4

1443 Words
นรราชนอนยิ้มขณะมองคนที่หลับลึกอยู่ในอ้อมแขนของเขา มันสาแก่ใจเขาเป็นบ้า ไม่รู้ว่าก้าวขาออกจากบ้านเท้าไหนถึงได้โชคดีขนาดนี้ ได้ขย้ำลูกสาวศัตรูคาร่าง เขาอยากเห็นหน้าของสุทธิศักดิ์นักตอนรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักของมันตกเป็นเมียของเขาแล้ว แถมยังโดนย่ำยีไปอีกหลายรอบในคืนเดียว นรราชหายเมาเป็นปลิดทิ้ง เขาแทบไม่ง่วงเลยด้วยซ้ำ กลิ่นหอมของสาวน้อยในอ้อมแขนทำเอาเขาปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา เขาไม่ใช่คนใจดีออกจะใจร้ายกับผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ ถ้ารุ่งสางเขาจะรังแกเธออีกสักยกสองยกคงดีไม่น้อย ร่างเล็กประท้วงเมื่อโดนกอด เขาทอดสายตามองเธออยู่แบบนั้นจนเผลอหลับตามเธอไป ความปวดเมื่อยเจ็บแปลบและอาการเหนื่อยล้าเล่นงานนิรินอย่างรุนแรงในตอนเช้า เธอขยับตัวแล้วปรือตาตื่นจากการหลับใหล สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้ารกไปด้วยหนวดเคราของนรราช นิรินอ้าปากค้างตาโตเมื่อเห็นสีหน้ายียวนกวนประสาทของคนที่กอดรัดเธออยู่ พอดิ้นเขาก็ขยับหน้ามาหาก่อนจะหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะเมียจ๋า” “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะ” เธอดิ้นรนขัดขืน แต่เขายิ่งรัดแน่นขึ้น ภายใต้ผ้าห่มคือร่างเปลือยเปล่าที่ไม่มีเสื้อผ้าติดกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เธอหน้าแดงร้อนผ่าว อยากให้ทุกอย่างเป็นความฝัน “อยากให้ปล่อยว่างั้น” เขาทวนประโยคของเธอก่อนจะยกมือขึ้นข้างตัวทำท่าว่ายอมปล่อยแต่โดยดี อกกว้างบึกบึนกับผิวสีแทนเรียบตึงของเขาโผล่พ้นมาจากผ้าห่ม ทำให้เธอต้องเม้มปากและเบือนหน้าหนี จัดการรวบผ้าห่มมาห่อร่างกายเอาไว้แล้วเริ่มขยับลงจากเตียง ความเจ็บแปลบตรงกลางเรือนร่างมาเยือนเธออย่างปัจจุบันทันด่วน ร่างเล็กล้มซุนไปกับกองผ้าห่มที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้เหมือนมัมมี่ นรราชยั้งไม่อยู่จึงหลุดขำออกมา เขามองร่างเล็กที่พยายามกระเสือกกระสนขึ้นจากพื้นอย่างเอ็นดูโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอหันไปมองก่อนจะหลับตาปี๋ เพราะร่างของเขาเปลือยเปล่า เนื่องจากไม่สวมใส่อะไรเลยเมื่อเธอดึงผ้าห่มที่คลุมร่างของเขาเอาไว้มาห่อร่างของตัวเองแทน “อาบน้ำกันดีกว่า” นรราชเอ่ยชวนเด็กสาวที่อายุห่างจากเขาหลายปี เธอส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่ง ในขณะที่เขานั่งยองๆ อยู่ข้างกาย คำปฏิเสธของเธอดูจะไม่เป็นผล เมื่อคนป่าเถื่อนแบกร่างเธอขึ้นทั้งที่ยังห่อตัวด้วยผ้าห่มเพื่อพาเข้าห้องน้ำ นิรินทั้งดิ้นทั้งประท้วง สุดท้ายก็แพ้คนตัวโตที่เบียดเธอไปกับผนัง แล้วจับเธออาบน้ำเหมือนเด็กๆ เขาดูบันเทิงใจที่ได้แกล้งเธออยู่ตลอดเวลา กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอก็โดนสูบพลังไปอีกระลอกใหญ่ นิรินรีบพาตัวเองออกจากห้องของเขาโดยเร็ว “ไปเที่ยวเกาะเมตตากับฉันไหม” นรราชเอ่ยถามเด็กสาวที่เดินนำเขาออกมาจากห้องลิ่วๆ เธอมองซ้ายแลขวาก่อนออกจากห้อง เพราะกลัวใครเห็นเข้า จนเขานึกรำคาญ ในขณะที่เขาเดินตามออกมาแบบไม่ทุกข์ร้อนอันใด “เนยไม่ไปเกาะของลุงราชเด็ดขาด” เธอชะงักหันมาโต้ตอบกับเขา       หัวเด็ดตีนขาดเธอจะไม่ยอมไปที่นั่นเด็ดขาด “ว้า... งั้นพ่อของเธอก็คงต้องรู้เรื่องนี้สินะ ถ้าเขาเห็นรูปตอนเรานอนแก้ผ้าโป๊เปลือยอยู่บนเตียงด้วยกันจะคิดยังไงนะ” “ลุงราชหมายความว่ายังไงคะ” เธอเอ่ยถามอย่างตกใจ เขาคงไม่ทำอะไรน่าเกลียดแบบนั้นใช่ไหม “ความหมายอยู่ในประโยคที่ฉันพูดนั่นแหละ” “ลุงราชทำแบบนี้ทำไม” “เพื่อความสะใจไง ฉันอยากเห็นพ่อเธอกระอักเลือดตาย” “คนใจร้าย” เธอต่อว่าเขาก่อนจะวิ่งหนีด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ เพราะเจ็บตรงหว่างขา เพื่อลงมาด้านล่าง ทุกคนกำลังนั่งพร้อมเพรียงกันอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่ เป็นโต๊ะทรงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงหัวโต๊ะคือคุณย่าลักษณ์นารา และสมาชิกคนอื่นๆ ที่นั่งเรียงลำดับไปตามความอาวุโส นิรินชะงักเท้า เธอวางหน้าไม่ถูก ยิ่งตอนที่นรราชเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับเธอ ทำเอาทุกคนอ้าปากค้างที่เห็นเขาที่นี่ “ตาราช” ประมุขของบ้านร้องขึ้นอย่างแปลกใจระคนดีใจ นรราชเดินเข้าไปหาก่อนจะกราบที่ตักของท่าน “หลานรักของย่า” ประโยคนั้นเต็มไปด้วยความรักสุดหัวใจ สมาชิกทุกคนในครอบครัวรู้ดีว่าทายาทที่แท้จริงของพันธุเสมาคือนรราช แต่ทุกคนก็เจียมเนื้อเจียมตัวดี ไม่เคยคิดตีตนเสมอหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล แม้หญิงชราจะรักทุกคนเท่าเทียมกันก็ตามที ตั้งแต่มีเรื่องครั้งนั้น นรราชก็ไม่ญาติดีกับใครอีกเลย เพราะคิดว่าทุกคนมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากเขา ทำให้เขาเลยหนีไปอยู่เกาะ นานนับปีกว่าจะยอมกลับมาที่นี่ แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมสุงสิงกับใครให้สนิทสนมเหมือนเก่าก่อน เพราะนรราชคิดว่าหลายคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นดี แต่ไม่มีใครบอกเขาตรงๆ ทุกคนรู้ดีว่าสุทธิศักดิ์กับมุกดาเป็นอย่างไรกันบ้างลับหลังเขา นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกผิดกับนรราชอยู่มาก อีกทั้งยังเห็นใจเขาอีกด้วยที่ต้องอกหักจากหญิงที่รักมากมายขนาดนี้ แต่นรราชไม่ต้องการความเห็นใจหรือสงสารเวทนาจากใคร เขาไม่อยากเป็นไอ้หน้าโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย ทั้งๆ ที่คนอื่นรู้กันแทบทั้งสิ้น “กลับมาตอนไหน ทำไมย่าไม่เห็นรู้เลย” คำถามของคนเป็นย่าทำให้    นรราชยิ้มกริ่ม “เมื่อคืนครับ มาทางประตูหลัง” “ตายแล้ว นายเพิ่มไม่เห็นบอกย่าเลย” “คงยุ่งๆ เลยไม่ได้บอกน่ะครับ” เขามีกุญแจคฤหาสน์หลังนี้ ผู้เป็นย่าให้ติดตัวเอาไว้ จะเข้านอกออกในเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นการที่นรราชเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่มีใครรู้จึงเป็นเรื่องปกติมาก เพราะนิสัยแปลกๆ ไปไหนมาไหนไม่ค่อยบอกใครของอีกฝ่ายทำให้ทุกคนชินเสียแล้ว “มานั่งใกล้ย่ามาราช” ประโยคนั้นทำให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ท่านจำต้องสละเก้าอี้ไปนั่งอยู่ปลายโต๊ะแทน “แม่เนยก็มานั่งใกล้ฉันสิ” ประโยคนั้นทำให้คนที่ยังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่รีบปฏิเสธทันที “ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน” เธอรีบตอบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ท่านต้องลุกจากเก้าอี้ “มาเถอะ เราน่ะเหลนรักของคุณท่าน คุณท่านคงอยากจะสนทนาด้วย” คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับหญิงชราเอ่ยขึ้น “มาสิ” ประโยคนั้นทำให้นิรินกล่าวขอบคุณ รีบเดินไปทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ กับประมุขของบ้าน แต่ไม่มีใครว่าอะไร เพราะรู้ดีว่านิรินนั้นเป็นเด็กดีชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่แปลกที่หญิงชราจะรักและเอ็นดูเป็นพิเศษ “เมื่อไหร่จะกลับมาช่วยงานย่าสักทีล่ะราช” หญิงชราที่ยังแข็งแรงและกระฉับกระเฉงเอ่ยถามหลานชายคนเดียวเมื่อเริ่มรับประทานอาหาร “มีคนช่วยเยอะแยะแล้วนี่ครับ” เขาพูดแล้วเหลือบสายตามองหน้า       สุทธิศักดิ์ซึ่งเป็นญาติผู้น้องนอกสายเลือดและเป็นบิดาของนิรินเล็กน้อย คนถูกมองเหมือนจะรู้ตัวเลยขยับไปมาอย่างอึดอัดอยู่มาก “เราควรมาช่วยย่า” ท่านพูดเสียงหนักแต่น้ำเสียงปรานีอยู่มาก ตั้งแต่  นรราชผิดหวังเรื่องความรักเมื่อหลายปีก่อน ก็หนีไปอยู่เกาะเมตตา ไปทำธุรกิจอยู่ที่นั่น นรราชสร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยไม่แพ้ใคร นั่นสร้างความภาคภูมิใจให้ลักษณ์นาราเป็นอย่างยิ่ง แต่ใจก็อยากให้หลานกลับมาช่วยดูแลธุรกิจในเครือพันธุเสมามากกว่า ไม่ใช่ทิ้งไปเลยแบบนี้ “เราจำลุงราชได้ใช่ไหมแม่เนย” ประมุขของบ้านหันไปเอ่ยถามเหลนสาวที่รักมากคนหนึ่ง แม้จะไม่ใช่สายเลือดของตัวเองแต่ก็รักหนักหนา เพราะนิรินเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารักอ่อนหวานและเชื่อฟังผู้ใหญ่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD