9-1 ระยะห่างทางสังคม (social distancing)
แท้จริงแล้วพิมพ์ลภัสเป็นคนช่างฝัน รักในความเป็นส่วนตัว เธอไม่ชอบให้ใครมาจีบและพร้อมที่จะกักกันตัวเองไว้ในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก สร้างกำแพงสูงชันขังตัวเองไว้ในโลกอีกใบหนึ่งของเธอ
ในพื้นที่สุดแสนส่วนตัว เธอแทบไม่รู้วันเวลาและไม่อยากจะรู้ มีออกไปนั่งเล่นคุยกับเตชินบ่อย ๆ พูดคุยกันเรื่องทั่วไปโดยเธอไม่ได้ทวงถามเร่งเร้าเอาคำตอบจากเขา
วันไหนอยู่แต่ในห้องทั้งวัน เธอหมดเวลาไปกับการอ่านหนังสือนิยายในแท็บเล็ต
ว้ายยย! พระเอกเล่มนี้น่ารักจังงอ่ะ คุณอลันหยอดเก่งง You’re so special to me ฉันตายตรงนี้แหละ...!
สองมือยกจอสี่เหลี่ยมปิดหน้า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ร่างบางในชุดนอนสายเดี่ยวสีดำผ้าเบาสบายกลิ้งไปมา ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตผ่านการย้อมด้วยทรีตเม้นท์หมักผมสยายกระจายยุ่งเหยิงบนเตียงกว้าง...
แม่พิมพ์เปย์กระจาย ยังมีคุณเพื่อนที่น่ารักเปย์แหลกแจกมาให้อีกร้อยเล่ม!
คิดถึงเพื่อนสาวที่ให้ของขวัญมาชุดใหญ่ไฟกะพริบ ขณิกาก็โทรมาขอเสียงตอบรับจากเธอ
“ขอบใจนะเพื่อนรัก... อุตส่าห์ส่งผู้ชายมาให้น้องพิมพ์ ฉันชอบเรื่องนี้มาก!”
[ไม่เป็นไรยัยพิมพ์ หนังสือแก้เซ็ง ฉันว่าแกชอบ เอ้อ... อย่าลืมมางานแต่งฉันกับคุณเมฆนะ ฉันชวนพี่เตมาด้วยอ่ะ]
“โอเคค่ะ” เธอรับปากปลายสายเป็นอย่างดี ไม่ลืมเล่าเรื่องการกักตัวสุดฟิน ณ โรงแรมแห่งนี้ ตามด้วยนิยายโรมานซ์สำหรับนักอ่านสายฟีลกู๊ดอย่างเธอ
[ติดใจผู้ชายในนิยาย อยากผันตัวไปเป็นสายฝอแล้วรึไงยะ?]
“ฉันไม่อยากได้คนไทยอ่ะ... ถ้าเลือกได้อ่านะ เออนี่ แกรู้จักพี่เตชินใช่ป่ะ? เขาเป็นคนยังไงเล่าให้ฟังหน่อยสิ”
พิมพ์ลภัสไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับชายหนุ่มที่เห็นอยู่ว่าชายตามองสาวสวยเป็นนิจ กลับได้รับคำตอบในทางที่ไม่ได้แย่สักเท่าไรว่าเขาเป็นคนแฟร์ ๆ ดี
ยังมีอีกเรื่องคือน้ำใจของคุณป้าขวัญฤดีที่เธอนึกอยากตอบแทนอยู่เสมอ
อันที่จริงก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้รับความช่วยเหลือ นอกจากอาหารซึ่งคุณป้าทำมาให้ชิมว่ารสชาติเป็นอย่างไร และมันอร่อยมาก! จนเธอติดใจเก็บไปนอนฝัน
ร้านของพ่อเธอขายอัญมณี เครื่องประดับทั่วไป มีหน้าร้านหลายสาขา หากมีทองด้วย บางงานเป็นทองร้านป้าขวัญ ด้วยความที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันมีการติดต่อกันในบางโอกาสนาน ๆ ครั้ง
ช่างทองร้านคุณป้าสร้างผลงานออกมาได้ดีในระดับหาตัวจับยาก พนักงานร้านเพชรก็ทำงานซื่อสัตย์ ยังเป็นลิ่วล้อป้าไม่ยอมไปประกอบกิจการอย่างอื่นเลย
เรื่องคดโกงไม่มี หรือถ้ามี... คุณป้ามีการจัดการที่เด็ดขาดเสียขยาดไปตามกัน เธอยังได้ยินว่าแกรู้จักนายตำรวจพอสมควร หากว่ามีปัญหา สามารถต่อสายหากันได้ในกริ๊งเดียว
ก็คงไม่แปลกสำหรับสาวใหญ่ที่ชอบออกงานสังคม รู้จักเอาอกเอาใจคน
[พี่เตนิสัยดี แต่ฉันเตือนไว้ก่อนเลยนะ เพลย์บอยตัวพ่อจ้ะ สาวน้อยใหญ่ตามติดเป็นพรวน ส่วนป้าขวัญน่ะ ใจดีกับทุกคน โดยเฉพาะลูกสะใภ้]
“อ้อ... เหรอ? ขอบใจนะเพื่อน”
พิมพ์ลภัสทำหน้าเงอะงะไปกับเรื่องบาดหู ยังรู้สึกเจ็บหัวใจอยู่ประหลาดพอนึกถึงแววตาอ่อนโยนคู่นั้น
[ถ้าคุณป้าให้เลือกได้ทั้งสามคน เลือกดี ๆ แล้วกัน]
“เลือกแล้วล่ะ” และเธอก็สนใจหรอก! แค่มีลูกเอง
พิมพ์ลภัสได้ปรึกษาเพื่อนในหลาย ๆ เรื่องนอกจากเรื่องเตชินยังมีเรื่องบริษัทโฆษณาที่ลงหุ้นไว้ด้วยกันสามคน ก่อนที่คนมีแฟนจะขอเวลาส่วนตัวให้กับครอบครัว
หลายชั่วโมงที่ได้สนทนากัน คนเคยเมาส์กับเพื่อนสาวได้ทั้งวันหากว่ามีเวลาว่าง รู้สึกนอยด์อยู่เล็กน้อย แต่เธอก็เข้าใจและยินดีกับความสุขของเพื่อนรัก
“สุดท้ายก็เหลือแค่ฉันแล้วสินะ... ที่ยังโสด... เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่หลุดออกจากริมฝีปากงาม
พิมพ์ลภัสทำหน้าเศร้าอยู่ลำพังในห้อง ก่อนที่เธอจะเริ่มเปิดรูปในมือถือดูไปเรื่อยเปื่อยโดยเฉพาะรูปเด็ก...
เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก เด็กทารกแรกเกิดกำลังอ้าปากหาวหวอด ๆ ในอ้อมอกคุณแม่
ความคิดพาให้โค้งมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มละไม หากพอดวงตาคู่คมเข้มประกายผลุบเข้ามาในหัวสมอง อุณหภูมิร้อนจัดเกิดขึ้นกับตัวเธอที่ฟุบหน้าลงจมไปในหมอน กำมือทุบตีที่นอนนุ่ม
ทำไมต้องคิดถึงหน้าพี่เตด้วยเนี่ย... ยัยพิมพ์!