แพรไหมไม่สนใจเลยว่าพิรัณญาจะสงสัยตัวเองขนาดไหน เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของไม่สนใจเพื่อนรัก เวลานี้เรื่องเดียวในหัวคือต้องไปจากคฤหาสน์นิสรีนนี้ให้พ้นเสียก่อน ยิ่งไปไกลจากที่นี้ยิ่งดี เธอไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นหน้าของชายหนุ่มอีกต่อไปแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าการเจอกันครั้งนี้จะทำให้เธอต้องเจ็บปวดเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดไป แต่ยังไงก็เสียไปแล้วก็ถือว่าแล้วๆ ไป
“นี่แกจะไม่บอกฉันใช่ไหมวินนี่ว่าทำไมถึงได้รีบกลับขนาดนี้ อีกอย่างเหลือแค่วันเดียวเองก็จะถึงงานเลี้ยงแล้ว ทำไมแกไม่รอ” ก็จะไม่ให้พิรัณญางงได้ไง ก็เมื่อวานยังบอกว่าจะอยู่ แต่พอมาเช้าวันนี้จะกลับซะงั้น เธอตามอารมณ์เพื่อนรักไม่ทันจริงๆ ทำไมถึงได้เปลี่ยนทิศเร็วเหมือนลมเช่นนี้
“เปล่า...ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ แกก็รู้นี่เจนนี่ว่าฉันเป็นคนขี้ร้อนแล้วแกจะให้ฉันอยู่ทะเลทรายนานกว่านี้อีกเหรอฉันคงทนอยู่ไม่ได้หรอก ขนาดมาแค่วันเดียวยังไม่อยากอยู่แล้วแก” จะให้พูดได้ไงว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยนความคิดเร็วแบบนี้ “ไปๆ แกรีบไปเก็บเสื้อผ้าแกเร็วเถอะ เราจะได้ให้คุณซาลัสและคุณอามีนไปส่งเราในตัวเมืองอีกนะแก”
“แน่ใจนะว่าแกไม่เป็นอะไร มีอะไรก็บอกฉันมาวินนี่ ฉันรู้นะว่าเป็นเพราะผู้ชายเลวๆ คนนั้นเธอถึงอยากกลับทั้งๆ ที่วันพรุ่งนี้ก็จะถึงงานเลี้ยงฉลองแล้วอีกแค่วันเดียวแกจะทนไม่ได้เชียวเหรอวินนี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจแกนะวินนี่ ถึงฉันจะไม่เคยมีแฟน แต่ฉันก็พอจะเข้าใจอยู่บ้างนะแก บอกมาเถอะถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนแกอยู่วินนี่” ด้วยความคบกันมานานมีหรือจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายปิดบัง
“ฮือๆๆ.....จะ...เจน...นี่...กะ...แกช่วยฉันด้วยนะเจนนี่ฉันอยากไปจากที่นี่และไปให้พ้นจากที่นี่เร็วๆ ไปวันนี้ยิ่งดีเลย ฮือๆๆ ” แพรไหมยอมจำนนให้เพื่อนรักทุกอย่าง ก็ในเมื่อโกหกไปแล้วยังโดยเพื่อรู้ทัน ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาได้อีก
“มีอะไรก็ระบายมาให้ฉันฟังเถอะวินนี่ อย่าลืมนะว่าเราคุยกันได้ทุกเรื่อง เลิกร้องไห้ได้แล้ววินนี่” พิรัณญาเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักดี ตลอดสองปีมาแล้วที่หล่อนไม่เคยเห็นเพื่อนรักอย่างแพรไหมร้องไห้อีกนับตั้งแต่ชีควาคิมกับเพื่อนแยกทางกัน แต่พอมาวันนี้เพื่อนหล่อนกลับร้องไห้อีกครั้งกับการเจอกันอีกครั้งกับชีควาคิม
แพรไหมพยายามหยุดร้องไห้และพยายามกลั้นน้ำตาไว้เพื่อไม่ให้ไหลออกมาในขณะพูดเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอตั้งแต่แยกกันเมื่อคืนวานนี้ว่าเธอโดนเขาข่มเหงรังแกยังไงบ้าง พอเล่าเสร็จเธอก็ปล่อยโฮ!...ออกมาอีกครั้งด้วยความเสียใจ ไม่เคยคิดเลยว่าชายที่ตนรักจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
“ไอ้เลว! ” พิรัณญาสบถออกมาด้วยความแค้นใจแทนเพื่อน “หยุดร้อง หยุดเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนี้ได้แล้วเพื่อน คิดเสียว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือฝันร้าย เราจะกลับกันวันนี้เลยไม่ยงไม่อยู่มันแล้วงานอ่ะ ฉันจะโทรบอกคุณพ่อว่าเราจะกลับ และแกก็อย่าลืมโทรบอกคุณลุงด้วยล่ะ” พิรัณญาไม่รอฟังคำตอบจากเพื่อนสาว พอพูดจบประโยคก็เดินจากไปทันที
พอลับร่างของเพื่อนรัก แพรไหมก็คิดขึ้นได้ว่าตั้งแต่มาถึงเธอยังไม่โทรหาพ่อและแม่เลย เธอจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องแพงของตัวในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อจะต่อสายไปหาคนในความคิด แต่พอจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูก็ดันมีมือของคนมากระชาก
“เข้ามาในห้องฉันทำไมท่านชีค และกรุณาเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมาด้วย” สาวเจ้ายื่นมือไปรอรับโทรศัพท์ของตนคืน ยิ่งเห็นหน้าชายหนุ่มก็ยิ่งทำให้คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืนให้เจ็บใจ
“ไม่!...” ไม่พูดเปล่าแต่ปาโทรศัพท์ของสาวเจ้าใส่ผนังห้องอย่างไม่ไยดี “ทำไมจะเข้ามาในห้องเมียของตัวเองไม่ได้ อีกอย่างพี่ก็ไม่ให้วินนี่ไปไหนทั้งนั้น” เขาได้ยินทุกอย่างที่หญิงสาวกับเพื่อนคุยกัน เมื่อแน่ใจแล้วว่าเหลือเธอคนเดียวในห้องเขาจึงเข้ามา
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้นะท่านชีค ถึงฉันจะตกเป็นของคุณแต่ก็ใช่ว่าฉันจะยอมอยู่กับคุณและยอมเป็นเมียของคุณหรอกนะจำไว้ท่านชีค อีกอย่างความสาวที่ฉันเสียให้คุณไปฉันก็ขอบอกคุณไว้ตรงนี้เลยนะว่าฉันทานให้ เพราะว่าสมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้วกับเรื่องแบบนี้”
ชายหนุ่มขบกรามหน้าดำหน้าแดงขึ้นมาทันที ตอนแรกได้รู้ว่าหญิงสาวจะกลับก็โกรธอยู่แล้ว ยิ่งมาได้ยินน้ำคำเหมือนไม่ไยดีแบบนี้ยิ่งทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้น หญิงสาวจะรู้บ้างไหมหนอ...ว่าตลอดเวลาสองปีของเขาที่ไม่มีเธอนั้นมันช่างทรมานสักแค่ไหน เพราะรักมากเขาถึงยอมผิดต่อประเพณีของหญิงสาวและยังทำผิดต่ออัลเลาะห์ของเขาอีกด้วย เขายอมเป็นคนบาปเพื่อให้ได้ยอดดวงใจกลับมา
“ทำไมคุณไม่ออกไปจากห้องฉันอีกเกะกะจะไปไหนก็ไปให้พ้นๆหน้าสวยๆ ของฉันได้แล้ว รบกวนเวลาเก็บของจริงๆ เลย” ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอหันไปตั้งหน้าตั้งตาเก็บของต่อ
“ได้!...ถ้าคิดว่าหาทางกลับเองได้ก็ไปเลย” จะไม่ให้เขามั่นใจได้ไงว่าสาวเจ้าจะไม่ไปไหน ก็ในเมื่อก่อนเขาจะเข้ามา เขาได้สั่งให้ซาลัสโทรหาทางบ้านของสองสาวแล้วว่าพวกเธอจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่ออีกสองเดือน และไม่ใช่แค่นี้ แต่เขายังสั่งให้ซาลัสไปขโมยเครื่องมือสื่อสารของพิรัณญาทุกชนิดก่อนจะเข้ามาหาแพรไหมดูสิทำขนาดนี้แล้วยังหาวิธีกลับบ้านได้อีกก็ถือว่าเก่งมาก ก่อนจะทิ้งเสียงหัวเราะชอบใจทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป
“ฮ่าๆ ”
แพรไหมงงกับกิริยาท่าทางของชีควาคิมมากที่ทำท่าเหมือนจะโกรธในตอนแรกแต่กลับไม่โกรธและตอนที่เธอไล่ให้ออกไปอีกเหมือนจะไม่อยากไปแต่กลับเดินออกไปง่ายๆ แถมยังหัวเราะอีกยิ่งทำให้เจ้าตัวสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาเฉยๆ แบบนี้ หรือว่าเขามีแผนไว้แล้วไม่นะแพรไหมมันต้องไม่เป็นแบบนั้น