บทที่2.ไม่ใครก็ใครที่ต้องเจ็บ......

1509 Words
คลอลินแย้งแบบเป็นกลาง ในมุมของเขา ชายหนุ่มผู้นั้นอันตรายเกินกว่าที่คนในครอบครัวตัวเองเข้าไปใกล้ สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการอยู่ห่างๆ เขาไว้เมื่อหัวใจของชายหนุ่มมีแต่ความแค้นอัดแน่นอยู่ในนั้น มันเป็นแรงผลักดันชั้นเลิศ ไม่ว่าอะไรก็ไม่มีทางทำให้ลูคัสกลัว...            “คุณก็เอาแต่แหย...แบบนี้ไงไอ้ลูกหมาลูคัสมันถึงกร่าง”            มาดามคาเรียเบ้ปาก นางก่นด่าลูคัสแบบไม่ไว้หน้า ไอ้หนุ่มนั่นทำกำแหง แค่มีเงินกับสมอง แต่ประสบการณ์แค่หางอึ่ง!! ลูกล่อ ลูกชนนางมีเป็นกระบุง หากงัดออกมาใช้ เดมเชียอินดัสเทรียสก็ไม่น่าจะเหลือ เพราะครั้งหนึ่งเดมเชียเทรดร่วงเป็นนกปีกหัก เพราะฝีมือเธอมาแล้ว            “อย่าลำพองนักมาดาม นั่นเป็นหายนะ...แต่ก็ตามใจนะ ผมเตือนคุณแล้วมาดาม...การมีมิตรดีๆ ดีกว่าการมีศัตรู และศัตรูที่แค้นจัด เขาทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ เพื่อทำลายเรา...”            คลอลินผุดลุกขึ้นยืน ป่วยการที่จะพูดต่อ เมื่อแม่-ลูก เข้ากันเป็นปี่ เป็นขลุ่ย บางครั้งเขาก็คิด มาดามคาเรียควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง...นางจะได้ลดความอำมหิตลง...ไม่เห็นทุกอย่างรอบตัวเป็นแค่เกมธุรกิจ เพราะคนอื่นๆ ก็มีหัวใจ มีโกรธ เกลียด และลุ่มหลงไม่ต่างกัน            “ช่างแด๊ดแกเถอะเฮนน่า ไม่ว่ากี่ปี...แด๊ดแกก็ยังคงใจอ่อนเหมือนเคย ว่าแต่...ตามเรื่องคลากส์ไปถึงไหนแล้ว เจอตัวพี่เขาหรือยัง?”            นางปัดความสนใจในตัวสามี เขาแก่จนหมดไฟ หมดแรงสู้ แถมยังทำท่าอ่อนปวกเปียก เอะอะอะไรก็อ้างแต่การทำดี สิ่งที่นางทำ... ใช่ว่าจะเลวทั้งหมดเสียเมื่อไร มันเป็นไหวพริบในเชิงธุรกิจ ใครโง่!! คนนั้นก็กลายเป็นเหยื่อ            หญิงสาวถอนใจเฮือก!! เธอไม่ได้เห็นด้วยกับมารดาทั้งหมด...แต่เรื่องที่ลูคัสเป็นภัยคุกคามนั้นเธอเห็นด้วยเต็มๆ เขาเป็นอันตรายและควรกำจัดทิ้ง            “กำลังตามตัวอยู่ค่ะมัม...อีกไม่นานก็น่าจะรู้”            เฮนน่าถอนใจด้วยความเหนื่อยอ่อน เธอแบกภาระไว้จนหนังอึ้งไปทั้งสองบ่า ไหนจะเรื่องงาน ไหนจะต้องตามเช็ดล้างสิ่งที่พี่ชายทำ บ้างครั้งเฮนน่าก็อยากหายตัวได้ เธออยากพักและอยากมีคนที่ไว้ใจพอให้ระบายความอึดอัดได้บ้าง...            “คงไม่มีอะไรรั้งคลากส์ได้เท่าผู้หญิง!! ตามหาพี่แกตามโรงแรมสิ”            นางรู้ดีบุตรชายฝักใฝ่เรื่องกามารมณ์มากเกินไป สิ่งเดียวที่ทำให้คลากส์ลืมหน้าที่ คงไม่พ้นผู้หญิงสาวสวย โรม...อิตาลี...            ห้องสวีทหรูกลางกรุงโรม บรรยากาศนอกห้องเริ่มร้อนนิดๆ แต่ภายในห้องสวีทคงเย็นฉ่ำ เมื่อแอร์คอนนิชั่นทำงานเป็นอย่างดี ผู้ชายร่างสูงใหญ่นอนเปลือยแผงอก เขาหลับสนิทสีหน้ามีความสุข เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาเขาถูกสาวสวยนางหนึ่งปรนเปรอเสียจนฉ่ำปอด...            “ค่ะ...ยังหลับอยู่ค่ะ... ได้ค่ะ... ตามนั้นค่ะ” เสียงพูดดังเบาๆ เมื่อเจ้าตัวกระซิบเสียงแผ่วกับบุคคลปลายสาย            หล่อนเหลือบมองผู้ชายบนเตียงพร้อมกับมุมปากที่กระตุกยิ้ม สภาพของเขาหากไม่รู้จัก เธอคงไม่อาจเชื่อ นี่นะเหรอผู้ชายที่กินตำแหน่งว่าที่ประธานคนต่อไปของบาร์วโพสิต เขามักมากในโลกี หลงเดินตามเกมเธอมาง่ายๆ ไม่สมกับการเป็นผู้นำ เมื่อเวลาเดียวกันนี้ เขาควรต้องนั่งอยู่ในห้องประชุม เพื่อประมูลงานพันล้าน แต่ผู้ชายคนนี้กลับลืมสนิท เขามั่วอยู่กับเธอทั้งคืนจนลืมหน้าที่ หล่อนอยากเยาะหยัน แต่ช่างเถอะ!! เธอเองก็แค่ทำตามแผน ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง...ขอแค่เธอมีกินเป็นพอ หญิงสาวกระทดตัวลงจากเตียง เธอแต่งตัวเงียบๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องสวีทออกไป หลังหน้าที่ของเธอจบลง...            ปล่อยให้คลากส์นอนหลับสบาย...อยู่ในห้องคนเดียว            3ชั่วโมงผ่านไป ชายหนุ่มขยับตัวด้วยความเมื่อยล้า...พอดีกับที่...ประตูห้องสวีทเปิดผั๊วะ!! เข้ามาพอดี            “เห้ย!! อะไรวะ?”            ชายหนุ่มผวา เขาตวาดเสียงก้อง ถลึงตาใส่การ์ดในชุดสูทสีดำสนิท เมื่อพวกเขาคือการ์ดของตัวเอง            ไม่มีเสียงตอบ มีแต่เสียงถอนใจแผ่วๆ กับแววตาโล่งอก            “เจอบอสแล้วครับคุณเฮนน่า” โทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกนำมาใช้ เมื่อต้องรายงานความคืบหน้าให้คนสั่งงานรับรู้            “ขอฉันคุยกับพี่ชายหน่อยสิ” เฮนน่าตอบกลับเสียงขุ่น กว่า16 ชั่วโมงที่ตามหาคลากส์ บทจะเจอก็เจอง่ายๆ แต่มันสายไปแล้วสำหรับการประมูล เมื่อการประมูลจบลงตรงเดมเชียคว้างานชิ้นใหญ่ๆ ไปทั้งหมด...            “คุณเฮนน่าอยากคุยด้วยครับบอส”            การ์ดหนุ่มส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้เจ้านาย คลากส์กระชากมาแรงๆ เขากรรโชกเสียงเคร่งตอบกลับไป ไม่ได้รอให้ปลายสายพูดก่อน            “แกไม่ใช่มัมนะเฮนน่า อย่าวุ่นวายกับฉันนัก น่ารำคาญว่ะ!!”            “ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะคลากส์ ถ้าพี่ไม่ได้ทำให้บาร์วของเราสูญเงินไปกว่าพันล้าน พี่คงไม่รู้สิว่าตัวเองลืมอะไรไปบ้าง...คงกำลังมั่วกับผู้หญิงอยู่ใช่ไหมคะ? หนูเดาถูกเปล่าล่ะ!!” หญิงสาวตอบกลับเสียงเยาะๆ เธอเองก็เบื่อกับการคอยตามตัวคลากส์ เขาไม่มีความรับผิดชอบทั้งๆ ที่เป็นคนแบกภาระสำคัญ            “แกพูดเรื่องอะไรเฮนน่า นับวันแกจะขี้บ่นเหมือนมัมเข้าไปทุกที”            ชายหนุ่มตอบกลับเสียงแผ่วลง...เขาเหลือบมองเวลา แล้วจึงพ่นลมหายใจแรงๆ เขาหลับสนิทจนตื่นสายโด่งขนาดนี้เชียวหรือ?            “ช่างเถอะคลากส์...มันไม่ทันแล้วล่ะ แค่เจอพี่หนูก็ดีใจแล้ว...รีบกลับเร็วๆ ล่ะมัมคงรอเฉ่งพี่อยู่”            เฮนน่าพูดต่อ เธอไม่สนใจเสียงบ่นงึมงำของคลากส์ เมื่อชินเสียแล้วกับความเจ้าอารมณ์ของพี่ชาย            “ไม่ทันอะไรว่ะเฮนน่า แกทำเหมือนพี่ทำผิดอะไรหนักหนา”            “นี่พี่ยังนึกไม่ออกอีกหรือไง...พี่ลืมการประมูลสร้างตึกที่โรม...ทีนี้นึกออกหรือยัง...เดมเชียมันกวาดไปเรียบเพราะบาร์วไม่มีคนไป....ตลกค่ะ!! เราไม่ควรแพ้แต่กลับแพ้”            คลากส์ตัวชา เขามัวแต่หลงระเริงกับผู้หญิงจนลืมงานสำคัญ กลับไปวอชิงตัน ดี.ซี.คราวนี้ เขาคงโดนมารดาบ่นหูชา เรื่องพฤติกรรมเหลวไหลที่ถูกคาดโทษไว้หลายหน            “เอ่อ...”            “ป่วยการแก้ตัวกับหนูค่ะ พี่ควรรีบกลับมาแก้ตัวกับแด๊ด”            หญิงสาวตัดบท เธอกดวางสาย สนใจงานตรงหน้าดีกว่าเมื่อคลากส์ยังมีลมหายใจ แค่นี้คือสิ่งที่เธอพอใจ เพราะความจริงแล้ว เฮนน่ากลัวที่สุดคือการที่คลากส์พลาด หากศัตรูคิดจะปลิดชีวิตพี่ชาย เขาคงไม่เหลือลมหายใจถึงวันนี้ เมื่อชายหนุ่มมีจุดอ่อนในเรื่องที่ไม่น่ามี            “แม่ม!! เป็นแม่กู หรือเป็นน้องกูว่ะ!! บ่นกูกันจัง”            ชายหนุ่มแก้เก้อโดยการแสร้งโวย เขาเสียหน้ากับลูกน้องเพราะเฮนน่าหลายครั้ง            “เตรียมเครื่องอีก30 นาทีกูจะกลับบ้าน!!”            ชายหนุ่มตวาดเขากระโจนลงจากเตียงนอนเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวด้วยความหัวเสีย เขาพลาดงานสำคัญอีกแล้ว แบบนี้เครดิตของเขาเสียยับ ตำแหน่งประธานที่ต้องการเริ่มขยับห่างออกไปอีกนิด เขาคงต้องรีบกลับไปขอความเห็นใจจากมารดา ไม่อย่างนั้น เฮนน่าได้ตำแหน่งนี้ไปครองแน่ๆ            คลากส์เดินหน้ายับนำหน้าการ์ดคู่ใจ เขากราดตามองไปรอบๆ แม่สาวคนนั้นหายไปแบบไร้ร่องรอย เขาไม่เห็นหล่อนตั้งแต่ลืมตา... โรมคือแผ่นดินที่สวยสมกับประวัติอันยาวนาน ผู้คนผิวเข้มเพราะแดดและลม ผู้หญิงสาวๆ ก็สวยคมขำ หากไม่ต้องรีบกลับไปประจบมาดามคาเรีย เขาจะอยู่ชมโฉมสาวๆ อีกสักอาทิตย์ น่าเสียดาย...            สายตาของคลากส์สะดุดเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนแต่ตัวด้วยเสื้อผ้าหลวมโพลก สะพายกล้องถ่ายรูปไว้ที่ไหล่ซ้าย กับกระเป๋าสะพายพะรุงพะรัง...ผมยาวถูกมัดง่ายๆ ด้วยเชือกสีน้ำตาลไหม้ กับรองเท้าผ้าใบเก่าๆ โทรมๆ การแต่งกายที่ไม่มีสาวๆ คนไหนแต่งตัวแบบนี้ เมื่อมันมองหาความสวยไม่มี แต่ผู้หญิงคนนั้นทำ หล่อนจะเป็นใครไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่น้องสาวคนสุดท้องของเขา เด็กสาวที่มารดาเกลียดขนาดทนเห็นหล่อนในสายตาไม่ได้ และเอรินทร์ก็ยืดอกเดินจากไปแบบไม่สะทกสะท้าน คลากส์เปลี่ยนใจไม่เดินออกไปที่ประตูหน้า ตรงนั้นมีรถยนต์ลีมูซีนจอดรอเพื่อพาเขาไปยังสนามบิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD