ปุยฝ้ายนั่งรถกลับมาที่บ้านพร้อมกับเมฆ หลังพากานต์ออกมาจากโรงพยาบาล โดยที่เพื่อนทั้งสองคนของเธอขับรถบิ๊กไบค์ตามมาติดๆ
หญิงสาวพยุงตัวน้องชายเดินเข้ามาในบ้าน
แม้ว่าเวลานี้จะดึกมากแล้ว แต่ยังมีคนเป็นแม่คอยนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น
ด้วยความที่เป็นห่วง หลังจากที่ท่านได้รู้ข่าวของลูกชายจากปากเพื่อนกานต์ ก็ทำเอามณี กระวนใจ
"กานต์ กานต์!
ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะลูก" มณีรีบเข้ามาดูลูกชาย
ทันทีที่ปุยฝ้ายพากานต์เข้ามาในห้องนั่งเล่น
แต่พอได้เห็นใบหน้าที่มีแต่รอยฟกช้ำของลูกชาย หัวใจคนเป็นแม่แทบแตกสลาย
"แม่ ผมไม่เป็นไร"
"ยังจะมาปากดีอีก
ถ้าพี่ไม่เข้าไปช่วยไว้ทัน ป่านนี้จะเป็นยังไง" ปุยฝ้ายทำเสียงดุใส่
"พาน้องเข้ามานั่งก่อนฝ้าย"
หญิงสาวพาน้องเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวเก่า
โดยมีเมฆกับเพื่อนๆของเธอยืนมองห่างๆ
"แล้วทำไมถึงต้องไปทำอะไรแบบนั้นให้ตัวเองเจ็บตัวด้วยล่ะลูก
ดูสิ หน้าช้ำไปหมด" คนเป็นแม่จับใบหน้าลูกชายเบาๆ ดูรอยแผลฟกช้ำ
ที่หัวคิ้วก็ถูกเย็บไปสามเข็ม ทั้งตาข้างขวาก็ปูดบวม
"ก็มันอยากได้เงินพวกมาเฟียไงแม่
มันอยากใช้หนี้ช่วยแม่อะ" ปุยฝ้ายบอกพร้อมกับยื่นเช็คเงินสดจำนวนเงินห้าหมื่น
แม้ว่าเงินนี้จะใช้เป็นค่ารักษาตัวสำหรับผู้ที่แพ้ แต่กานต์กลับไม่ใช้สักบาท
เพื่อนำมาให้มณี
"ใช่จ้ะแม่
แม่เก็บไว้ใช้หนี้นะ" กานต์เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ
ทำเอามณีถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ด้วยความที่ตื้นตันใจกับความกตัญญูของลูกชาย
"โถ กานต์
ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยลูกเอ้ย"
มณียอมเก็บเช็คเอาไว้
พร้อมกับโอบกอดลูกชายด้วยความสงสาร
หากครอบครัวของพวกเขาไม่ถูกตามทวงหนี้จากพวกปล่อยเงินนอกระบบ และไม่ถูกตามรังควาน
จนแม่ของทั้งสองเป็นทุกข์ใจ กานต์ก็คงไม่ยอมเสี่ยงทำอะไรแบบนี้
"คร่าวหลังไม่ต้องทำอะไรแบบนี้แล้วนะขืนเป็นอะไรมากกว่านี้ จะทำยังไง"
"ครับแม่"
"เอ่อ แม่ต้องขอบคุณทุกคนมากเลยนะ ที่ช่วยเป็นธุระ ตามไปพาไอ้กานต์กลับมา" มณีผละจากลูกชาย
แล้วหันไปพูดกับเพื่อนๆของลูกสาว ที่ยืนมองอยู่ห่างๆ
"ไม่เป็นไรครับ พวกเราเต็มใจช่วย
ถ้าขืนปล่อยให้ยัยฝ้ายไปคนเดียวในที่แบบนั้น แย่แน่ครับ" โซนออกความเห็น
"ใช่จ้ะไอ้กานต์ไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีไป" ชมพู่ยิ้มบอก
"แต่อย่าไปทำอะไรแบบนั้นอีกนะไอ้คนพวกนั้นมันเป็นพวกมีอิทธิพล ขืนไปทำอะไรที่มันไม่พอใจ มันเล่นงานแน่"
"ครับพี่โซน ขอบคุณพี่ๆ
นะครับที่เป็นห่วง แล้วก็ขอบคุณพี่เมฆมากๆนะครับ" กานต์ยกมือไหว้อย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไรแต่อย่าทำอะไรที่เสี่ยงแบบนั้นอีกนะ รู้ไหมว่าพี่สาวกับแม่เป็นห่วงแค่ไหน"
"ครับพี่"
"ทำให้วุ่นวายไปหมด
ดีนะแค่เย็บสามเข็ม ถ้าเป็นหนักกว่านี้จะทำไง ทำอะไรไม่ปรึกษาฉันกับแม่เลย"
ปุยฝ้ายถึงกับบ่นใส่น้องชาย
พร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปที่แผลมุมปาก จนกานต์ถึงกับร้องลั่นออกมา
"โอ๊ย เจ็บนะพี่ฝ้าย"
"เจ็บเป็นด้วยหรือไง"
"เจ็บดิ"
"ทีตอนไปชกต่อยกับไอ้พวกนั้นแกยังทนได้เลย"
"โถพี่ ก็ตอนนั้นฉันทำเพื่อแม่หนิเห็นว่าได้เงินดี ก็เลยไปตามที่เพื่อนแนะนำ"
"ถึงขั้นต้องขอร้องไอ้มาเฟียเลยเหรอ"
"ก็ใช่ไง ก็ตอนแรกเขาไม่ให้ฉันชก แต่ฉันอยากได้เงิน เลยยอมรับข้อตกลงที่เขาให้ ถ้าชนะฉันจะได้ห้าแสนเลยนะแต่ถ้าแพ้ก็ได้เงินค่ารักษาห้าหมื่น อย่างน้อยจะแพ้หรือชนะฉันก็ได้เงิน"
ความคิดของเด็กหนุ่ม ทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับถอนหายใจ
"เอาล่ะ แม่ว่าให้น้องไปพักผ่อนก่อนเถอะ สภาพขนาดนี้ คงต้องหยุดเรียนให้แผลหายดีก่อนค่อยกลับไปเรียน”
“จ้ะแม่”
มณีพากานต์เข้าไปนอนพักในห้อง ก่อนที่ปุยฝ้ายจะเดินออกมาส่งเพื่อนๆ กับผู้กองเมฆ
“น้องมึงนี่ ยอมทำขนาดนี้เลยเหรอวะ เจ็บตัวเพื่อเงินเนี่ยนะ” โซนออกความเห็น ขณะที่เดินออกมาอยู่หน้าบ้าน
“นั่นสิ สภาพหน้าดูไม่ได้เลยนะ นี่ดีแค่ไหนที่ไม่ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล แค่เย็บแผลกับได้ยามากิน”
ชมพู่ออกความเห็นอย่างเห็นใจครอบครัวเพื่อนสาว เพราะในตอนนี้ปุยฝ้ายกับแม่เธอนั้น กำลังเป็นหนี้ที่ไม่ได้ก่อ เพียงเพราะพ่อของเธอไปกู้เงินนอกระบบเอาไว้ จนพวกมันคอยตามมาทวงมณี
จนแม่ของหญิงสาวเป็นทุกข์ใจ จนคนเป็นลูกอย่างปุยฝ้ายกับกานต์ ก็ต่างหาวิธีช่วยแม่ แม้ว่าคนเป็นพ่อของพวกเขา ไม่คิดจะโผล่หน้ามาให้เห็น เพราะติดการพนันและทิ้งหนี้ไว้ให้ครอบครัวแทน
“มีอะไรอยากให้พวกกูช่วย บอกได้นะเว้ย”
“อืม ขอบใจพวกแกมากนะ ฉันกับแม่ยังไหว”
“แน่เหรอฝ้าย พ่อแกที่ก่อหนี้ไว้ ไม่เห็นจะโผล่หน้ามาเลยนะ ทิ้งให้แกกับแม่ใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ”
“คนแบบนั้น ฉันไม่เรียกว่าพ่อหรอก แต่ทำไงได้ คงเป็นเพราะเวรกรรม แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะ แล้วก็ขอบคุณพี่เมฆอีกครั้งนะคะ ที่ไปช่วยฝ้าย”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าฝ้ายมีปัญหาอะไร บอกพี่ได้นะ หรือจะยืมเงินพี่ก่อนก็ได้”
“เอ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ ฝ้ายไม่อยากรบกวนพี่ ขอบคุณนะคะที่ดีกับฝ้ายตลอดเลย”
ปุยฝ้ายรู้ดีว่าความหวังดีของเมฆ มีความหมายว่าอะไร ตั้งแต่สมัยเรียนเมฆก็คอยดูแล เป็นทั้งพี่และเพื่อนอีกคนที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
และเธอก็รู้ว่าเมฆมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอเสมอมา แต่ปุยฝ้ายกลับไม่อยากรับความรู้สึกนั้น เธอมองชายหนุ่มเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น
คำพูดของหญิงสาว ทำให้เมฆรู้สึกห่างเหิน ด้วยความที่ทั้งสองก็ต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ค่อยได้เจอกันมากเหมือนแต่ก่อน
ชมพู่กับโซนส่งสายตามองกัน ทั้งยังยิ้มกรุ่มกริ่ม เพราะรู้ว่าเมฆมีใจให้กับเพื่อนตนเองมานาน
“เอ่อ ถ้างั้นพวกฉันกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะฝ้าย”
“อืม กลับกันดีๆ นะ ไว้เจอกันที่มอ.”
ปุยฝ้ายโบกมือลาเพื่อนรัก ก่อนที่โซนจะขับบิ๊กไบค์คู่ใจพาชมพู่กลับ
“เอ่อ พี่เมฆกลับไปพักเถอะค่ะ”
“งั้น พี่กลับก่อนนะ มีอะไรก็มาเรียกพี่ได้นะ”
“ขอบคุณนะคะ แต่ฝ้ายคงไม่รบกวนหรอกค่ะ”
ด้วยความที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถือว่าสนิทกันพอควร แม้ว่าเมฆจะไม่ค่อยได้อยู่บ้านก็ตาม เพราะมีงานราชการทุกวัน
“ไม่รบกวนหรอก เรานั่นแหละ พักด้วยนะ พี่เห็นช่วยแม่ขายของทุกวันเลย”
มือหนาของเขายกขึ้นมาจับหัวหญิงสาวเบาๆ
“ค่ะ ไว้พี่เมฆมากินข้าวที่ร้านนะคะ เดี๋ยวฝ้ายเลี้ยงเอง”
บ้านของเธอนั้นเปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านมาตั้งแต่เด็ก และยังเป็นอาชีพหลักของครอบครัว ที่แม่เธอนั้นทำอยู่ในทุกวัน จนส่งเธอเรียนต่อมหา’ลัยได้
แต่ช่วงนี้มีปัญหาเรื่องหนี้สิน ที่คนเป็นพ่อของเธอนั้นสร้างไว้กับครอบครัว ทั้งยังไม่ดูดำดูดี ปล่อยให้เจ้าหนี้มาตามรังควานถึงบ้าน ทำให้รายได้ไม่เหมือนเมื่อก่อน
“หึ ไม่ขาดทุนเหรอ พี่กินจุกนะ”
“ไม่หรอกค่ะ ยินดีต้อนรับเสมอ”
“โอเคครับ งั้นไว้พี่มีเวลา จะแวะมาทุกวันนะ”
“ค่ะ”