บทที่8

1346 Words
“ฮึ! โกงดีนัก หลอกให้เราเสียเงินไม่พอ ยังหลอกให้เรามีหนี้สินรอบตัวด้วย มันต้องเจอแบบนี้นี่แหละ” บุญธิสาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธจัด พอเจ้าหน้าที่ตำรวจกดรับสาย ก็รีบกรอกเสียงหวานๆ ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีแจ้งเบาะแสให้รู้ว่ามีการเล่นการพนันอยู่ ณ ที่ใด “สวัสดีคะคุณตำรวจ ดิฉันโทรมาแจ้งเบาะแสว่ามีการเล่นการพนันอยู่ที่...” เจ้าของน้ำเสียงหวานๆ เอ่ยบอกสถานที่ตั้งของบ่อน ทั้งเลขที่ห้องซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อนขนาดใหญ่ ทั้งตรอกซอกซอยที่ตั้งของตึกแห่งนี้อย่างละเอียดยิบ ราวกับกลัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะค้นหาไม่เจอ “สนุกแน่งานนี้” หลังจากทำหน้าที่พลเมืองที่ดีแล้ว บุญธิสก็หัวเราะคิก นึกภาพไม่ออกว่าจะชุลมุนวุ่นวายมากเพียงใด ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกมาจับกุมผีพนันที่มีถึงครึ่งร้อย ซึ่งกำลังเพลิดเพลินสำราญใจกับการเล่นพนันซะเหลือเกิน และถึงตอนนั้นเธอก็จะอาศัยช่วงชุลมุนในการหลบหนีออกไปจากบ่อนแห่งนี้ บุญธิสาหันไปมองกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมกับยิ้มกว้างให้กับภาพสะท้อนของตนเอง ก่อนจะหัวเราะฮึๆ อยู่ในลำคอแล้วเอ่ยออกมาด้วยความสะใจ “ฮึๆ ไข่ตุ๋น เธอนี่ฉลาดเหมือนกันนะ โทรแจ้งตำรวจให้มาจับพวกผีพนัน พอเกิดความชุลมุนวุ่นวาย เธอก็รีบหนีออกจากบ่อนแห่งนี้ไปได้โดยไม่มีใครเห็น” เจ้าของใบหน้างามกระหยิ่มยิ้มย่องขบคิดว่าจะต้องเป็นไปตามที่ตนเองวางแผนไว้ หญิงสาวมองดูเวลาบนนาฬิกาเรือนเล็ก พอเห็นว่าเวลาผ่านไปเกือบห้านาทีหลังจากโทรไปแจ้งความแล้ว ก็คิดว่าตำรวจคงมาถึงบ่อนภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมงแน่ๆ จึงยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในห้องน้ำอีกหลายนาที เมื่อเข็มนาฬิกาเดินทางผ่านไปเกือบสิบนาที หญิงสาวก็ตัดสินใจออกจากห้องน้ำ เพื่อไปดูลู่ทางในการหลบหนี ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจมากวาดล้างทลายบ่อนแห่งนี้ “พอหนีออกไปได้แล้ว พวกมันก็ไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร พวกมันตามหาเราไม่เจออย่างแน่นอน” บุญธิสาบอกตัวเองอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็เดินตรงไปยังประตูห้องน้ำ จับลูกบิดประตูแล้วเปิดออกกว้าง ใบหน้างามนั้นยิ้มกว้างด้วยความสะใจกับแผนการของตนเอง แต่! พอเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มหวานๆ ซึ่งปรากฏอยู่บนใบหน้างามลออ ก็มีอันต้องหลุดร่วงจางหายไป กลายเป็นซีดเผือดไม่ต่างจากไก่ต้มค้างคืน เมื่อดวงตาคู่สวยปะทะกับหนุ่มในเครื่องแบบ ซึ่งกำลังยืนรอรับเธออยู่หน้าห้องน้ำนี่เอง “ตะ...ตำรวจ!” บุญธิสาร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง เบิกตาโตเท่าไข่ห่าน จากนั้นหญิงสาวก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีก เมื่อถูกเชิญตัวโดยละม่อมให้ไปขึ้นรถตำรวจ พร้อมๆ กับผีพนันอีกโขยงซึ่งถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้ว “เชิญไปขึ้นรถด้วยครับคุณผู้หญิง” เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มหล่อเอ่ยบอกกับนักพนันสาว ซึ่งยืนหน้าซีดอยู่หน้าห้องน้ำ และไม่ต้องออกแรงวิ่งไล่จับ เมื่อบุญธิสาพยักหน้าหงึกๆ ทำหน้าเหยเกราวกับจะร้องไห้ แต่ก็ยอมเดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปโดยละม่อม ไม่วิ่งหนีให้เหนื่อยเปล่า ด้วยรู้ว่ายังไงเสีย ตนเองก็หนีไม่รอดแน่ เพราะตอนนี้ภายในห้องใหญ่ ซึ่งเคยอัดแน่นไปด้วยผีพนันทั้งหลายแหล่ กำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกยึดพื้นที่ไว้หมดแล้ว พอเข้ามานั่งในรถตำรวจพร้อมกับนักพนันอีกหลายๆ คน บุญธิสาก็ก้มลงมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนเล็ก เมื่อเห็นว่าเข็มนาฬิกากระดิกเดินทางผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากเธอโทรไปแจ้งความ ก็ได้แต่กลอกตาขึ้นบนด้วยความเซ็งจัด ก่อนจะบ่นงึมงำไม่ต่างจากหมีกินผึ้ง “อยากจะบ้าตาย นึกว่าตำรวจจะมาภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมง แต่นี่เพิ่งผ่านไปแค่เก้านาทีเอง คุณโปลิศก็มาถึงบ่อนจับนักพนันซะเกลี้ยงไม่เหลือหรอ” บุญธิสาไม่รู้จะชื่นชมกับปฏิบัติการอันรวดเร็วฉับไวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ดีหรือไม่ แต่จะชื่นชมหรือไม่ชื่นชมก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะตอนนี้เธอถูกเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบพามาถึงสถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในสถานีตำรวจ เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เมื่อบรรดานักพนันทั้งหลายต่างก็โทรศัพท์ให้ญาติพี่น้องมาประกันตัวเองออกไป บางคนก็โวยวายอวดเบ่งอำนาจใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ข่มขู่ว่าตนเองรู้จักคนใหญ่คนโตมากมาย หากไม่ปล่อยตนเองไปก็จะต้องเจอดีแน่ ในขณะที่นักพนันกระเป๋าหนักทั้งหลายแหล่ ต่างก็โทรให้ญาติพี่น้องมาประกันตัวออกไป บุญธิสากลับนั่งทำตาปริบๆ อยู่ใกล้กับนักพนันหญิงอีกหลายคน ซึ่งรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปจ่ายค่าประกันตัว และระหว่างรอ คนเหล่านี้ก็ไม่ได้นั่งรอเฉยๆ แต่พวกเธอกัดฟันดังกรอดๆ เอ่ยอาฆาตถึงคนที่บังอาจโทรแจ้งตำรวจให้มาทลายบ่อนในคืนนี้ “ฉันอยากรู้นักว่าใครมันเสือกโทรแจ้งตำรวจ ว่ามีการเล่นพนันในอาคารนั้น ถ้าแม่รู้นะ แม่จะตบล้างน้ำเอาให้หยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันเลยทีเดียว” “ใช่ ฉันก็อยากเห็นน้ำหน้าคนที่โทรแจ้งตำรวจเหมือนกัน ฉันกำลังเล่นได้เป็นล้าน พอตำรวจมากเงินล้านก็หายวับไปกับตา เจ็บใจจริงๆ เสียเงินล้านไม่พอ ยังต้องเสียเงินค่าประกันตัวอีก” “ถ้าคุณโกซาสควานหาตัวคนแจ้งความได้ เขาคงไม่ไว้มันแน่” บุญธิสากลืนน้ำลายลงคอเอื้อกๆ ขณะได้ยินประโยคถ้อยคำของบรรดาผีพนัน ที่ต่างก็เค้นเสียงพูดกันด้วยความเจ็บใจ ‘ตายแน่ ไข่ตุ๋นเอ๋ย...’ หญิงสาวโอดครวญอยู่ในใจ พยายามนั่งนิ่งๆ ไม่วิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ออกมา ด้วยเกรงว่าคนเหล่านี้จะจับได้ว่าเธอ ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ กันนี่แหละเป็นคนโทรไปแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล่วงรู้และตามไปทลายบ่อนในที่สุด ‘นิ่งไว้ไข่ตุ๋น ถ้าถูกจับได้ เธอถูกรุมสะกำแน่ นับๆ แล้วมีบาทาหนักๆ เกือบครึ่งร้อยเลยนะไข่ตุ๋น’ บุญธิสาแสร้งยิ้มหวานให้กับบรรดาผีพนันที่นั่งอยู่ใกล้กัน ทว่าในใจนั้นกำลังจะร้องไห้ออกมาให้ได้ เมื่อกวาดสายตามองรอบๆ สถานีตำรวจ แล้วเห็นสีหน้าของผีพนันแต่ละคน ซึ่งต่างก็กัดฟันกรอดๆ กำมือแน่นด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกจับในครั้งนี้ “อยู่ไม่ได้แล้ว โทรให้พี่ไข่หวานมาประกันตัวออกไปจากที่นี่ดีกว่านะไข่ตุ๋น” เจ้าของใบหน้างามซึ่งหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่สาวเป็นการด่วน แม้รู้ดีว่าตนเองต้องถูกพี่สาวสวดยับเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หญิงสาวก็ยอมฟังจนหูชา และยอมถูกหยิกจนเนื้อเขียว ดีกว่าต้องถูกมือและเท้าของคนพวกนี้รุมสะกำเอา “พี่ไข่หวาน รับโทรศัพท์เร็วๆ สิ” บุญธิสาพึมพำอย่างคนใจร้อน เธอโทรหาพี่สาวติดแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์สักที “พี่สาวจ๋า ทำอะไรอยู่คะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ของไข่ตุ๋นเลย” หญิงสาวคร่ำครวญอยู่ในลำคอ พอแฝดพี่ไม่รับโทรศัพท์ในครั้งแรกจนสัญญาณตัดไปโดยอัติโนมัติ หญิงสาวก็รีบกดโทรหาอีกครั้ง ในใจนั้นภาวนาให้พี่สาวรับโทรศัพท์เร็วๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD