"อัน...อันเดี๋ยวอย่าเพิ่งไปส่วนเจ้าไปได้แล้ว"น้ำเสียงแหบแห้งยามที่ถูกใจใครอันอันได้ยินมาตลอดสองปี ไล่อีกคนรั้งอีกคนไว้ นางในก้าวเดินผ่านช่องประตู อันอันยืนกุมมือก้มหน้าตัวร้อนหน้าแดงถึงหู
"กล้วยลูกใหญ่กับน้ำผึ้งยังเหลือหากเจ้ายังอยากจะกินมัน ข้าก็ไม่ขัด"
อันอันยังก้มหน้า สองปีที่ผ่านมาเพิ่งจะรู้ว่าอินจิ๋นมีน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดก็ในยามนี้ยามที่พูดโน้มน้าวให้อันอันอยู่กินกล้วย
ส่ายหน้าไปมาพูดไม่ออก อินจิ๋นก้าวเดินมาตรงหน้า
"หือ ดูสิเลียน้ำผึ้งเสียจน… เลอะริมฝีปากไปหมด ข้าเช็ดให้"ใช้มืออุ่นจับที่คางมนวาดนิ้วโป้งเช็ดรอยน้ำผึ้งที่เลอะริมฝีปาก ปากไวเท่าความคิดก้มลงให้ปากอุ่นขบเม้มเล็มเลียน้ำผึ้งเยิ้มที่ริมฝีปากอันอันจนสิ้น
"น้ำผึ้งป่าไร้การแต่งเติมหอมหวานยิ่งนัก"อันอันยืนตัวแข็ง
"ไปเถอะไปอาบน้ำ…แล้วนอนเสีย"ทำไมจะไม่เข้าใจเข้าใจทุกการกระทำของฝ่าบาทดี
ก้าวเดินกับห้องด้วยหัวใจเจ็บแปลบ
เย็นย่ำแล้ว ร่างงดงามของชิงซี เดินเยื้องย่างสะโพกไหวไปมาน่ามอง ก้าวมาตรงหน้า อันอัน สายตายังคงเป็นมิตร
“ท่านหญิง” อันอันประสานมือ เหลือบตามองริมฝีปากชมพูด้วยสีชาดอย่างดี หน้าอกอิ่มของนางถูกรัดด้วยผ้าคาดอกเพียงครึ่งเดียว ส่งผลให้ เนินถันโผล่ขึ้นมาอวดโฉม น่าขย้ำขยี้ อันอันรู้สึกอิจฉานางยิ่งนักเมื่อก้มมอง สารรูปของตัวเองในชุดขันที สีเข้มกับใบหน้าซีดจาง
“องค์หญิง” ชิงซีทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าอันอันที่ตื่นตกใจอย่างที่สุดรีบพยุงชิงซีให้ลุกขึ้นยืน
“องค์หญิง ข้าน้อยต่ำศักดิ์เช่นไรจึงได้เกรงใจเพียงนี้”
“ข้ารู้ว่า ท่านหญิงรู้ใจฝ่าบาทกว่าผู้ใด จึงอยากจะขอร้อง”ทรุดกายลงอีกครั้ง
“ได้โปรด ทำให้ข้าได้เป็นฮองเฮาของฝ่าบาทด้วยเถิดได้โปรด”อันอัน หลับตาลงช้าๆ
“ได้โปรด แล้วท่านหญิงต้องการสิ่งใด ชิงซีคนนี้ยินดีมอบให้”อันอันยิ้มบางๆ
“องค์หญิงลุกขึ้นก่อน หากยังคุกเข่าเช่นนี้ใครมาพบเข้าจะคิดว่าข้า ไม่รู้จักสูงต่ำ”
“เอาไว้ข้าหาทางช่วยองค์หญิงอย่างสุดกำลัง”ชิงซี ลุกขึ้นมาเขย่าแขนอันอันด้วยความดีใจ
“ขอบคุณท่านหญิงยิ่งแล้ว”อินจิ๋น ยืนเอามือไพล่หลังมองจากที่ไม่ไกลนักแม้จะไม่ได้ยินประโยคที่พูดคุยกันแต่ภาษากายที่เห็นเขาเดาออกในทันที
“นายหญิง ฝ่าบาทเรียกหาท่าน”เสี่ยวจื้อประสานมือตรงหน้าอันอันชิงซียิ้ม
“ท่านหญิง ท่านต้องช่วยส่งเสริมข้า ช่วยพูดถึงข้าต่อหน้าฝ่าบาท”อันอันยิ้มก้าวเดินตามเสี่ยวจื้อเข้าไปในตำหนักใหญ่ของอินจิ๋น
“อันอัน ถวายพระพรฝ่าบาท” ยืนหันหลังไม่หันมามองอันอันแม้แต่น้อย อันอัน หลุบตามองพื้น คิดถึงริมฝีปากอุ่นที่เลียน้ำผึ้งจากริมฝีปากของอันอันเมื่อคืนอดที่จะใจสั่นไม่ได้
“ข้าต้องการนางเดี๋ยวนี้”ชี้มือออกนอกหน้าต่างไปยัง ชิงซีที่กำลังก้าวเดินอกกระเพื่อมสั่นไหว
“เดี๋ยวนี้ ฝ่าบาทจะไม่เกริ่นอะไรหน่อยหรือ จะไม่ทำความคุ้นเคยกับองค์หญิงหน่อยหรือไร นางมิใช่นางในจึงจะเรียกเข้ามาปรนนิบัติได้ง่ายดาย ฝ่าบาทควรจะต้องทำความคุ้นเคยกับองค์หญิงเสียหน่อย”
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ แต่เจ้าเห็นไหมว่านางมีท่าทียั่วยวนอีกทั้งนางมาเพื่อเป็นบรรณาการสำหรับข้าโดยแท้ หากข้าไม่จัดการนางเสียผู้คนก็จะครหาว่าข้าไร้น้ำยา”
หวังอะไรหวังให้อันอันห้ามปราม หรือหวังให้อันอันไม่เห็นด้วย เพื่อให้รู้สึกว่าอันอัน ไม่ชอบให้เขาอยู่กับหญิงนางอื่น แต่
“อันอันจะลองพูดกับองค์หญิงเรื่องนี้ แต่ทว่าไม่รับรองว่าจะสำเร็จ”
“เจ้าทำพลาดหลายเรื่อง ครั้งนี้อย่าให้ข้าผิดหวังอีก”อันอันเม้มริมฝีปาก หึคงจะเห็นอกกระเพื่อมกับบั้นท้ายไหวยามเยื้องย่าง ต้องตาต้องใจยิ่งนัก ก้าวขาถอยห่าง อินจิ๋นคว้าข้อมือบางไว้
“หากไม่สำเร็จ คืนนี้จะต้องส่งนางนางในถวายตัวเช่นเดิม อย่าให้ข้าผิดหวังอีก”เสียงเข้ม อันอันประสานมือ ก้าวเดินจากมาด้วยหัวใจแหว่งโหว่
“วันนี้เป็นเจ้า”ชี้มือยังนางใน ร่างอ้อนแอ้นดวงตากลมโตน่าค้นหา อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มน่ามอง ประกายตาซุกซนและที่ขาดไม่ได้คืออกที่ล้นทะลักดันอาภรณ์ออกมา
“ขอบคุณนายหญิง”ก้าวเดินตามอันอันยังห้องบรรทมของอินจิ๋น
ร่างสูงนั่งเสวยอยู่บนโต๊ะ อันอันเหลือบตามองผลกล้วยข้างมืออินจิ๋นวันนี้คงไม่คิดพิเรนทร์ให้นางในกินกล้วยอีก มองรอบโต๊ะเสวยว่ามีสิ่งใดที่จะเอามาเป็นเครื่องล่อหลอกนางใน ในการปลุกกำหนัดในค่ำคืนนี้หรือไม่ แต่กลับไร้ซึ่งสิ่งต้องสงสัย
“อันอันเจ้า…. กินอะไรหรือยัง”เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ยังเพคะ”กินเสียหน่อย ข้าอิ่มแล้วกินเสร็จก็ค่อยกลับไปพัก”อันอันประสานมือ มองเครื่องเสวยที่ยังไม่ถูกแตะต้องอีกหลายจาน นั่งลงบนเก้าอี้ อินจิ๋นโบกมือให้นางในคนงามตามเข้าไปด้านในห้อง
อันอันคีบเครื่องเสวยใสในปาก รู้สึกว่าเค็มสิ้นดี น้ำตาในอกกำลังไหลริน ทำไมรู้สึกเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาสองปีไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มากขนาดนี้ แม้จะรู้สึกใจหายและน้อยใจแต่ไม่รู้สึกเหมือนในครั้งนี้มันเจ็บในใจเหลือเกิน วางตะเกียบลงข้างกาย กินไม่ลงพยักหน้าให้นางกำนัลมาเก็บเครื่องเสวยหลบไปเสีย เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ยังไม่ทันที่หลังจะแตะพนักเก้าอี้
“อันอัน อันอัน อันอันเข้ามาเดี๋ยวนี้”อันอันรีบรนลาน แว่บแรกรู้สึกดีใจที่….แต่แว่บต่อไปรู้สึกว่าอินจิ๋นจะมาไม้ไหนอีก วันนี้จะสร้างเรื่องอะไรให้อันอันอีก
เปิดประตูสามชั้นเข้ามาด้านใน นางในยืนตัวสั่นอยู่ข้างแท่นนอน อินจิ๋นนอนหงายห่มผ้าคลุมถึงปลายเท้า อันอันถอนหายใจ มาไม้ไหนอีกวันนี้ แต่อย่างน้อยนางก็ไม่ร้องไห้เหมือนคนก่อนๆ
“อันอันมาแล้ว”ส่งเสียงให้อินจิ๋นรู้ว่าอันอันพร้อมมาแก้ปัญหาให้แล้ว
“เจ้าไม่ได้สั่งสอนนางหรือว่าต้องปรนนิบัติข้าเช่นไร”
“ปรนนิบัติ”
“ก่อนจะปรนนิบัติข้า ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติหรือไร”อันอันถอนหายใจ อินจิ๋นยังนอนห่มผ้านิ่งบนเตียงมีเพียงปากเท่านั้นที่ขยับ
“เจ้า อย่าบอกข้านะว่าขันทีฝึกฝนไม่สอนเจ้าเรื่องนี้”นางในคนเดิมส่ายหน้าไปมา
“ฝ่าบาท มิใช่ล้มเลิกเรื่องนี้ไปแล้วหรือ”
“ใครบอกเจ้า เจ้าเคยมานอนอยู่ใต้แท่นนอนข้าหรือ จึงรู้ว่าในแต่ละคนแต่ละคืนข้าต้องทำอย่างไร”อันอันถอนหายใจอีกครั้ง
“ก็ในเมื่อฝ่าบาทล้มเลิกเรื่องที่ต้องเปลื้องผ้าห่อตัวนางใน แล้วทำไมถึงไม่เลิกล้มเรื่อง เรื่องเรื่องมุดเข้าไปในผ้าห่ม”
“อันอันเจ้าเป็นนางหน้าพระพักตร์หรือเป็นไทเฮา”อันอันประสานมือ
“อันอันเป็นนางหน้าพระพักตร์”
“ดีรู้ก็ดีแล้ว”
“เจ้ามุดเข้าไปในผ้าห่มของฝ่าบาท จากปลายพระบาทขึ้นไปด้านบน ก็เท่านั้น”อธิบายกับนางใน
“อันนนนอันนน”ส่งเสียงยานคาง
“ก็เพียงเรื่องง่ายดายเพียงนี้ ข้าแค่เพียงสาธยายกับนางก็คงไม่ยาก ฝ่าบาทให้นางลองดู”
อินจิ๋น ถอนหายใจอันอันดึงมือนางในไปยืนตรงฝ่าพระบาทของอินจิ๋น
กดหัวนางในให้ก้มลง ให้มุดจากปลายเท้าขึ้นไปแต่ทว่านางในกับขืนตัวไว้ด้วยความเอียงอาย
“นายหญิง”ขืนตัวไว้อันอันถอนหายใจ หนักใจยิ่งนัก
“ไม่เห็นจะยาก แค่เพียงมุดเข้าไปแบบนี้ตามธรรมเนียม”
ก้มลงมุดหัวเลื้อยตัวขึ้นด้านบนใช้มือเล็กเลื่อนขึ้นสูงไปเรื่อยๆ สัมผัสอ่อนโยนยิ่งนัก อินจิ๋นอมยิ้มหลับตาพลิ้มเมื่ออันอันมุดตัวเข้ามาในผ้าห่ม ชาวาบไปทั้งตัว มีเพียงที่เดียวที่ไม่ชาทว่ากลับชูชัน อันอันสำผัสได้ว่าอีกคนกำลังกระสันเสียเต็มที่ เมื่ออันอันขึ้นคร่อมเขาไว้ทั้งตัว มืออุ่นจับเอวบางไว้แน่นก่อนจะเลื่อนฝ่ามือกดแผ่นหลังกอดรวบไว้ กดหัวลงมาตรงหน้าสบตาอันอันที่คร่อมอยู่บนตัวเขา
“ฝะฝะฝ่าบาท”อันอันเสียงสั่น ทั้งตกใจและอาย นี่ล่ะมั้งที่อันอันเรียกว่ายั่วยวนแต่ไม่ยั่วยวนและไม่เหนียมอายจนเกินไปเมื่ออยู่บนแท่นนอน แต่เดียงสาจนอินจิ๋นสัมผัสได้
นางในทุกคนต้องถูกชำแรกช่องคลอดก่อนถวายตัวเพื่อกันว่าจะไม่เจ็บจนเผลอหยิกหรือข่วนฮ่องเต้ยามอยู่บนแท่นนอนในครั้งแรก แต่อันอันมิใช่นางใน ความเดียงสา มีมากแม้จะอ่านตำรากามสูตรจนจบทว่ากลับไม่เคยปฏิบัติแม้สักครั้ง ใบหน้าจึงแดงเพราะความเขินอาย อินจิ๋นยิ้ม
“เจ้าออกไปก่อน”ไล่นางในให้ออกจากห้องไป
ริมฝีปาก อุ่นกดเข้าที่หน้าผากเนียนเบาๆ พลิกร่างอวบอั๋นของอันอันลงด้านล่างสบตานิ่ง
“นางหน้าพระพักตร์ผู้นี้ ช่างเจนจัดในเรื่องบนแท่นนอนเสียจริงทั้งยังรู้ใจข้า อีกทั้งยังกล้าคิดกล้าทำ”สบตาอันอันที่เอาแต่หลบตา
“ฝ่าบาทอันอันเป็นนางหน้าพระพักตร์ มิใช่นางในแค่เพียงเรียนรู้มิต้องปฏิบัติ”กดริมฝีปากกับริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ
“เจ้าอยากเป็นเพียงนางหน้าพระพักตร์ของข้าเท่านั้นหรือ ข้าชื่นชมเจ้า ว่าช่างทำเรื่องที่รู้ใจข้าในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกินกล้วยหรือการมุดเข้ามาในผ้าห่มตามธรรมเนียม”
“เพียงทำตามหน้าที่”ใจดีสู้เสือ อินจิ๋นยิ้มดึงมืออันอันให้ลุกขึ้น
“ช่างไม่บกพร่องแม้เพียงนิด หากนางในที่ถวายตัวเป็นเช่นเจ้าคงจะดี”กอดจากด้านหลังกดริมฝีปากที่ไหล่บาง อันอันนิ่งงัน ยอมเขาอีกแล้วยอมให้เขารุกล่ำล่วงเกิน อันอันเอ๊ยอันอันทำไมไม่ใจแข็งกว่านี้
“ไปนอนเสียข้าทำเจ้ายุ่งยากอีกแล้ว พรุ่งนี้หวังว่าจะหานางในที่ดีไม่ต้องคอยสอนกันเหมือนคราวนี้อีก”
อันอันสับสนกับคำพูดของอินจิ๋น จริงหรือหลอกบางครั้งก็เหมือนมีใจ บางครั้งก็เหมือนต้องการตัวอันอัน แต่บางครั้งก็เหมือนเพียงแค่ หยอกเย้าเล่นตามประสาคนที่เข้าใกล้ใครก็ต้องหว่านเสน่ห์ร่ำไป อันอันจะเชื่อคำพูดของอินจิ๋นได้แน่หรือ
“นายหญิง”เสี่ยวจื้อประสานมือเมื่อเห็นว่าอันอันออกจากห้องของอินจิ๋นทีหลังนางในสองวันมาแล้ว
“ฝ่าบาท ทรงเปรยๆ ว่า..ว่า”
“ว่ามามีเรื่องใดว่ามา”
“ทรงเปรยๆ ว่า ไม่มีใครรู้ใจฝ่าบาทเท่านายหญิง”เสี่ยวจื้อก้มหน้าพูดเบาๆ
“ข้ารู้เรื่องนี้”
“ฝ่าบาทยังพูดอีกว่า อยากให้ยกเลิกเรื่องการส่งนางในเข้ามาในทุกค่ำคืน”อันอันรู้สึกดีใจ ในครั้งแรกที่ได้ยินแต่จากนั้น
"ฝ่าบาทตั้งใจหยุดเพื่อองค์หญิงใหญ่ตั้งใจมอบตำแหน่งฮองเฮา ข้าไม่น่าโง่งม คอยแต่จะกดดันฝ่าบาทในทุกค่ำคืนความจริงฝ่าบาทแค่เพียงต้องการหยุดเรื่องนี้จริงไหม”เสี่ยวจื้อส่ายหน้าไปมา
“นายหญิงไม่ใช่แบบนั้นท่านฟังข้าก่อน”
“ข้าเข้าใจแล้ว เสี่ยวจื้อเจ้าไม่ต้องแก้ตัว เป็นข้าที่กดดันฝ่าบาทนำนางในเข้ามาถวายตัวทั้งๆ ที่ฝ่าบาทพยายามบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลสารพัดไม่ต้องร่วมแท่นนอนกับนางในพวกนั้น”