สนใจเด็กคนนั้น
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เมื่อขึ้นมาถึงชั้นเป้าหมาย ลิฟต์และห้องทำงานของภูวินเป็นส่วนเชื่อมติดกัน เมื่อเปิดออกมาก็จะเป็นห้องทำงานของเขาเลย
ปุยฝ้ายและเพื่อนๆ จึงหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นเป็นเจ้าของห้องเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องคนสนิทของเขา
“รอนานกันไหม” มาเฟียหนุ่มเอ่ยถาม พลางส่งสายตามองไปยังปุยฝ้ายที่นั่งอยู่บนโซฟา
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” ปุยฝ้ายไม่รอช้า รีบเข้าประเด็นสำคัญ เธอชักสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามานั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับพวกเธอ
โซนและชมพู่ก็พากันนั่งมองหน้าภูวินอย่างเงียบๆ แม้ว่าทั้งสามคนจะมีกิริยาท่าทางที่ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภูวินรู้สึกอะไร เขาเอาแต่จ้องหน้าคนตัวเล็ก ด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ
“พวกเธอสงสัยในตัวฉันงั้นเหรอ” ชายหนุ่มถามอย่างรู้ทันความคิดของพวกเธอ และเป็นไปตามคาดของเขาที่ปุยฝ้ายจะพาเพื่อนๆ ของเธอมาที่นี่ด้วย
ไม่แปลกที่ปุยฝ้ายและเพื่อนๆ ของเธอจะสงสัยและระวังตัวไว้ เพราะการที่คนแปลกหน้า ที่มีอิทธิพลอย่างภูวินจะมาสนใจจ้างงานเด็กที่ยังเรียนไม่จบ ทั้งยังเสนอเงินเดือนให้เมื่อเข้ามาฝึกงาน อีกอย่างที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดก็คือ การที่เขานั้นจะยอมช่วยจ่ายหนี้ครอบครัวปุยฝ้ายให้
เรื่องแบบนี้ก็ย่อมต้องสงสัยเป็นธรรมดา
“ใช่ พวกเราอยากรู้จุดประสงค์ของคุณ ที่เข้าหาเพื่อนเรา คุณอยากให้ปุยฝ้ายทำงานให้คุณจริงๆ หรือต้องการอะไรจากมัน”
ชมพู่เปิดคำถามแรกที่อยากรู้ ทั้งยังถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“จุดประสงค์ของฉัน ก็เคยบอกเพื่อนพวกเธอไปแล้วนะ ว่าอยากให้มาทำงานด้วยเท่านั้น แค่สนใจอยากจะจ้างมาเป็นคนของบริษัทเรา..ฉันเห็นว่าปุยฝ้าย เป็นคนที่มีความสามารถ เลยอยากจะให้โอกาสเด็กอย่างพวกเธอ”
“แล้วที่บอกว่า จะช่วยหนี้สินให้บ้านฝ้าย คุณพูดจริงเหรอ” โซนถามสิ่งที่อยากรู้
“ใช่ หนี้ทั้งหมดฉันยินดีจ่ายให้ปุยฝ้าย แต่มีข้อแม้ว่าเธอต้องมาทำงานให้กับฉัน”
“แต่หนี้ทั้งหมดรวมต้นและก็ดอกเบี้ย เกือบสามแสนเลยนะ” ปุยฝ้ายโพล่งบอกออกไป เพราะไม่อยากจะให้ภูวินพูดเล่นกับเรื่องนี้
เมื่อโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่โตแบบนี้ เธอก็อยากจะรับไว้ แต่ก็กลัวว่าเขาจะล้อเล่นกับเรื่องหนี้ของเธอ เพราะมันคือความหวัง
“จะเป็นล้าน ฉันก็จ่ายให้ได้ ขอแค่ช่วงปิดเทอมนี้ หรือวันหยุดของเธอ หรือแม้แต่วันว่างจากที่เธอเรียน ก็ต้องมาช่วยงานฉันที่บริษัท แค่นี้เธอทำได้ใช่ไหม”
คำถามของเขา ทำให้ปุยฝ้ายหันไปมองหน้าเพื่อนของเธอทั้งสองคน เมื่อได้เพื่อนมาเป็นพยานและรับฟัง เธอก็รู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยๆ สิ่งที่มาเฟียหนุ่มพูดมาทั้งหมดนั้น เพื่อนของเธอก็รับรู้ไปด้วย
“และก็ ฉันยินดีรับพวกเธอทั้งสามคนเข้ามาทำงานนะ ถ้าสนใจ”
โซนและชมพู่มองหน้ากันอย่างใช้ความคิด ข้อเสนอดีๆ พวกเธอก็อยากจะรับไว้ และตอนนี้ก็กำลังมองหาที่ฝึกงานและโอกาสก่อนเรียนจบอีกด้วย
“บอสผม พูดคำไหนคำนั้น ที่นี่ไม่ใช่จะรับใครเข้ามาทำงานด้วยง่ายๆ นะครับ คิดดูกันดีๆ ก่อน”
สายฟ้าพูดราวกับเกลี้ยกล่อมพวกเด็กๆ ทำเอาทั้งสามคนออกอาการครุ่นคิดและเกิดความสนใจที่อยากจะมาลองทำงานที่นี่ดูสักครั้ง แม้ว่าเจ้าของบริษัทจะเป็นพวกมาเฟียป่าเถื่อน ที่เปิดบ่อนพนันอยู่เบื้องหลังก็ตาม
“แล้วงานส่วนใหญ่ที่คุณจะให้เราทดลองทำ คืออะไรคะ” ปุยฝ้ายถามอย่างสนใจ ถึงสีหน้าจะดูบึ้งตึงใส่ภูวินอยู่ก็ตาม
“ก็เป็นงานออกแบบ เพราะบริษัทของฉัน เป็นบริษัทอสังหาฯ ออกแบบโครงการบ้านจัดสรร ออกแบบบ้าน ออกแบบคอนโดและตึกฯ เป็นส่วนใหญ่ พวกเธอก็จะได้เรียนรู้งานจากบริษัทของฉันไปด้วย ถ้าหากอนาคตพวกเธออยากทำงานที่นี่ ฉันก็จะรับทันทีเมื่อพวกเธอเรียนจบ”
ภูวินอธิบายให้กับทั้งสามคนเข้าใจถึงจุดประสงค์ของเขา แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขานั้นเป็นฝ่ายชักชวนเด็กที่ยังเรียนไม่จบมาร่วมงานด้วย ทั้งที่คนอื่นๆ ต่างสมัครแข่งชิงตำแหน่งงานที่นี่กัน แทบจะหาโอกาสได้น้อยมาก
เพราะเป็นบริษัทใหญ่ และคนที่เข้ามาทำงานที่นี่ได้นั้น ต้องมีความสามารถมากพอ และความรับผิดชอบต่องานที่ทำ และเงินเดือนก็ค่อนข้างสูง ทำให้การแข่งขันค่อนข้างเยอะ
“เอาไงดีวะพู่” โซนยื่นหน้าเข้าไปกระซิบถามเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
“บริษัทใหญ่ดีนะ ถ้าได้หาประสบการณ์ที่นี่คงจะดี”
“นั่นดิ”
“ฝ้าย แกว่าไง” ชมพู่หันมากระซิบถามปุยฝ้ายอีกคน ขณะที่หญิงสาวเอาแต่นั่งเงียบ แต่ทว่าเธอกลับโพล่งออกมาเป็นคนแรก อย่างไม่ถามความเห็นจากเพื่อนของเธอ
“โอเค! ฉันจะเข้ามาทำงานช่วยคุณ”
คำตอบของปุยฝ้าย ทำเอาเพื่อนอีกสองคนถึงกับชะงักไปชั่วขณะ เธอตัดสินใจรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันจะได้ตอบคำถามของชมพู่ด้วยซ้ำ
"เอ่อ ถ้าฝ้ายมันทำ งั้นพวกผมก็ทำครับ” โซนตอบอย่างเห็นด้วยไปตามน้ำ ทั้งที่จริงตัวเขาเองก็สนใจข้อเสนองานจากภูวินไม่น้อย
“อืม ฉันด้วยค่ะ” ชมพู่พยักหน้าร่วมด้วย
“งั้นพรุ่งนี้ เริ่มงานวันแรก พวกเธอเลิกเรียนเมื่อไหร่ ก็มาทำงานเวลานั้น”
“ได้..เอ่อ ได้ค่ะ” ปุยฝ้ายสะดุดกับคำพูดของตัวเองเล็กน้อย เพราะเธอนั้นไม่ค่อยอยากจะพูดเพราะกับภูวินเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ลืมเรื่องมารยาท
งานนี้ถือเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะทำให้แม่ของเธอหลุดพ้นจากหนี้ที่ไม่ได้ก่อ แม่เธอจะได้ทำงานอย่างสบายใจ และปุยฝ้ายก็จะหาเงินทำบ้านใหม่ให้กับมณี ด้วยความที่บ้านเก่านั้นมันเริ่มเสื่อมโทรมไปบ้างแล้ว
“ดูบอสจะสนใจเด็กคนนั้นเป็นพิเศษนะครับ” สายฟ้าถามขึ้น ขณะที่เจ้านายหนุ่มกำลังนั่งจิบไวน์เบาๆ อยู่บนโซฟา หลังจากที่กลุ่มของปุยฝ้ายกลับออกไปแล้ว
แววตาคมกริบมองออกไปยังด้านนอกกระจกบานใส ที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงในช่วงเวลาบ่ายเย็น ขณะที่แสงพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มที
“เด็กคนนั้น ก็น่ารักดี”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยชมเบาๆ เมื่อนึกถึงใบหน้ามนของปุยฝ้าย ที่มีความบึ้งตึงใส่เขา ความเป็นตัวเองของเธอ มันทำให้ภูวินเกิดความสนใจ
“แต่ดูท่า เด็กคนนั้นจะไม่ค่อยชอบนายเท่าไหร่นะครับ เจอหน้ากันวันแรกก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่”
สายฟ้าพูดขัดกับความคิดของคนเป็นนาย เพราะจากที่สังเกตดูปุยฝ้ายที่มองภูวินแล้ว ดูเหมือนจะไม่พอใจเรื่องในวันนั้นอยู่
“มึงมีอะไรทำ ก็ไปทำเถอะ” ชายหนุ่มออกปากไล่ ก่อนที่สายฟ้าจะโค้งตัวเคารพคนเป็นนาย แล้วเดินออกจากห้องทำงานไป