สหาย

1377 Words
จิวซินจากไปองค์ชายห้าท่าทางครุ่นคิด “พี่ห้าเหตุใดท่าน ถึงปล่อยให้ข้าเป็นฝ่ายผิดที่ทำเหมือนขับไล่องค์ชายใหญ่ไปจากจวน” “ก็เพื่อให้เขาพร้อมใจ จากไปด้วยความเต็มใจอย่างไรเล่าทำไมน้องข้าถึงคาดไม่ถึง” ตบไหล่น้องชายเบาๆ ฃงไฉ่ขมวดคิ้วสงสัยในอาการของพี่ห้าแต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยปากถาม “องค์หญิง” จิวซิน ยกมือขึ้นปิดปากจิ่นฉิน ความรู้สึกซาบซ่านแล่นเข้าสู่หัวใจของจิ่นฉิน “ใครให้เรียกข้าแบบนี้ องค์ชายต้องเรียกองค์ชาย” จิวซินพูดจาอ้อแอ้ปล่อยตัวตามสบายหลังจากที่พยายามตั้งสติยามอยู่ต่อหน้าองค์ชายห้าและชงไฉ่ จิ่นฉินรวบร่างบางอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกเดินย่ำไปตามทางที่มืดมิดจิวซินโอบมือรอบคอ ซุกหน้าลงบน อกภาพที่เห็นคือ บุรุษร่างบึกบึนกับอุ้มชายหนุ่มร่างอ้อนแอ้นแต่ใครจะรู้เล่าภายใต้อาภรณ์ของบุรุษนั้นได้ซ่อนร่างงามระหงหากแต่คนอุ้มไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างอุ่นๆ ในอ้อมแขนเป็นร่างบอบบางของหญิงสาวอย่างแท้จริง องค์ชายห้ายืนลูบคางตัวเองไปมาทั้งๆ ที่ไม่มีเคราอย่างใช้ความคิดเมื่อทั้งหมดจากไปกันแล้วร่วมทั้งชงไฉ่ องค์ชายใหญ่จินเกอคนนั้นไม่เคยมีใครได้เคยพบหน้าค่าตา เป็นไปได้ว่าเขา อาจจะเล่นตลก แต่อย่างไรเสียก็ไม่น่าจะมีความกล้ามาลบลู่เบื้องสูงฮ่องเต้ของไห่ตงหยวนได้ รึจะเพราะพิษสุราทำให้เขา เข้าใจอะไรผิดไปเขาภวนาให้เป็นอย่างหลังดีกว่าเพราะอย่างน้อยองค์ชายใหญ่ผู้นี้กับเขาก็นับว่ามีวาสนาต่อกันเขาเองก็ถูกชะตาคิดจะคบหาเป็นสหายอีกทั้งน้องสาว ของเขาองค์หญิงสิบสี่เองก็ได้ข่าวว่าหลงใหลองค์ชายใหญ่ผู้นี้ไม่น้อยเพียงพบกันเพียงครั้งนางถึงกับเอ่ยปากถามบิดาถึงเรื่องการเสกสมรสหวังจะเร่งวันเร่งคืนกันเลยทีเดียวถ้าหากเป็นการย้อมแมวจริงคนที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นองค์หญิงสิบสี่เขา ไม่ได้การแล้วเขาเองต้องพยายามสืบหาความจริงให้ได้แต่ว่าจะด้วยวิธีไหนกัน ฃงไฉ่เดินไล่หลังจิวซินและ จิ่นฉินไปในทิศทางเดียวกันเนื่องด้วย ตำหนักเขาก็อยู่ไม่ห่างออกไป มองเห็นจิวซินซบอกกว้างใช้วงแขนคล้องคอจิ่นซินก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “ไอ้นาย กับองครักษ์คนนี้ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ใจกระหวัดคิดถึงใบหน้างามผุดผ่องของหมิงหลิน ช่างงดงามเมื่อดอกไม้ผลิบานหลังวสันต์ฤดูเขาคงต้องหาโอกาสไม่ใช่สิต้องไปเยี่ยมเยือนตำหนักบูรพาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ เพื่อ...นึกถึงใบหน้ายโสขององค์ชายใหญ่ผู้มีใบหน้างดงามไม่ผิดจากหญิงสาวชงไฉ่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที ชาวเหอตงหยวนไฉนช่างมีใบหน้าและผิวพรรณงดงามหล่อเหลากันทุกคนไหนจะเจ้าองครักษ์จิ่นฉินนั้นอีกใบหน้าคมคาย ผิดกับบุรุษทั่วไป “องค์ชาย เพคะเยว่ฉีรอ เสียนาน” ภาพตรงหน้าคือหนึ่งในหญิงงามที่ครั้งหนึ่งเขาแทบจะ ยอมสละทุกอย่างเพื่อนางหากแต่ตอนนี้เมื่อนางเข้ามาใช้ชีวิตในวังหลวงกับไม่ต่างอะไรกับเหล่าผู้หญิงของเขาที่วันๆ ไม่คิดจะทำอะไรนอกจากหาทางฉุดรั้งทุกวิถีทางให้เขาอยู่กับพวกนางไม่มีทางใดที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นหรือเป็นสุขใจเมื่อต้องอยู่กับพวกนางอีกต่อไปใจกับคิดถึงใบหน้ายโสนั้นอีกครั้งหากเป็นองค์ชายใหญ่ผู้นั้นก็คงจะยินดีที่มีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังดูจากท่าทาง ที่เป็นบุรุษเจ้าสำราญนั่นอีกเล่าคงชอบที่จะอยู่กับหญิงงามเป็นอย่างยิ่ง องค์ชายสิบสองสะลัดความคิดหมกมุ่นถึงคนผู้นั้นทิ้งไปนี่เขาเป็นอะไรไปไยต้องไปสนใจคนต่ำชั้นอย่างนั้นด้วย จิ่นฉินวางร่างบอบบางลงบนแท่นนอนหนานุ่ม จิวซินหลับตาพริ้ม คลายเสื้อออกด้วยความที่คิดว่าคนเมาต้องอึดอัดเป็นแน่ ลืมไปสนิทว่าเขาล่วงเกินนางมากเกินไปแล้ว หมิงหลินเข้าพบพอดีคว้ามือจิ่นฉินโดยเร็ว “ปล่อยให้เป็นน่าที่ของข้า จิ่นฉินสะดุ้งเล็กน้อยนึกโมโหตัวเองที่บังอาจล่วงเกิน นายหญิงอย่างนั้น ฮ่องเต้ นั่งเหม่อลูบคลำกระบี่ในมือที่ด้ามของกระบี่สีทองวาววับมีลวดลายมังกรสลักชื่อเหอหยวน กระบี่ที่ดื่มเลือดอีกฝ่ายเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำสาบานร่วมเป็นร่วมตายกันชั่วนิรันดรและ สับเปลี่ยนอาวุธคู่กายของเขามอบให้เหอหยวนคือดาบไห่หยวนส่วยกระบี่เหอหยวนอยู่ที่เขาพร้อมเคล็ดวิชา ที่ต่างฝ่ายต่างเต็มใจถ่ายทอดให้กัน ครั้งหนึ่งเขากับเหอหยวน เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรบ กับแคว้นฉีจนเป็นที่ระบือนามไปไกลหากคราใดที่มีเหอหยวนร่วมรบเมื่อนั้นความสำเร็จมักจะอยู่ไม่ไกลเขาไม่เคยห่วงชีวิตตัวเองหากแต่ห่วงชีวิตของสหายเช่นเหอหยวนเลยทำให้เขาไม่ยอมตายเพื่อที่จะได้ยืนเคียงข้างเหอหยวนในการรบทุกครั้งไป แต่แล้ว ภาพของหญิงงาม ก็ผุดขึ้นมาแทนที่เหอหยวนและเขา ต่างปักใจในนางไม่แม้แต่จะปริปากบอกสักคำว่านางจะเลือกใครแต่เขากับเป็นฝ่ายได้ครอบครองนาง แม้จะเพียงช่วงเวลาสั้นๆ จนทำให้เขาและเหอหยวนตัดขาดจากการเป็นสหายกันตลอดไปจนกระทั่งตอนนี้เปรียบเหมือนศัตรูที่ต้องคอยห้ำหั่นกันอยู่ตลอดเวลา แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแคไหนก็ตามความขุ่นมัวกับทวีความรุนแรงจนถึงขั้นรบพุ่ง และก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองแคว้น เหอหยวนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขายังไม่เคยลืมมิตรภาพที่สูญเสียไป เหอหยวนไม่อาจอภัยให้เขาได้แต่ใครจะรู้ใจเขาเล่าว่าไม่เคยลืมคำว่าสหาย วางกระบี่ลงบนหีบอย่างถะนุถนอมจะมีสิ่งใดที่เขาจะลบล้างความแค้นในใจเหอหยวนให้หมดไปได้ ภาพใบหน้าขององค์ชายใหญ่จินเกอ ใบหน้าหมดจด ท่าทางอ่อนน้อมทว่าแววตาแข็งกร้าวไม่ต่างจากเหอหยวน เขาจะทำอย่างไรที่จะชดเชย ให้กับองค์ชายผู้นี้จนเหอหยวนพอใจเขารู้ดีว่าเหอหยวนรักบุตรคนนี้ปานแก้วตา ฮ่องเต้ถอนใจยาวหวังว่าการนี้จะไม่เสียเปล่าพร้อมกับสิ่งที่เขาคิดไว้ว่าจะ ชดเชยให้ เหอหยวนเรื่ององค์รัชทายาท องค์ชายสิบสอง “ร่างราชโองการส่งไปยังแคว้น เหอตงหยวน” เสียงสำทับบอกแก่ข้าหลวงหน้าพระพักตร์ ใบหน้าคลายกังวลลงไปไม่น้อยหวังว่าครานี้จะชดเชยให้แก่สหายเก่าจนความแค้นเคืองหมดสิ้นไป จิวซินสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาจากหลับใหล หอมกรุ่นกลิ่นโจ๊กลูกบัวทำจมูกฟุดฟิดลืมกิริยาของบุรุษจนหมดสิ้น “หมิงหลิน ข้าหิวแล้ว” แต่ฉับพลันเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เปลี่ยนเสียงพูดและกิริยาน่ารักให้หายไป กลายเป็นน้ำเสียงดุดัน “เข้ามานี่หน่อย หมิงหลิน” หมิงหลินอมยิ้ม เยื้องย่างเข้ามา ยกน้ำอุ่นเทลงอ่างอาบน้ำใบใหญ่ปิดหน้าและห้องหับเสียมิดชิดผ้าม่านถูกนำมาขึ้งกันถึงสามชั้น จิวซิน เปลื้องผ้าลงไปนอนแช่น้ำอุ่นผมยาวสลวย สยายลงกลางหลังใบหน้าผุดผาดประทุมถันเต่งตึงหน้าท้องเรียบเนียนสวยไร้ที่ติ ผิวขาวอมชมพูจนหมิงหลินเป็นผู้หญิงยังถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อเผลอมองแบบตรงๆ นายหญิงของนางไม่เพียงแต่งดงามเท่านั้นหากแต่ใต้หล้านี้คงจะหาใครเทียบเคียงนางไม่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD