บทที่ 15 ชุดสีขาว ชุดเจ้าสาว (ของใคร)

1668 Words
เมื่อมาถึงร้าน... “ผมจะเอารถไปจอดข้างหลัง แม่กับน้องลงไปก่อนเลย เดี๋ยวผมเดินเล่นหาอะไรกินรอแถวๆ นี้ ส่วนแกจะไปกับฉันเปล่า” แก ของเชษฐาคือชัชวิน พี่ชาย เพราะอายุห่างกันไม่มาก และเชษฐาก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า รับผิดชอบทุกอย่างในบ้านมากกว่า เลยไม่ค่อยได้เรียกพี่ว่าพี่นัก “ฉันจะลงไปกับแม่” เป็นอีกครั้งที่ลูกชายคนโตทำเธออึ้ง และยิ้มได้ เมื่อเข้ามาในร้านก็เป็นอย่างที่บอกหนูนิรินไป คือคิวยาวมาก ต้องนั่งรอกันวนไป “นี่แม่ยังตื่นเต้นไม่หาย ที่มีหนุ่มหล่อของดีจังหวัดมานั่งประกบ ใครผ่านไปผ่านมาก็อยากมาทักทาย ทำความรู้จัก รู้สึกมีหน้ามีตายังไงไม่รู้” เธอไม่ได้มโนขึ้นมาเอง คำว่าของดีจังหวัด ชัชวิน เชษฐา ชนนและชนวีร์ เหล่าลูกชายของเธอได้มาจากนิตยสารชื่อดังหัวหนึ่ง “หยุดอวยลูกตัวเองได้แล้วแม่” แค่นี้แม่เขายังมีหน้ามีต่อไม่พออีกหรือไง แม่ควรดูหน้าเขาบ้าง ว่าหงิกแค่ไหนแล้วที่ต้องคอยทำความรู้จักคนที่เข้ามาหาแม่ ถ้าแค่พวกคุณน้า คุณป้ายังไม่เท่าไร แต่พวกท่านชอบพาลูกสาว หลานสาวมาแนะนำ พูดคุยสักพักก็ทำเป็นบังคับกลายๆ ให้เขานัดเดทกับพวกเธอ ใช่ว่าพวกเธอไม่ดี แต่เขาแค่ไม่ชอบ นี่แหละถึงไม่อยากมาร้านแบบนี้เป็นเพื่อนแม่ “ขอแม่ปลาบปลื้มหน่อยไม่ได้หรือไงล่ะ นานทีปีหนแกจะยอมมานั่งเป็นเกียรติเป็นศรีให้แม่” ยุครุ่งเรืองของเธอหมดไปแล้วตามกาลเวลา สมัยนี้อยากเด่นดังต้องอาศัยลูกๆ ชมนาดเอียงตัวไปกระทบไหล่ลูกชายที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเอง แล้วพูดเสียงเบาลง “ถึงจะรู้ว่าแกไม่ได้มาเพราะแม่ก็เถอะ” “ถ้ารู้ถึงขนาดนั้นก็ควรช่วยกันคนอื่นให้ด้วยสิ ถ้ายังขืนกรูกันเข้ามาแบบนี้ อะไรๆ ที่แม่หวังอยู่ คงชวดหมด” ชมนาดยิ้มกริ่มแล้วจ้องไปทางด้านขวามือของตน ที่สาวน้อยคนนึงนั่งอยู่ เพราะกลัวชวดอย่างที่ลูกชายว่า เลยจงใจเอนตัวไปด้านหลัง ในท่าที่แทบจะนอนราบกับโซฟาหลุยส์ หนุ่มๆ สาวๆ เขาจะได้มองเห็นกันชัดๆ เพราะไม่มีคนกั้นกลางแล้ว “เชิญท่านด้านบนได้เลยค่ะ” พนักงานสาวเดินมาเชื้อเชิญชมนาดขึ้นไปที่ห้องลองชุด “หนูนิลไปกับแม่นะลูก จะได้ช่วยออกความคิดเห็น” เดี๋ยวจะหาว่าเธอใจจืดใจดำ คงต้องออกปากชวนลูกชายซะหน่อย แม้ตาชัชของเธอจะขยับตัวเตรียมตามมาแล้วก็ตาม ... แหม ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้เลยนะ “ชัชจะไปกับแม่ด้วยหรือเปล่าล่ะ” “ไปครับ” เมื่อพากันขึ้นมาบนห้องที่เป็นส่วนตัวแล้ว ชมนาดก็เตรียมจะเข้าไปลองชุดที่สั่งตัดไว้ ปล่อยให้ชัชวินกับนิรินนั่งรออยู่ตรงมุมห้อง ปกติถ้าลูกชายสักคนมาขับรถให้ ก็จะรอกันอยู่ข้างนอก หรือชั้นล่างของอาคารเท่านั้น ไม่ได้ขึ้นกันมาถึงชั้นสามแบบนี้หรอก แต่เพราะวันนี้ไม่ใช่วันวัดตัว หรือทำอะไรที่ต้องการความเป็นส่วนตัวนัก ไม่ได้มีเพื่อนคุณหญิง คุณนายคนอื่นมาด้วย เธอเลยให้ชัชวินขึ้นมาได้ “หนูนิลนั่งรอป้าอยู่ตรงนี้กับพี่เขานะลูก” “ค่ะคุณป้า” เมื่อแม่เดินไปกับคุณจันจิราเจ้าของร้านแล้ว “วันนี้ว่านอนสอนง่ายดีนะ แม่พี่สั่งให้ทำอะไรก็ทำ” “นิลเชื่อฟังผู้ใหญ่เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ” “อย่างนี้ก็แสดงว่าถ้ามีคนไปทาบทามสู่ขอ นิลก็จะแล้วแต่ผู้ใหญ่ใช่หรือเปล่า” ตอนตื่นมาแล้วอยู่ในสภาพเปลือย เสื้อผ้ากระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง เธอเกิดความละอาย ช่วงสายที่พี่ชัชตามลงมาและนั่งจ้องหน้าเธอ คอยส่งสายตาให้ที่โต๊ะอาหาร เธอก็อายแสนอาย แต่มาตอนนี้ที่ได้ยินเขาหยิบยกเอาเรื่องสำคัญมาล้อเล่น เย้าแหย่กัน เธอกลับฉุนกึก “พี่ชัชจะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพี่อยู่แล้ว” “แล้วทำไมถึงจะไม่เกี่ยวกับพี่” เขาพูดอะไรผิด ทำไมนิรินถึงเสียงขุ่น ตาเขียว “เพราะคนที่จะมาขอนิลกับป๊าม้า ยังไงก็ไม่มีวันใช่พี่ชัชอยู่แล้วนี่คะ” เธอรู้หรอกว่าอยู่สถานะไหนในใจเขา แต่ก็ไม่เห็นต้องคอยตอกย้ำกันเลยนี่ “แล้วนั่นจะไปไหน” เขาคว้าแขนเล็กไว้ฉับ กว่าจะได้คุยกัน ปาเข้าไปครึ่งค่อนวัน แม้ไม่ถึงกับเป็นส่วนตัวนักก็เถอะ แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “พี่ชัชปล่อยนะคะ พี่พนักงานมองมาแล้วเห็นมั้ย” “ใครอยากมองก็มองสิ พี่ไม่เห็นแคร์” เธอทั้งบิด ทั้งดึงข้อมือตัวเอง “อยากมีเรื่องยุ่งยากหรือไงคะ ถ้าใครเอาไปพูดต่อจะทำยังไง” ชัชวินไม่รู้อะไรซะแล้ว ข่าวฉาว ข่าวลือในวงสังคมระดับที่เขาอยู่นี่ หลุดออกไปจากร้านไฮโซโก้หรูพวกนี้นี่แหละ ปากต่อหลายปาก ไวซะยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง “มันจะยุ่งยากสักแค่ไหนกันเชียว” ทำไมได้เสียกันคืนเดียว พี่ชัชถึงเปลี่ยนไป กลายเป็นคนหน้ามึนแบบนี้ไปได้นะ “หลวมไปนิดนะคุณจัน พี่ว่าเอาเข้าช่วงเอวอีกนิดน่าจะดี” “ได้ค่ะคุณพี่ เดี๋ยวน้องจะให้เด็กมาวัดเก็บให้นะคะ” เสียงคุณป้ากับเจ้าของห้องเสื้อดังออกมาตอนม่านชั้นนอกในห้องลองชุดเปิดออก นิรินจึงอาศัยจังหวะนั้นดึงข้อแขนออกจากการเกาะกุมได้ เพราะเดี๋ยวคุณป้าต้องหันมาทางพวกเธอเป็นแน่ “สวยมั้ยจ๊ะหนูนิล” “สวยมากเลยค่ะคุณป้า” “ใกล้เสร็จแล้ว รอพวกหนูๆ เขาเก็บเอวอีกนิด เราก็กลับกันได้” เธอไปไหนไม่ได้ พี่ชัชเองก็ไม่ได้ก่อกวนอีก พอคุณป้าเข้าไปผลัดเปลี่ยนชุดก็ออกมานั่งรอที่โซฟาด้วยกัน “อีก 2 วัน น้องให้เด็กที่ร้านเอาชุดไปส่งนะคะคุณพี่ คุณพี่จะได้ไม่ต้องมาเอง” “เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะ คิดว่าคงไม่มีอะไรต้องแก้แล้ว พี่ไม่น่าจะผอมลงอีกในช่วงนี้” “ขอบคุณคุณพี่นะคะที่ไว้ใจให้ร้านจันดูแลมาตลอด” “ไม่เป็นไรจ้ะ ก็ร้านน้องจันตัดสวยถูกใจพี่ที่สุดนี่นา... แต่เดี๋ยววันนี้พี่จะตัดชุดเพิ่มให้หลานอีกสักชุดนะ รบกวนน้องจันวัดตัวให้เลย ส่วนแบบพี่กับหนูนิลจะค่อยๆ เลือกจากในแคตตาล็อก” “นิลไม่เอานะคะคุณป้า” ชุดร้านนี้เคยมีหลักพันที่ไหน ถ้ารับมา เธอเกรงใจตายเลย “ผู้ใหญ่ให้ของจะไม่รับได้ยังไงจ๊ะ” “แต่นิลไม่ได้จะใส่ไปไหนจริงๆ ค่ะ สิ้นเปลืองเปล่าๆ นิลกราบขอบพระคุณคุณป้านะคะ แต่นิลขอไม่รับ” “จะไม่มีที่ให้ใส่ได้ยังไงกัน มีงานที่หนูนิลต้องออกกับตาชัชอีกตั้งหลายงานกว่าจะสิ้นปี ตัดๆ ไปยังไงก็ได้ใช้ หรือจะเอาสักสามสี่ชุดไปเลยทีเดียว” “คุณป้า...” สุ้มเสียงอ่อนอกอ่อนใจของยัยหนูนิรินทำให้เธอมีความสุข ไม่รู้อะไรซะแล้วว่าเธอไม่ต้องควักเงินจากกระเป๋าตัวเองสักแดง แถมยังเอาไปเคลมกับคุณชายปูนปั้นลูกชายคนโตได้อีก “พี่ชัชช่วยคุยกับคุณป้าให้นิลทีสิคะ” เมื่อจนหนทางเธอเลยหันไปขอความช่วยเหลือจากชัชวิน แสนจะเชื่อมั่นด้วยว่าเขาคนนี้ช่วยได้ เพราะทุกครั้งที่คุณป้าจะตัดชุดใหม่ ด้วยแต่ละชุดราคาหกหลักและเหยียบล้านเป็นอย่างต่ำทั้งนั้น กับชุดมากมายก่ายกองที่มีอยู่แล้ว คุณป้าจะถูกเบรกตลอด กับครั้งนี้พี่ชัชก็ต้องเห็นว่ามันสิ้นเปลืองเกินเหตุด้วยเหมือนกัน “ก็เอาสักชุดสิ แม่พี่จะได้ไม่เสียน้ำใจ” “พี่ชัช...” ชมนาดยิ้มแก้มปริ เมื่อคราวนี้เสียงยัยหนูนิรินสิ้นหวังกว่าครั้งไหนๆ “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบไหนดีจ๊ะ เลือกเลย” เธอยื่นแคตตาล็อกให้นิริน “ผมว่าแบบนั้นเหมาะกับนิรินดี” ชมนาด จันจิรา พนักงานวัดตัว และนิรินต่างมองไปตรงจุดที่ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในห้องนี้บอก นั่นคือหุ่นตัวสีดำที่สวมใส่ชุดสวยอยู่ “คุณจัน” “คุณพี่” สองสาวที่สนิทชิดเชื้อกันมานานต่างบีบมือกันและกัน กลั้นยิ้มและความตื่นเต้นไว้แทบไม่ไหว “ท่าทางคราวนี้จะแน่แล้วนะคะ” “พี่ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ รอมานานนักแล้วน้องจัน” แม้คุณป้ากับคุณเจ้าของร้านจะพูดกันเสียงเบาแค่ไหน แต่เธอก็ยังได้ยินชัดแจ๋วอยู่ดี ยิ่งเห็นชุดที่ชัชวินชี้ชวนให้ดู เธอก็ยิ่งเขินจนทำตัวไม่ถูกเข้าไปอีก จันจิราเจ้าของห้องเสื้อกระแอมสองที “แต่นั่นชุดเจ้าสาวนะคะคุณชัช” “เหรอครับ ผมแยกไม่ออกหรอก ก็เห็นเหมือนๆ กันหมด” “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบอื่นดีมั้ยคะ” “ไม่ต้องหรอกครับ เอาแบบชุดนั้นแหละ” เขาจัดการเองเสร็จสรรพ ทั้งที่คนใส่เป็นเธอ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำว่าเธอชอบหรือไม่... ถึงเธอจะแอบมองชุดนี้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาในห้องแล้วก็เถอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD