๆ พร้อมกับทุบตีหลังเขาแรงๆ เพื่อให้ปล่อยเธอ
“ยังไงเธอก็จะต้องแต่งงานกับฉัน”
“ไม่! ไม่มีทาง ฉันไม่แต่งงานกับคนถ่อยนิสัยป่าเถื่อนอย่างนายหรอก” ยิ่งพูดยิ่งไปจี้หัวใจของน่านน้ำ และภาพที่เธอส่งยิ้มหวานบิดตัวม้วนอายปลัดธนูก็แทรกเข้ามาในหัวจนต้องกัดกรามแน่น จนมีเสียงดังออกมาให้คนที่ดิ้นบนไหล่ได้ยิน
กรอด!
พิมพ์มาดาหยุดดิ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงกัดกรามของเขาดัง ตอนนี้เขาโกรธเหรอ แล้วเขาโกรธด้วยเรื่องอะไร และอย่าบอกนะว่าโกรธเธอ
“นะ..นายคงไม่ทำอะไรฉันใช่ไหม” ถามเสียงสั่น
เงียบ!
ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีเพียงเสียงย่ำเท้าของเขาที่เดินไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับแขกของห้องเช่ารายวัน
“นายน่านนายไม่ปล้ำฉันใช่ไหม นายก็ไม่อยากแต่งงานฉันก็ไม่อยากแต่งงานไม่ใช่เหรอ นายไม่ทำหรอกใช่ไหม” ตอนนี้พิมพ์มาดาไม่รู้เลยว่าตัวเองทำไมถึงกลัวผู้ชายคนนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ปากเก่งไม่กลัวแต่ตอนนี้น่านน้ำไม่ใช่คนที่ต่อปากต่อคำได้เหมือนก่อนแล้ว เธอได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของเขาดังออกมาพร้อมกับเสียงกัดกรามของเขา
“ขอเช่าหนึ่งห้องสองชั่วโมง” เขาบอกพนักงานพร้อมกับอีกมือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนของตัวเองแล้วนำแบงค์พันออกมาส่งให้พนักงานและก็พูดต่อเมื่อเห็นสายตาสงสัยของพนักงานที่มองมาทางตน
“พอดีผมกับเมียทะเลาะกันนิดหน่อยเลยอยากปรับความเข้าใจกันน่ะ” เขาพูดแค่นั้นพนักงานก็ยิ้มรับเงินที่เขาส่งให้ พร้อมกุญแจห้องและบอกเลขห้องเขา
“คุยกันดีๆ นะพี่”
“อือ ถ้าหากว่าเกินเวลาไม่ต้องไปเรียกนะ ฉันจะจ่ายค่าชดเชยเวลาให้เอง” พูดแค่นั้นก็พาคนที่พยศตลอดทางเดินไปยังห้องที่เช่าทันที
“น้องช่วยพี่ด้วย พี่ไม่ใช่เมียไอ้หนวดนี่สักหน่อย ช่วยพี่ด้วย” พิมพ์มาดาขอความช่วยเหลือจากพนักงาน แต่เด็กพนักงานได้แต่หัวเราะขำเธอ
“นายน่านนายทำบ้าอะไรของนาย เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมไปบอกพนักงานแบบนั้น”
“ทำไมจะไม่ได้เป็น เราเป็นคู่หมั้นกัน” เขาตอบเสียงเรียบ เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องแล้วใช้กุญแจที่รับมาไขเข้าไปในห้องทันที
“แต่เรายังไม่ได้หมั้นกันสักหน่อย ก็แค่ผู้ใหญ่พูดกัน” เธอแย้งเขา
น่านน้ำไม่ตอบ เขาปิดล็อกประตู อุ้มเธอเดินไปยังเตียงที่อยู่กลางห้องทันที ในห้องนี้มีเพียงเตียงและก็ตู้เย็นเท่านั้น เพราะมันเป็นห้องที่หนุ่มสาวหรือคนที่ชอบมีเล็กมีน้อยชอบมาใช้บริการเท่านั้น