ทางด้านชีคราชิดนั่งเงียบมาตลอดและได้ยินทุกการสนทนาของทั้งสองคน เขาอยากขำที่สุดก็ตอนที่พี่ชายของเขาบอกกับหญิงสาวว่าเป็นแขกคนพิเศษของคฤหาสน์ ‘หึ...หึ...มันจะพิเศษกับใครถ้าไม่ใช่พี่ชายของเขาเอง’ เขาคิดพลางขำพี่ชายตัวเองในใจ ก่อนจะหันไปสนใจพิรัณญาที่เอาแต่ทานผลไม้ โดยไม่สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะด้วยความเอ็นดูในตัวหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามเธอบ้าง
“คุณเจนนี่ครับอาหารอร่อยไหมครับและห้องพักเป็นไงบ้าง? ”
พิรัณญาหยุดให้ความสนใจกับจานผลไม้ตรงหน้าทันทีเมื่อมีคนถาม “ก็ดีค่ะท่านชีคราชิด” เมื่อตอบคำถามเสร็จเธอก็ก้มหน้าก้มตาทานผลไม้อยู่ตรงหน้าต่อดังเดิมโดยไม่สนใจใครเหมือนเดิม
“คุณเจนนี่อยากเดินชมคฤหาสน์นิสรีนของเราไหม เดี๋ยวจะเราพาชม” ชีคราชิดถามพิรัณญาอีกครั้ง
พิรัณญาได้ยินคำว่าเดินชมคฤหาสน์ก็วางผลไม้ในมือที่กำลังจะเอาเข้าปากไว้ทันที
“จริงเหรอคะท่านชีค เจนนี่สามารถเดินเที่ยวชมได้เหรอคะ”
“ครับคุณเจนนี่ไม่ว่าคุณอยากไปที่ไหนในคฤหาสน์นี้ เราชีคราชิดคนนี้แหละที่จะพาคุณชมเองเพราะคุณเป็นแขกพิเศษของคฤหาสน์เรา”
“ขอบคุณค่ะท่านชีค ถือว่าเป็นความกรุณาอย่างมากที่ท่านชีคจะพาเที่ยวชมคฤหาสน์แห่งนี้ แต่เจนนี่ว่ามันคงไม่เหมาะที่ท่านชีคผู้มีเกียรติสูงศักดิ์อย่างท่านจะพาเดินชมด้วยตัวเอง เจนนี่ว่าให้คุณซาลัสหรือคุณอามีนเป็นคนพาเดินชมน่าจะดีกว่านะคะท่านชีค”
“ได้คุณเจนนี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราให้อามีนพาคุณเดินชมคฤหาสน์เอง” ชีคราชิดจำเป็นต้องรับปากหญิงสาวเพื่อจะให้พิรัณญาไว้ใจในตัวเขา เขาไม่อยากบังคับเธอให้ทำตามอย่างเขาต้องการ เขาต้องการจะให้เธอรักเขาด้วยใจจริงไม่ใช่บังคับเอาแต่ใจตัวเองเหมือนอย่างที่ผ่านมาและเธอคนนี้เขาก็ไม่ได้คิดที่จะเล่นๆ แม้แต่น้อย เขาจึงต้องการจะใช้ความจริงใจเพื่อให้เธอเห็นความดีนี้แล้วตกหลุมรักเขาอย่างที่เขาต้องการ
“ขอบคุณค่ะท่านชีค” พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับอามีนที่ยืนอยู่ข้างหลังชีคราชิด “คุณอามีนคะอย่าลืมมารับฉันนะคะพรุ่งนี้เช้า ฉันจะแต่งตัวสวยๆ รอคุณแต่เช้าเลยค่ะ”
“ครับคุณเจนนี่” อามีนตอบรับคำของพิรัณญาอย่างอารมณ์ดี
ชีคราชิดเห็นพิรัณญาส่งยิ้มหวานให้กับอามีนคนสนิทของตนก็พาลหึงโกรธหญิงสาวและคนสนิทของตัวเองลุกออกจากห้องรับประทานอาหารไปโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะจนทำให้อามีนวิ่งตามแทบไม่ทันท่านชีคของตน
ส่วนชีควาคิมก็เอ่ยชวนแพรไหมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้แต่ดูเหมือนว่าคู่สนทนาเขาจะไม่สนใจเขาเท่าไหร่นัก ไม่ว่าชวนคุยเรื่องอะไรหรือถามเรื่องอะไรเธอก็ไม่ยอมปริปากพูดกับเขาเลยตั้งแต่ตอบคำถามของเขาครั้งแรกเลยทำให้เขาโกรธเธอเดินออกจากห้องรับประทานอาหารไปยังห้องทำงานของเขาเพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเอง เพราะยังไม่อยากให้เธอเห็นอีกด้านหนึ่งของเขาในตอนนี้ส่วนซาลัสที่เห็นชีคใหญ่ของตนเดินออกไปก็วิ่งตามไปเช่นกัน
ส่วนสองสาวที่นั่งอยู่ก็ไม่สังเกตอารมณ์ของชีคหนุ่มทั้งสองที่เปลี่ยนไปแบบปัจจุบันทันด่วนเลยว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้โกรธเดินออกจากห้องไปโดยไม่บอกสักคำ
“เจนนี่ วินนี่ว่าเรากลับไปอาบน้ำพักผ่อนดีกว่าพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่น” แพรไหมชวนพิรัณญากลับห้องพักหลังจากเหลือกันเพียงสองคน
“จ้ะวินนี่พรุ่งนี้เราจะเดินเที่ยวในคฤหาสน์กันแล้ว” แล้วพิรัณญาก็ลุกขึ้นมาจับมือแพรไหมเดินขึ้นไปยังชั้นบนของคฤหาสน์ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน