“เจ้า วันนี้ เข้าถวายตัว”อันอันชี้มือยังร่างบางทว่าหน้าอกหน้าใจบะเริ่มเทิ่มอีกทั้งสะโพกงอนงามเพียงแต่ใบหน้านางไม่ได้งดงามเท่าที่ควร แต่ว่าก็พอที่จะถูไถ ในเมื่อวันนี้อันอันยุ่งกับการมาของคณะราชทูตและเครื่องบรรณาการแม้อินจิ่นจะอนุญาตให้อันอันไปทำเรื่องที่ต้องทำ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องพิธีการ
“นายหญิง ขอบคุณเจ้าค่ะ”สาวน้อยน้ำตาปริ่มขอบตา การแข่งขันเรื่องการถวายตัวเข้มข้นยิ่งนัก บางคนถึงกับตบตีวางยา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่อันอันเพียงคนเดียว ว่าวันนี้จะส่งใครเข้าไปในห้องบรรทมของอินจิ๋น
“ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องเรียกเจ้าว่านายหญิงหากฝ่าบาทพึงใจเจ้า ทำให้เต็มที่ตั้งใจปรนนิบัติฝ่าบาท แค่นี้ที่ข้าอยาจะบอกไว้ ความจริงข้าอยากจะส่งพวกเจ้าเข้าไปทุกคน แต่พวกเจ้าต้องเข้าใจ ฝ่าบาทหากวันไหนเหนื่อยล้าหรือราชกิจมากหน่อยก็ไม่รับนางใน วันไหนทรงมีอากาศร้อนก็ไม่รับนางใน วันไหนที่ เมามายมากหน่อยก็ไม่รับนางใน มีเพียงวันที่อากาศหนาวหรือวันที่ดื่มสุราเพียงแค่ปลุกกำหนัด และ…”จะบอกว่าหื่น …ก็กระดากปากวันไหนที่อินจิ๋นพบนางในคนไหนถูกใจเป็นพิเศษจะมากระซิบกับอันอันว่าคืนนี้ ส่งนางในคนนั้นเข้ามาให้เขา วันนั้นเป็นวันที่อันอัน ถอนหายใจแบบโล่งอกไม่ต้องคัดสรรนางในด้วยตัวเองให้ปวดขมอง
“พวกเจ้ายังไม่รีบขอบคุณนายหญิงอีก ได้ยินไหมรีบคุกเข่าขอบคุณนายหญิงเสีย นายหญิงเท่านั้นชี้เป็นชี้ตายพวกเจ้า”
ขันทีแอบสาวที่คอยฝึกทั้งกิริยามารยาทและเรื่องอย่างว่า พร้อมสอนวิธีปฏิบัติตัวในตำรากามสูตรจีบปากจีบคอพูด
“ขอบคุณนายหญิง พวกเราซาบซึ้งใจในเมตตาของนายหญิงยิ่งนัก”เปล่งเสียงแซ่ซ้องพร้อมกัน อันอันยิ้มแห้งๆ
“พวกเจ้าต้องเชื่อฟังนายหญิง เรื่องรู้ใจฝ่าบาทนายหญิงอันอันขึ้นชื่อว่ารู้ใจฝ่าบาทที่สุด อีกทั้งเรื่องบนแท่นนอนของฝ่าบาท พวกเจ้าถามนายหญิงได้ไม่มีปิดบัง”
คราวนี้อันอันยิ้มอายๆ เดินนำนางในที่คัดแล้วเข้าไปยังเขตตำหนักชั้นในของอินจิ๋น กลิ่นหอมจากเรือนร่างของนางช่างหอมหวนยิ่งนัก อันอันเสียอีกที่จนป่านนี้ยังไม่ได้อาบน้ำ
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว อินจิ๋นนั่งอ่านฎีกาในห้อง
“ฝ่าบาท”นางในก้มหน้าเขินอายตามแบบที่อันอันสั่งสอนมา
“หือ วันนี้ จัดว่าเด็ดไหม”ถามเหมือนเป็นเรื่องทั่วๆ ไปเช่นเครื่องเสวยเย็นนี้หรือกำยานหอมวันนี้กลิ่นดอกอะไร
“เพคะ”ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“อืม เก็บกองฎีกาให้ข้าที แล้วเจ้าก็กลับไปพักผ่อนเสีย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ข้ามีนางคอยปรนนิบัติก็คงอยู่ดึกเหมือนเช่นทุกคืน”
อันอันประสานมือ ดันหลังนางในเข้าไปด้านใน นางหันมามองอันอันด้วยสายตาละห้อย อันอันยิ้มให้กำลังใจนางก้มลงเก็บกองฎีกาบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ
อินจิ๋นหันมามองอันอันทั้งๆ ที่กำมือเย็นเฉียบของนางในอยู่
“อันอัน เจ้าอยู่รอที่นี่ก่อน ข้าเสร็จกิจมีเรื่องจะหารือกับเจ้า”
“เจ้าค่ะฝ่าบาท”ยังคงประสานมือ
เสี่ยวจื้อเปิดและปิดประตูถึงสามชั้น ก่อนจะหันกลับมาช่วยอันอันเก็บกองฎีกา
“นายหญิง ท่านขุนพลฝากมาขอบคุณท่าน”ส่งกำไลหยกให้อันอัน
“ถึงกับมอบกำไลหยกเลยหรือไร กำไลหยกสำหรับคนรัก”
“ท่านขุนพล ความจริงปีนี่เพิ่งจะสามสิบสาม อีกทั้งบุตรีของท่านขุนพลเป็นเพียงบุตรบุญธรรมก็เท่านั้น ท่านขุนพลหามีชายาไม่”อันอันยิ้ม
“เสี่ยวจื้อเจ้าเป็นพ่อสื่อหรือไร”อดขำ ่าทีกระตือรือล้นของเสี่ยวจื้อเสียไม่ได้คงรูว่านางหน้าพระพักตร์ยิ่งแก่ตัวยิ่งหาคู่ครองยาก
“นายหญิง ท่านขุนพลองอาจผึ่งผาย อีกอย่างเป็นคนที่มีใจภักดีและสมชายชาตรีอีกทั้งใบหน้าหล่อเหลา นายหญิงข้าหวัง…เพียงว่า..”อันอันส่ายหน้าไปมา
“อืมข้ายังไม่เคยพบหน้าท่านขุนพลแม้แต่ครั้งเดียว เขานำทัพดูแลชายแดนตลอดมาพอกลับมาถึงนี่ ฝ่าบาทก็ทรงกริ้วคิดคาดโทษเขาว่ายกทัพกลับวังหลวงโดยไม่ได้มีบัญชา แต่ความจริงข้ารู้ดีว่า ท่านขุนพลจงเจี้ยน ภักดีไม่เปลี่ยน เพียงแค่เห็นว่าตอนนี้บ้านเมืองสงบอีกทั้งชายแดนร่มเย็นไม่คิดว่าฝ่าบาทจะทรงกริ้ว เอาไว้ข้าพูดกับฝ่าบาทเรื่องนี้ ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทจะเข้าใจท่านขุนพล แต่จะให้ข้ารับไมตรีของท่านขุนพลคงต้องใช้เวลา ตอนนี้ข้ามุ่งมั่นในการทำงานรับใช้ฝ่าบาทเท่านั้น”เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ
“อันอัน อันอัน เข้ามานี่หน่อย”อันอัน ถอนหายใจยาวเหยียดคิดว่าไม่พลาดแล้วทำไมยังมีเรื่องมากวนใจอีก นางทำอะไรผิดอีกหนอ รีบวิ่งเข้าไปในห้องบรรทม ผ่านประตูทั้งสามชั้นเข้าไปยืนสงบนิ่งตรงหน้า อินจิ๋น
นางในอกบะระเฮิ่มนั่งร้องไห้กระซิกๆ
“ฝ่าบาท นางทำสิ่งใดให้ขุ่นเคือง” อินจิ๋นยืนกอดอกแน่น อันอันมองบนพื้นที่มีเปลือกล้วยหอมลูกใหญ่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนพื้น
“ฝ่าบาท อันอัน ไม่ได้ขู่แต่จะบอกไว้ก่อน ต่อไปคงไม่มีใครอยากเข้ามาปรนนิบัติ หากฝ่าบาทจะทำแบบนี้บ่อยครั้ง”
อินจิ๋นหันหน้ามามองอันอันเต็มตา
“มีหน้าที่จัดหานางใน แต่สองวันมานี้เจ้าบกพร่องเมื่อวานถือว่าข้าผิดที่ใจไม่เย็นพอ แต่วันนี้เจ้าดูรึนางทำเรื่องง่ายๆ ให้ข้านางกลับทำไม่ได้”
“เรื่องใดกัน”หันไปถามนางในที่ร้องไห้กระซิกๆ
“ฝ่าบาทให้ข้าน้อยกินกล้วยจนอิ่มจนจุก กินกล้วยหมดไปทั้งหวียังไม่พอพระทัย”พูดไปสะอื้นไป
“ช่างกล้าฟ้องนาง เจ้ามันไร้สามารถแค่เพียงข้าให้กินกล้วยหอมลูกใหญ่ราดน้ำผึ้งเจ้าก็ยังไม่อาจทำให้ข้าพึงใจได้ แล้วเรื่องอื่นเจ้าจะได้เรื่องหรือไหนเจ้าบอกข้าว่าจัดว่าเด็ด”
หันไปทางอันอันที่ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจ
“อันอันพานางกลับไปก่อน”
“ไม่ เจ้าต้องรับผิดชขอบเรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเป็นคนจัดหานางมา อีกทั้งยังเป็นคนที่เสี้ยมสอนพวกนางให้ข้าพึงใจ เจ้าจะไม่แสดงให้นางดูหน่อยหรือว่ากินกล้วยหอมอย่างไรให้ข้าพึงใจพวกนาง” อันอันถอนหายใจ
“เจ้ากินแบบไหน”หันไปถาม นางในที่ยังสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตาแล้ว
“ฝ่าบาทให้กินกล้วยข้าน้อยก็กิน กัดกินทั้งลูกจนหมดแต่ฝ่าบาทก็บอกว่ายังไม่พึงใจท่าทางการกินกล้วยราดน้ำผึ้งของข้าน้อย ข้าน้อยจึงกินไปอีกหลายลูกเพื่อเอาใจฝ่าบาท ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเรียกหานายหญิง” อินจิ๋น ลอยหน้าลอยตาทำท่าทีว่าไม่พอใจอย่างที่สุด
อันอันเหลือบตามองไหน้ำผึ้งกับกล้วยหอมอีกหวีหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าไปเอามาตอนไหน ห้องบรรทมมีของแบบนี้ด้วยหรือ เหมือนจัดเตรียมไว้เพื่อสิ่งใดกัน
“เจ้าดูข้า”
ดึงกล้วยออกจากหวีง่ายดาย ปอกเปลือกกล้วยจุ่มผลกล้วยที่ปอกเปลือกแล้ว ลงไปในไหน้ำผึ้งที่หยาดเยิ้ม น้ำผึ้งไหลชโลมไปทั่วแท่งกล้วยหอมใหญ่ อันอันอ้าปากออกทว่าน้ำผึ้งกับหยดลงพื้น จึงแลบลิ้นเลียผิวเนื้อที่ถูกชโลมไปด้วยน้ำผึ้งหยาดเยิ้ม ใช้ลิ้นตวัดเลียจนกระทั่งอินจิ๋นตัวแข็งทื่อ มิเพียงแค่ตัวเท่านั้นที่แข็ง ปากอ้าค้างแลบลิ้นออกมาช่วยลุ้นการเลียน้ำผึ้งที่หยาดเยิ้มไปพร้อมกับอันอัน ก่อนที่หยาดน้ำผึ้งจะหมดไป อันอันก็อ้าปากกว้างสุดกว้างงับเอาเนื้อกล้วยเสียเกือบครึ่งลูกเคี้ยวงับๆ แล้วกลืนลงไปในทันที อินจิ๋นกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นก้าวขาเดินอย่างยากลำบาก เอื้อมมือคว้ามือของอันอันไว้ อันอันรู้สึกถึงมือเย็นเฉียบของอินจิ๋น
“ยะ อย่าเพิ่งกลืนมันเสียหมด" ดึงกล้วยหอมอีกครึ่งลูกในมือของอันอันมาใส่ปากตัวเอง กัดกินกล้วยหอมเหมือนเป็นของอร่อยเสียเต็มที
“เจ้า จำต้องสอนนางอีกครั้ง ข้าว่านางยังไม่อาจจดจำท่าทีเมื่อครู่ของเจ้าได้หมด”
“ขะขะข้าน้อยจำได้ขึ้นใจ จะต้องเลียเสียก่อนใช่หรือไม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่านายหญิง อันอันจะรู้ใจฝ่าบาทที่สุดอย่างที่เขาร่ำลือกัน”
อันอันหน้าแดงแปร๊ด เพิ่งจะนึกได้ว่าการกินกล้วยในแบบที่อันอันทำอยู่เป็นเพียงกลลวงของอินจิ๋นในการปลุกกำหนัดก่อนที่จะให้นางในอุ่นเตียง รีบหันหลังก้าวเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว”
อันอันหันหลังไม่กล้าหันมาสบตาอินจิ๋นเพราะแก้มแดงหน้าแดงเพราะความเขินอายที่หลงกลของอินจิ๋นเข้าอย่างจัง แสดงท่าทียั่วยวนออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“พานางกลับไปเสียให้นางไปฝึกกินกล้วยมาเสียใหม่ คืนนี้ข้าพอใจกับท่าทีกินกล้วยของเจ้าแล้ว …คงไม่มีแรงที่จะดูนางกินกล้วยได้อีก”
พูดอย่างมีเลศนัย แต่อันอันเข้าใจได้ดีว่าท่าทีกินกล้วยในแบบของอันอัน ทำเอาฝ่าบาทสูญเสียน้ำไปเสียแล้วในคืนนี้คงไม่อาจเสียน้ำได้อีกในคืนเดียวกัน