Chapter 16 สามีเพื่อนเหรอเนี่ย
นรานิลทำตาโตเหมือนนึกอะไรได้อีกอย่าง หันมาจ้องหน้าฉันด้วยแววตาจริงจัง
“หรือแกจะมาใช้บริการจัดงานนอกสถานที่ของบริษัทฉัน โอ้! ว้าว! มันเยี่ยมยอดมากเลยซาร่า เจ้าแม่โรงแรมอย่างเกร็ดดาวจะใช้บริการบริษัทจัดอีเวนต์เล็กๆ ของสาวพราวเสน่ห์อย่างนรานิลเนรมิตงานแต่งงานให้”
ฉันส่งค้อนให้เพื่อนอย่างหมั่นไส้ เพราะรู้ว่าอีกคนจงใจที่จะแกล้งแซวฉันเท่านั้น
“งานแต่งของฉันจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แกทำได้มั้ยล่ะ โจทย์ง่ายๆ”
นรานิลหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าๆ โอเคๆ ฉันจะได้เตรียมตัดชุดรอและพร้อมที่จะไปแย่งซีนเจ้าสาวในงาน ว่าแต่มีชื่อเจ้าบ่าวหรือยังล่ะ อย่าใช้คนเขียนบทคนเดียวกันกับยัยป่านล่ะ ละครฉายซ้ำมันไม่สนุกหรอกนะ”
คำหยอกเย้าของนรานิลกระแทกตรงขั้วหัวใจของฉันอย่างจังอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ฉันคงไม่เครียด และเรื่องนี้ฉันก็บอกใครไม่ได้เหมือนกัน
นรานิลยังไม่เชื่อว่าเพื่อนสาวจะแต่งงาน ยิ้มล้อเลียนอีกครั้ง “มาใช้บริการบริษัทจัดหาคู่ของฉันมั้ย เธอสามารถเลือกชื่อเจ้าบ่าวได้เลย จะเป็นแบบเจ้าบ่าวชั่วคราวหรือถาวรก็ได้”
“แหม...ได้ทีขายของเลยนะยะ เจ้าบ่าวนะไม่ใช่ติดกันสาดบ้าน จะได้มีแบบถาวรและชั่วคราว”
“พูดแบบนี้แสดงว่ามีชื่อเจ้าบ่าวในการ์ดแล้วสิ เอาเวลาที่ไหนไปคบผู้ชายวะ ฉันเห็นแกทำงานตลอดเวลา”
“จะยุ่งงานแค่ไหน สำหรับเรื่องผู้ชาย มันก็ต้องมีแบ่งเวลาไปแซ่บบ้าง จะให้เพื่อนอย่างพวกแกรู้หมด มันจะไปสนุกอะไร”
ฉันยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนอย่างเจ้าเล่ห์ซ่อนแผน จริงๆ ฉันแค่กำลังกลบเกลื่อนไม่ให้นรานิลจับผิดเท่านั้น
“นี่ฉันก็รอความสนุกจนเนื้อเต้นอยู่แล้วเนี่ย” นรานิลทำหน้าเจ้าเล่ห์กลับ
‘กรรมจะตามสนองแล้วสิยัยดาว’
พอฉันเห็นแววตาของเพื่อนก็เริ่มกลัว แต่มีหรือฉันจะยอมจนมุม รีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก...ไปห่วงยัยป่านดีกว่า แกช่วยสืบประวัติผู้ชายคนนี้หน่อยสิ” ฉันเขียนชื่อลงบนกระดาษและส่งให้นรานิล ขอยืมมือของป่านฝันสืบเรื่องของตัวเองไปด้วย ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“ทวิช กุลบริฉัตร” นรานิลอ่านทวนก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน
“นี่ชื่อสามียัยป่านเหรอ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่ากูรูอย่างแกจะต้องหาคำตอบได้อย่างแน่นอน”
“ชมเพื่อหลอกใช้ว่างั้น ถามจริง! แกจะใส่ใจเรื่องของยัยป่านทำไมนักหนาวะ”
“ฉันก็แค่ไม่อยากให้ยัยป่านถูกหลอก”
นรานิลหรี่ตามองฉันอย่างไม่ค่อยเชื่อ “แกแน่ใจนะว่าไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง”
“แน่ใจสิ” ฉันตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่ทิ้งร่องรอยความพิรุธให้เพื่อนได้จับผิด
“โอเค เดี๋ยวฉันจัดการให้”
ฉันยิ้มพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ก็แทบหุบยิ้มไม่ทันเมื่อเจอสายตาคาดคั้นของนรานิลที่ต้องไม่กะพริบ
“คราวนี้วกมาที่เรื่องของแก แกจะแต่งงานกับใครวะ อันนี้ถามจริงๆ ตอบมาตรงๆ”
ฉันทำหน้าเซ็งเบื่อหน่ายกลบเกลื่อน “เออ...ถึงวันนั้นแล้วแกจะรู้เองแหละน่า รู้จักคำว่าเซอร์ไพรส์มั้ยแก”
นรานิลถอนหายใจเฮือก ฉันเดาว่าคงจะรำคาญมากกว่าสิ่งอื่น “แล้วแกมาหาฉันมีธุระอย่างอื่นหรือเปล่า”
“คิดถึงเพื่อนไม่ได้หรือไง”
“คิดถึงน่ะได้ แต่มันผิดวิสัยนักธุรกิจอย่างแก บอกมาตามตรง”
“วันนี้ฉันว่างจริงๆ นัดเพื่อนกินข้าวกันมั้ย ไปที่ร้านรินนี่ก็ได้” ฉันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง จนกระทั่งนรานิลยอมจำนน แม้จะทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจกับฉันก็ตามที แต่นั่นก็ถือว่าฉันทำสำเร็จ
“ก็ได้นะ แกโทรไปสิ ฉันขอเคลียร์งานตรงนี้ก่อน” นรานิลบอกฉันเสร็จก็หมุนตัวกลับไปทำงานของเธอต่อ แต่อรอินทร์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาก่อน
“แย่แล้วค่ะ แย่แล้วคุณโซดา”
“แค่เจอกองงานสูงท่วมหัวเอาไว้ให้ฉันสะสางยังไม่แย่พออีกเหรออรอินทร์” นรานิลเหลือบหางตามองลูกน้องสาว
อรอินทร์ยิ้มแหยส่งให้นรานิลสลับกับฉัน คนนอกอย่างฉันกำลังสงสัยว่าไปเกี่ยวอะไรด้วย
“แต่อันนี้ใหญ่กว่าจริงๆ ค่ะ”
“ก็ว่ามาสิมัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ”
“ตำรวจกำลังยกรถของคุณดาวไปโรงพัก”
“ห่ะ! ว่าอะไรนะ” ฉันตกใจลุกขึ้นพรวดวิ่งถลาไปที่หน้าบ้านก่อนทุกคน แต่ก็เห็นเพียงท้ายรถของตัวเองที่ถูกรถของตำรวจลากออกไปต่อหน้า ต่อตา แน่นอนว่าฉันกำลังงงเป็นไก่ตาแตก เป็นครั้งแรกที่รถโดนตำรวจยกออกไป
นรานิลวิ่งตามออกมา คนที่มีคดีกันมาก่อนรู้ได้ในทันที
“ต้องเป็นตานั่นแน่เลย เราจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว” แม่สิงห์สาวแทบจะพ่นไฟ เดินไปที่หน้าบ้าน ฉันเดินตามออกไปอย่างงงงงไม่ต่างจากเดิม
ผู้ชายแต่งตัวสุภาพในชุดเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านยืนส่งยิ้มฟันขาวรออยู่ เพียงแค่สัมผัสด้วยตาก็รู้ว่าเขาก็เป็นผู้ชายที่มีแรงดึงดูดมหาศาล สูง หล่อ เท่ห์ รอยยิ้มมีเสน่ห์ ผู้ชายอะไรน่าพาตัวไปซบไหล่เป็นบ้า
ในขณะที่ฉันกำลังเพ้อให้กับรอยยิ้มดึงดูดนั่น แต่แม่สิงห์สาวกลับเดินเข้าหาเขาอย่างเอาเรื่องพร้อมกับเท้าสะเอวและชี้หน้า
“ฝีมือของนายอีกแล้วใช่มั้ย”
เจ้าของร่างสูงทรงเสน่ห์ส่งยิ้มลอยหน้าลอยตาตอบกลับอย่างท้าทาย ไม่เกรงกลัวแววตาอำมหิตของแม่สิงห์สาวสักนิด
“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ถ้าคุณจะทำธุรกิจก็ย้ายไปเปิดกิจการที่อื่น ที่นี่จัดสรรเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย”
“อย่าบอกนะว่า เขาแจ้งตำรวจให้มายกรถของฉันไป” ฉันรีบกระเถิบเข้าไปหาและกระซิบถามเพื่อนสาว
“เออสิ! หมอนี่คู่ปรับตลอดกาลของฉัน วันไหนไม่มีเรื่องกับหมอนี่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก นี่เพิ่งจะกลับมาวันแรกก็จัดฉลองให้เลย”
พอได้รู้เหตุผลความหล่อของเขาก็เลือนหายไปในอากาศ ผู้ชายอะไรใจแคบที่สุด ฉันไม่ได้จอดรถกีดขวางการจราจรสักหน่อย ตรงนี้มันก็เป็นริมถนนชัดๆ
“แต่ฉันไม่ได้จอดรถกีดขวางการจราจรของคุณนะคะ” ฉันรีบอธิบายก่อนที่เรื่องราวจะเลยเถิดบานปลายไปมากกว่านี้
“คนเสียมารยาทและชอบเอาเปรียบคนอื่นอย่างพวกคุณก็คิดอย่างนี้ คุณรู้ได้ไงว่าผมจะไม่ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้”