EP.09 หนามตำใจ

1108 Words
“ใกล้ถึงแล้วไม่ไกลหรอกรับรองว่าไม่หลง ว่าแต่อย่าใช้คำว่าดิฉันเลยนะมันดูไม่สนิทสนมยังไงก็ไม่รู้ เป็นหัวหน้าลูกน้องกันก็ต้องสนิทสนมกันไว้ จริงมั้ยดีดี้” เสียงทุ้มไพเราะแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนขนทั้งตัวจะลุกชัน เพราะนั่นมันเสียงของหมาป่าเวลาตะล่อมหลอกล่อลูกแกะตัวน้อยไม่ใช่เหรอ ‘ไอ้ดี้ แกไม่ได้อุปทานไปเองแน่ ไอ้หมีดำนี่มันคิดมิดีมิร้ายกับแกแน่ โธ่เอ๊ย! ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ’ ฝ่ามือกระชับแฟ้มเอกสารที่วางปิดไว้บริเวณต้นขาแน่น อยากจะกรีดร้องที่ต้องมาเจออะไรบ้าๆ แบบนี้เพียงวันแรกที่เริ่มงานแต่ก็ทำไม่ได้ “พรุ่งนี้ ผมไม่อยู่ไปต่างจังหวัดจะให้ยุรีเขาสอนงานให้ละกัน และต้องเรียนรู้ให้ไวด้วยล่ะ อะไรที่ยุรีเขาสอนน่ะมีประโยชน์ทั้งนั้น และอย่ากลัวจนชิงลาออกไปเสียก่อนล่ะ ที่นี่น่ะเขาเรียกว่า ด่านปราบเซียน ใครผ่านออกไปได้ก็ถือว่าจบปริญญาเลยนะ ไปสมัครงานที่ไหนใครๆ เขาก็อ้ารับทั้งนั้นแหละ” ไพโรจน์พูดอย่างติดตลกเพราะยังไม่อยากให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ ทว่ายิ่งเห็นอาการตื่นๆ ที่กระตุ้นต่อมบางอย่างให้กำเริบขึ้นเขาก็แทบจะอดใจไว้ไม่ได้ ยิ่งตื่นก็ยิ่งแสดงว่าไม่เคย แต่ที่ต้องอดใจก็ไว้เพราะไก่ดูท่าจะฉลาดสอนงานง่าย น่าจะฉลาดกว่ามยุรีด้วยซ้ำ คนฉลาดๆ แบบนี้หากรั้งไว้ได้คงจะสร้างรายได้มหาศาลให้กับเขาได้อย่างแน่นอน เรือนกายสูงสง่าภูมิฐานในชุดสูทสากลสีเทายืนชิดอยู่ริมหน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบาน ทำให้สามารถมองเห็นอาณาจักรที่เขาเป็นผู้บริหารจนรุ่งเรืองและเติบโตที่สุดในย่านนี้ แม้จะอยู่ในวัยล่วงเลยเลข 5 มานานแล้วก็ตามแต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาดูดีน้อยลงเลยสักนิด เธอกลับคิดว่าเขาดูดีกว่าอีกหลายๆ คนในวัยเดียวกันเสียด้วยซ้ำถ้าเขาจะไม่ทำให้เธอรู้สึกคับข้องใจจนต้องมาเพื่อสอบถาม “ทำไมท่านถึงเรียกดินมาล่ะคะ” เสียงหวานเอ่ยราบเรียบแต่เขารู้ดีว่าเธอคงไม่อยู่ในภาวะที่ปกตินัก เพราะมีไม่กี่ครั้งที่วีณาจะถามไถ่ในเรื่องงาน และเรื่องนี้ก็คงจะสะกิดบางอย่างในใจเธออย่างแรงจนอดไม่ได้ที่จะพาตัวเองเข้ามาถึงภายในบริษัท ทั้งที่ไม่บ่อยนักที่จะเหยียบย่างเข้ามาแม้ว่าเธอจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินก็ตาม ซึ่งเขาก็โชคดีที่ได้จิตราคนเก่าแก่มาดูแลเรื่องเงินเรื่องบัญชีให้ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถดึงเรื่องราวเหล่านั้นมาได้จนถึงเดี๋ยวนี้ “มีความจำเป็น” เสียงทุ้มกังวานดั่งคนมีอำนาจสูงสุดในสถานที่แห่งนี้เอ่ยบอก ทว่าสายตากลับเจือไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่สุด “อะไรคะที่จำเป็น เขาก็อยู่ของเขาดีๆ ทำไมท่านถึงไปยุ่งกับเขา” เสียงหวานดังเดิมแต่คนฟังก็ยังรับรู้ได้ว่ามันคือความน้อยใจ และที่มากกว่านั้นมันคือ...ไม่พอใจ ใบหน้านวลที่เคยงามอย่างไรก็ยังคงงามอย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยน เมื่อ 30 ปีก่อน คุณวีณา บุตรสาวคนเดียวของเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่เขาเข้ามาสมัครเป็นหัวหน้าคนงานฝ่ายผลิต ความสวยของเธอทำให้เขาสะดุดตาในทันทีที่เห็นแต่ก็ไม่ได้สะดุดหัวใจ ทว่าสิ่งที่เขาทำต่อจากนั้นมันกลับเหนี่ยวรั้งไม่ให้เขาสามารถกลับคืนสู่หัวใจที่จากมาได้อีกตลอดกาล “ขอเวลาหน่อยเถอะคุณณา ดินเขาแค่มาช่วยเท่านั้น เมื่องานของผมเสร็จเขาก็จะไป” น้ำเสียงอ่อนโยนลงกว่าเดิม แม้จะเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าวีณาต้องมีปฏิกิริยาดังที่เห็น แต่เขาก็ต้องทำ...ทำอะไรที่ตามใจตัวเองบ้าง เพื่อความสุขของทุกๆ คน “ให้มันจริงเถอะค่ะ สิ้นปีตาน้ำก็จะกลับมาแล้ว ณาไม่อยากให้ลูกมีปัญหาค่ะ” ใบหน้าสวยงามตามวัยเชิดขึ้นเล็กน้อย เกียรติกรไม่ได้ตอบคำถามอย่างที่เธอต้องการจะได้ยิน หรือจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการจะได้ยินคำตอบนั้นจริงๆ แต่คงมีเพียงลูกเท่านั้นที่เธอจะเอามาเป็นข้ออ้างกับเขา “จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน คุณวางใจได้ ผมรักลูก ไม่มีวันจะทำอะไรให้ลูกเสียใจหรอก” สิ่งที่เกียรติกรบอกไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นเลย ดวงตาหวานที่ผ่านพ้นวันเวลามองผ่านกระจกหน้าต่างออกไปด้านนอก สิ่งที่เธอเห็นนั้น ‘กฤปมัย หรือ ดิน’ ที่เกียรติกรมักจะใช้เรียกเขาเสมอ กำลังเดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมๆ กับพนักงานหลายต่อหลายคน ใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ สิ่งนี้เหรอที่เกียรติกรบอกว่าจะไม่เป็นปัญหา ‘ผมรักลูก’ ก็เขาบอกเองอย่างนั้น ความมืดสลัวและความเงียบอันเนื่องมาจากเป็นเวลาพักเที่ยงที่ทางโรงงานจะปิดไฟด้านในทั้งหมดทำให้ตามโซนเก็บอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ โซนงานสำเร็จรูป และโซนเก็บวัตถุดิบหรือแม้แต่บริเวณข้างเครื่องจักร เต็มไปด้วยเงาตะคุ่มๆ ของเหล่าคนงานที่นำเสื่อหรือลังกระดาษมาปูรองสำหรับนอนพักผ่อนในเวลาที่หนังท้องตึงและหนังตาก็มักจะหย่อนตาม แค่เวลาที่เหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็นับว่าเป็นช่วงที่มีค่าที่ความอ่อนล้าจะเป็นนาย แต่ก็ยังมีพนักงานอีกหลายคนที่จับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่เงียบๆ “เลิกเหอะว่ะ กูกลัว คราวที่แล้วมึงก็พิสูจน์แล้วหนิ ว่าหัวหน้ามึงเจ๋งอะ” “แต่กูอยากลองอีกว่ะ มันต้องมีโอกาสสิ คราวที่แล้วมันง่ายไปที่จะลอง มันต้องหาเครสที่ยากๆ” สยามพูดกับพนักงานฝ่ายผลิตที่คุ้นเคย “มึงจะบ้าหรือไง ของเสียมึงเลือกได้หรือวะว่าตัวไหนจะเสีย” เพื่อนพนักงานเกาศีรษะไปมา เพราะเริ่มไม่สนุกเสียแล้วที่สยามจะทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ ถ้าจะให้เขาแกล้งทำชิ้นงานเสียเพื่อนำมาเล่นงานผู้จัดการฝ่าย QA. เขาคงไม่เอาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD