บทที่1.จุดเปลี่ยนของลูคัส...

1536 Words
เอรินทร์เป็นบุตรสาวตระกูลบาร์วก็จริง!! แต่เธอมันก็แค่...บุตรที่เกิดจากมารดาที่เป็นสาวใช้ เป็นลูกบ่าวก้นครัว ไม่มีสิทธิ์มีเสียงเหมือนบรรดาพี่ๆ ที่เกิดจากมาดามคาเรีย คลอลิน บาร์วมีบุตรทั้งหมด4 คน แต่ที่สังคมรับรู้มีแค่3 พี่ชายและพี่สาวของเธอคือคลากส์  เฮนน่า และวิคตอเรีย ทุกคนถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี รวมถึงเธอด้วย แม้จะถูกกดขี่จากมาดามคาเรียมากแค่ไหน แต่อำนาจของคลอลินก็ยังสามารถคุ้มครองเธอได้ ถึงแม้จะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไร แต่เธอก็โตมาได้อย่างดี มีความรู้ ได้เล่าเรียน แม้มารดาจะชิงลาโลกไปก่อนหลายปี            วันที่เรียนจบ เธอเดินออกจากคฤหาสน์บาร์วด้วยกระเป๋าเป้ใบเดียว กับเงินในบัญชีนิดหน่อย...เพราะสุดทนการกดดันจากมาดามและบุตรสาว...อีกอย่างเธอคงสามารถเลี้ยงปากท้องตัวเองได้ เพราะเธอโตพอที่จะดูแลตัวเอง            “ยัยหนู ทำไมทำแบบนี้ละลูก?” เสียงเหนื่อยอ่อนของบิดา ท่านโทรศัพท์มาถามทันที ที่เรื่องของเธอถึงหูท่าน          “เอมโตแล้วค่ะแด๊ด...เอมอยากทำงานด้วย ถ้าอยู่ที่คฤหาสน์บาร์วเอมคงทำได้แค่ถูพื้น” หญิงสาวไม่ได้ประชด เธอถูกกดไม่ต่างจากคนใช้ ดีหน่อยแค่ได้ร่วมโต๊ะอาหารเวลาที่อยู่พร้อมหน้าในฐานะลูกสาว          “แด๊ดเป็นห่วง...อยู่บ้านเราไม่มีอันตราย ออกไปอยู่ข้างนอกนั่น มีแต่ภัยรอบตัว” ท่านติง          เอรินทร์คลี่ยิ้ม เธอเอนตัวนอนแผ่บนที่นอนนุ่มๆ “เอมอยู่ได้ค่ะ เอมสัญญาจะรักษาตัวดีๆ วันไหนว่างๆ เอมจะแวะไปหาแด๊ดที่บริษัทค่ะ” ยังไงคลอลินก็เป็นผู้ให้กำเนิด เขาคือบิดาของเธอ เป็นตัวแทนความรักที่แม่เธอมอบให้          “แด๊ดจะโอนเงินเข้าบัญชีเราให้ เก็บไว้ใช้นะลูก ห้ามปฏิเสธ!! คาเรียจะไม่มีวันรู้” เรื่องการเขม้นกันในฐานะแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง ท่านรู้เต็มอก แต่เมื่อขัดขวางไม่ให้คาเรียอาละวาดไม่ได้ ท่านก็ต้องคอยปกป้องเอรินทร์ คลอลินหวังว่าในอนาคต คาเรียคงยอมรับลูกสาวที่น่ารักของท่านได้ แต่เปล่าเลย...กาลเวลาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น นับวันความเกลียดก็ยิ่งเพิ่มพูนในหัวใจของคาเรีย เมื่อเอรินทร์ ล้ำหน้าบุตรสาวของนางทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ผิวพรรณ หรือสมอง...          ภายใต้แว่นตากรอบโตกับเสื้อผ้าหลวมๆ ซ่อนผู้หญิงที่สวยสะดุดตาคนหนึ่งไว้ เพราะเอรินทร์รู้ไง...คาเรียคอยจ้อง หากอยากอยู่รอดเธอต้องรู้จักป้องกันตัวเอง จะรอความช่วยเหลือจากคลอลินคนเดียวไม่ได้          “ค่ะ”          หญิงสาวแอบยิ้ม เธอก้มหน้าจนปลายคางแทบจรดอกอิ่ม เธอเคยเจอลูคัส และเขาเคยเห็นเธอ แต่ไม่รู้ว่าเวลาเกือบ4 ปี เขาจะลืมเธอหรือยัง            “เอม...กลับก่อนก็ได้นะ ฉันอยู่คนเดียวได้” เอรินทร์ทำงานเป็นผู้ช่วยนักข่าว และเธอเป็นผู้ช่วยของมิแรนดา แกลร์ หล่อนกำลังดัง!! เพราะหลายข่าวที่หญิงสาวเขียนบทวิจารณ์ตรงใจคนอ่าน เวลานี้เธอจึงถูกเลือกให้มาทำข่าวของลูคัส หญิงสาวรีบกระโจนรับ เธอหวังหลายทาง ทั้งชื่อเสียง และความสัมพันธ์ที่อาจจะเกินเลยระหว่างตัวเองกับลูคัส เดมเชีย            “ค่ะ” หญิงสาวพับสมุดจด เธอยัดสมุดเล่มนั่นใส่ในกระเป๋าสะพายข้างตัวแล้วจึงรีบหลบออกมาจากสถานการณ์น่าหวั่นกลัว            “พูรว์!!” หญิงสาวถอนใจยาวเหยียด...เธอเดินทอดน่อง คิดถึงความหลังเก่าเก็บ เป็นความรันทดขมขื่นที่ไม่มีใครคนใดรู้            ใครจะไปคิดว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงข่มทุกทาง เอรินทร์รู้ตัวดี เป็นเพราะมารดาของเธอเป็นที่รักของคลอลิน มาดามคาเรียจึงพลอยเกลียดเธอไปด้วย ในวันที่มารดาสิ้นใจ มาดามคาเรียจึงหัวเราะร่าด้วยความสะใจ เสี้ยนหนามของนางสูญสิ้นไปแล้วหนึ่ง ที่เหลือก็แค่ขยะสายตา และนางไม่มีวันให้อภัยสองแม่ลูก ที่เข้ามาแย่งความรักจากสามีไปจากนางจนหมด            “ไปจากที่นี่สะ!! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ในเมื่อแกเรียนจบแล้วนี่ แกจะอยู่รอส่วนบุญอะไรจากเราอีก!!”          เสียงเกรี้ยวกราดเต็มไปด้วยความเกลียด เอรินทร์ยิ้มกร่อยๆ เธอคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาออกไปเร่ร่อนด้านนอก ดีกว่าอยู่ให้ถูกถากถาง...          “ใช่...เธอไม่มีวันได้อะไรจากแด๊ด...หากฉันยังอยู่”          วิคตอเลียถอดเค้าโครงมาจากมาดามคาเรียทุกกะผีก ไม่เว้นแม้แต่นิสัยใจคอ ความเกลียดชังในตัวเธอจึงมีไม่ใช่น้อย          “ค่ะ...” เอรินทร์ก้มหน้ารับคำ เธอจนทางแต่ไม่จนใจ          “มัมคะ!!” พี่สาวที่ยังพอมีความเมตตากับเธอบ้างคงไม่พ้นเฮนน่า เธอเป็นพี่สาวคนเดียวที่คิดว่าเอรินทร์เป็นน้อง          “หุบปากไปเลยเฮนน่า...ฉันเกลียดแม่มัน และไม่มีวันให้อภัยมันสองคนแม่ลูก...ผู้หญิงสกปรกน่ารังเกียจนั่น ยอมทอดกายให้ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วเชยชมเพราะหวังสบาย...ทุเรศสิ้นดี!!”          นางตวาดเสียงกร้าว ด่าทอเอมิกาแม้หล่อนจะลาโลกไปแล้ว แต่ความทรงจำของมาดามคาเรียไม่มีวันลืม ผู้หญิงคนนั้นทำให้สามีนางผิดคำพูด หล่อนยั่วยวนคลอลินจนเขาหลงจนหัวปักหัวปำ ยอมแม้กระทั่งผิดใจนาง เพื่ออุ้มชูสองแม่ลูกนั่น!!          “ยังไงเอมก็เป็นน้องเฮนน่าจะปล่อยออกไปอยู่ข้างนอกได้ยังไงคะ บ้านเราก็ออกจะหลังใหญ่ แค่เอมคนเดียวคงไม่หมดเปลืองสักเท่าไร”          หญิงสาวพยายามค้านคนเป็นแม่ เวทนาน้องสาวจับใจ เพราะเอรินทร์ถูกมารดาของเธอกดขี่มาตลอด...ตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ ทุกคนรู้เห็น... แต่ไม่สามารถยื่นมือมาช่วยได้ เพราะมันยิ่งจะทำให้เอรินทร์ถูกกระทำมากขึ้น ขนาดบิดายังไม่สามารถ แล้วใครล่ะจะช่วยเอรินทร์ได้          “ฉันโยนอาหารให้สุนัขกินยังมีประโยชน์เสียกว่า ให้คนที่ไม่สำนึกบุญคุณกิน กินบนเรือนขี้บนหลังคา แม่มันทำได้ แล้วทำไมลูกมันจะไม่ทำ เมื่อสันดานมันเหมือนกัน!!”          หญิงสาวก้มหน้าทนฟัง เธอกำมือแน่นจนเล็บกดลงไปในผิวเนื้อ มันไม่เจ็บแต่มันชา...          “เอมจะไปค่ะ แต่ขอล่ะ... อย่าด่าแม่เอมเลย...แม่เอมไม่ผิด แด๊ดกับแม่รักกัน”          เอรินทร์ตอบเสียงเครือ ขนาดมารดาเป็นแค่เถ้ากระดูก มาดามคาเรียก็ยังงัดออกมาเสียดสี ความเกลียดของนางไม่เคยลดทอนลง มีแต่เพิ่มขึ้นจนน่าวิตก          คำตอบซื่อๆ แต่กระแทกใจมาดามคาเรียจังๆ ความจริงที่นางทำปิดหูปิดตาไม่อยากรับรู้ สามีปันใจให้ผู้หญิงชั้นต่ำ แถมยังมีสายใยรักเป็นหนามตำใจนาง แบบนี้จะไม่ให้นางเกลียดลูกสาวของผู้หญิงเพศยาคนนั้นได้ยังไง          “รักกัน!! ฉันอยากหัวเราะ ถ้าหาก... คลอลินไม่มีเงิน แม่แกจะเอาไหมล่ะ แค่ผู้ชายแก่ๆ ไร้น้ำยาคนหนึ่ง”          นางแดกดันซ้ำ ผู้ชายไร้น้ำยาที่นางพูดถึง มีมารหัวขนมานั่งขวางตานางอยู่นี่ไง ความอัปยศที่ทำให้นางรู้... ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคน มักมาก และไม่รู้จักพอ!!          หญิงสาวจนคำตอบ เธอรู้ป่วยการเถียง เมื่อเธอไม่มีวันชนะ สู้ยอมถอยออกมา เพื่อให้บิดาได้มีความสุข ไม่ร้อนหูเพราะเธอดีกว่า          เอรินทร์สะดุ้ง!! เมื่อโทรศัพท์ส่วนตัวสั่นเตือน หญิงสาวสอดมือลงไปในกระเป๋าสะพาย ล้วงโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบอภินันทนาการจากเฮนน่าพี่สาวออกมากดรับ รอยยิ้มแต้มมุมปากเมื่อคนที่โทรศัพท์มา คือคนที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ให้เธอนั่นเอง...            “สวัสดีค่ะพี่เฮนน่า...ลมอะไรหอบมาคะ?”            “ลมคิดถึง... เราหายหัวไปเลยนะเอม ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ!!”            เสียงหวานแต่ออกจะเข้มนิดๆ เพราะเจ้าตัวหงุดหงิดที่ติดต่อน้องสาวคนสวยไม่ได้            “อยู่ ‘โรม’ ค่ะ เอาผู้ชายหล่อๆ สักคนไหมคะพี่เฮนน่า เดี๋ยวเอมยัดใส่กระเป๋าไปฝากสักคน” หญิงสาวตอบเสียงสดใส เฮนน่าเป็นคนเดียวในหมู่พี่น้องที่ยังไม่มีคนข้างกาย เมื่อเธอเอาแต่ทำงาน แทบจะเป็นมือเป็นเท้าแทนคลอลิน แทนที่จะเป็นคลากส์พี่ชาย... “โรม!! เดี๋ยวนี้ปารีสเพรสเขาส่งนักข่าวผู้หญิงไปไกลถึงโรมเชียวหรือ...แบบนี้ไม่ไหวนะ อันตรายทั้งนั้น แต่ละคนที่ขึ้นหน้าหนึ่งปารีสเพรส พี่เห็นมีแต่คนเจ้าชู้ ตัวอันตรายทั้งนั้นเลย...ระวังตัวด้วยนะเอม...เราน่ะไม่มีวันตามทันเล่ห์ผู้ชายหรอก” สาวหัวโบราณเอ่ยเตือน บ่นยาวเหยียดเรื่องความไม่สมควรที่หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ส่งผู้หญิงไปทำงานไกลๆ แบบเสี่ยงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD