"แสดงว่ามีสิ่งไม่ดีตามพี่มาเหรองั้นมันจะโกรธเธอมั๊ยที่มาช่วยพี่ พี่ชักเป็นห่วงเธอแล้วซิ" แพรพลอยกล่าว
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูมีนี่อยู่ไม่เป็นไรค่ะ งั้นหนูขอตัวกลับเลยนะคะ เพิ่งจะสี่โมงเย็นหน่อย ๆ เอง บ้านหนูอยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไรหรอกค่ะ ไปนะ สวัสดีค่ะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้คนพี่แล้วมาขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างระมัดระวัง เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งนั้นต้องตามเธอมาแน่ ๆ
ทางด้านกรวรรธได้สั่งให้ลูกน้องติดตามวันพระไป พบพิกัดว่าอยู่ที่บ้านพนักงานของโรงแรมคนนึงจริง ๆ ด้วย แต่สายรายงานมาว่าคนตัวเล็กนั่งไหว้พระภูมิเจ้าที่แล้วนั่งคุยกันสักพักก็กลับออกมา
แปลกคนจริงยัยเด็กคนนี้ มาส่งเค้าแล้วตัวเองบินเดี่ยวนี่นะ คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์เกิลรึไง.. กรวรรธได้แต่บ่นงึมงำในลำคอขณะขับรถตามอยู่ห่าง ๆ ในขณะเดียวกันก็มีลมวูบหมุนวนลูกหนึ่งพัดไปที่คนตัวเล็กมาแรงจนคนตัวเล็กเสียหลัก แต่ดีที่คนตัวเล็กมีสติพยายามประคองรถเข้าข้างทางและหยุดยืนล้วงอะไรสักอย่างจากคอขึ้นมาพนมมือยกมือไหว้แล้วพูดอะไรสักอย่าง สักพักพายุหมุนก็ค่อยสลายตัวหายวับไปกับตาอย่างน่าอัศจรรย์
หรือว่ายัยเด็กนี่รู้ตัว เห็นอะไรแล้วเป็นห่วงเพื่อนงั้นเหรอ ยอมเอาตัวเองเข้าเสี่ยงงั้นเหรอ ยัยเด็กโง่เอ๊ย กรวรรธได้แต่หัวเสียและขับรถตามคนตัวเล็กอยู่ห่าง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องคอยตามห่วงคอยช่วยเหลือยัยโย่งนี้ด้วย
เขาพยายามตั้งสติแล้วหยิบสายสร้อยที่ห้อยพระเครื่องเกจิอาจารย์ดังขึ้นมาอาราธนาอยู่ในใจแล้วขับรถอย่างระมัดระวัง จนคนตัวเล็กเลี้ยวเข้าไปในซอยซอยหนึ่งแล้วหยุดรถแล้วเปิดประตูเข้าไปทำท่าว่าจะเปิดหมวกกันน็อคแสดงว่าถึงที่หมายแล้วเขาจึงทำท่าขับรถเลยไปอีกมุมหนึ่งแล้วเลี้ยวรถกลับมาก็พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่และคนตัวเล็กหายไปแล้วเป็นไปได้ว่าคนตัวเล็กได้เข้าบ้านไปแล้ว สักพักเขาเห็นคนตัวเล็กอยู่ในลุคกางเกงขาสั้นแต่เป็นเสื้อตัวเดิม
นั่น ไม่ระวังตัวบ้างเลยใส่กางเกงขาสั้น เดินทั่วบ้านอยู่บ้านคนเดียวหรือเปล่าเนี่ย สักพักก็เห็นเด็กผู้ชายที่เขาเห็นซ้อนท้ายจักรยานยนต์ที่เธอเป็นคนขับในวันนั้นเดินเข้ามาที่รถของเขา
ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก.. (เสียงเคาะกระจก) กรวรรธจึงลดกระจกลง
"พี่มาหาใครหรือเปล่าครับ ผมเห็นพี่จอดอยู่สักพักแล้ว มีอะไรให้ช่วยมั๊ยครับ"
"อ้อ พี่หลงทางนะครับ มาหาเพื่อนแล้วเปิด จี.พี.เอส.มามันพามาซอยนี้ แต่ไม่เห็นมีใครมารอรับเลย เพื่อนมันบอกว่าจะออกมารอหน้าบ้าน สังสัยจะผิดซอย"
"โอ่ย เชื่อพี่ จี ไม่ได้ทุกอย่างหรอกครับ ผมยังเคยเลย บางทีโท-สับเราไม่อับเดทแผนที่ด้วยก็มี เพื่อนชื่อไรเหรอครับเผื่อผมรู้จัก ยิ่งพี่สาวผมยิ่งกว้างขวางครับ เค้ารู้หมดแหละ นู่นเดินอยู่หน้าบ้านพอดี" เด็กหนุ่มน้อยหน้าตาดีตอบอย่างแสนซื่อ
"ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่โทรหามันเองละกันทีแรกว่าจะไม่โทร สงสัยต้องโทรล๊ะ ขอบคุณมากหนุ่มน้อยพี่ไปนะเข้าบ้านเถอะ" กรวรรธกล่าวอย่างอารมณ์ดีและขับรถออกไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
รถสวยเว่ย ถ้าจะแพง คนรวยนี่เนาะ.. อีกด้านของคนที่อยู่ข้างในบ้าน
อีกด้านของคนที่เป็นห่วงน้อยชายเป็นที่สุด
"นายเพิ่มบุรุษไปยืนทำมิวสิคอะไรตรงน้าน.. เข้าบ้านเดี๋ยวก็แดดเผาตายหรอก มาช่วยพี่ทำกับข้าวหน่อย” คนพี่เรียกคนน้องเสียงแจ๋ว
"คร้าบ…จะไปเดี๋ยวนี้แล้วคร้าบ…"
_________________________
เช้าวันทำงาน
เพ็ญสุดาตื่นตั้งแต่ไก่โห่รีบช่วยตายายกับข้าวล้างถ้วยชาม และรีบแต่งตัวไปทำงานให้ถึงที่ทำงานก่อนหกโมงเช้าครึ่งเพราะต้องรีบไปรับเวรดึก เธอเลือกที่จะใช้จักรยานยนต์ไปทำงานเพราะสะดวกกว่ารถยนต์เป็นไหน ๆ และทิ้งไว้ให้คุณตาขับจะดีกว่าซึ่งคุณตาของเธอก็อายุห้าสิบปลาย ๆ ยังพอขับรถได้ ส่วนน้องชายก็เลือกที่จะขึ้นรถประจำทางและขับจักรยานยนต์ไปบ้างในบางวันถ้าตื่นสายไม่ทันรถประจำทาง
@โรงแรมxxxxx@แผนกรีเซฟชั่น
"มารับเวรเช้าแล้วค่ะ" เพ็ญสุดากล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มสดใส
"อ้อมาแล้วเหรอ นี่คือลูกค้าของโซนเรามีเท่านี้นะ รายละเอียดตามนี้เซ็นรับทราบตรงนี้เลยค่ะ" เวรดึกกล่าวราบเรียบ
"อ้อค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ" เพ็ญสุดากล่าวยิ้ม
"งั้นพี่กลับก่อนนะคะ ง่วงมากเลยเมื่อคืนไม่ได้งีบเลย ลูกค้าโทรมมาบ่อยมาก"
"ออ ค่ะ กลับดี ๆ นะ เดินทางปลอดภัยค่ะ"
อีกด้านของคนที่มาใหม่
"อ้าววันพระมาแต่เช้าเลย ขอบคุณมากนะ วันนี้พี่นิมนต์หลวงพ่อมาด้วยนี่ไง.."
"ดีแล้วค่ะ ว่าแต่พี่แพรมีศัตรูหรือขัดใจกับใครบ้างหรือเปล่าคะทำไมเค้าดูโกรธพี่จัง.." เพ็ญสุดาพูดขึ้นเบา ๆ ได้ยินกันแค่สองคน
"เฮ่ย ไม่มีนะยุงกัดยังไม่อยากกล้าตบมันเลยกลัวบาป พี่พูดจริง ๆ นะ.." แพรพลอยกล่าว หนูเชื่อว่าพี่พูดจริงค่ะ แต่หนูว่าพี่มีเพียงแต่ไม่รู้ตัวมากกว่า..
"เฮ่ย!! วันพระ..เธอกำลังพูดให้พี่กลัวอีกแล้วนะ.."
"ระวังตัวหน่อยก็ดีนะคะพี่ แต่ตอนนี้หนูไม่เห็นเค้าแล้วค่ะสบายใจเถอะ"
อีกด้าน
บอสใหญ่เดินเข้ามาในออฟฟิศอย่างอารมณ์ดี เห็นบอดี้การ์ดหนุ่ม โจ นิว ปอนด์ กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแต่ไร้เงาพี่ชายที่นับถือ
"อ้าว เฮียเกมลูกพี่นายไปไหนล่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้า เข้าบริษัทนู้นเหรอ" (เพราะเกรมหรือกรวรรธมีบริษัทเป็นของตัวเองที่เป็นสมบัติตกทอดจากบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว) เป็นแดนไตรที่เอ่ยขึ้นกับเหล่าบอดีการ์ดคนสนิทและมือซ้ายอย่างปอนด์ที่สามารถทำงานแทนเขาได้รองจากเกม
"เอ่อ เฮียเกมไปตรวจงานที่ฟร้อนออฟฟิศครับ" เป็นนิวที่เป็นตัวแทนชุมชนในการตอบคำถามเจ้านายที่ดุดันแต่ใจดี (หรือเปล่า)
"อ้าวเหรอ งานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถึงกับไปดูเองเลย ไปทำหน้าที่ของนายเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีเดี๋ยวผมโทรหาเอง" แดนไตรบอกปัดไปแต่นึกสงสัยอยู่ในใจ
"ครับผม" นิวกล่าว