บทที่ 04 นักธุรกิจไฟแรง

1231 Words
ฉันทำงานล่วงเลยมาจนถึงเวลาหนึ่งทุ่ม อ่า…นี่แค่วันแรกก็เหนื่อยสุดๆ แล้วแฮะ บิดไล่ความเหนื่อยล้าชั่วครู่ก็รีบเก็บของใส่กระเป๋ากลับคอนโด วันนี้อารมณ์อยากทำอาหารง่ายๆ ทานเองก็มา ยัยพะพายเลยต้องแปลงโฉมจากผู้บริหารสุดเฟียต เป็นแม่บ้านแม่เรือนสะแล้วสิ ฉันเดินเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตราวกับคนจะทานด้วยสิบคน การทำอาหารเหมือนได้ระบายความเครียดเลย ยิ่งเวลาได้ช็อปปิ้ง เพลินจนลืมความทุกข์ในตอนเช้าไปเลย ครืดดดดด! ในระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่ๆ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น ฉันรีบเปิดมาดูเล่น ขมวดคิ้วเล่นน้อยกับชื่อไลน์ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นชื่อ LINE(NANONT) คุณนนท์ : วันนี้ไม่มาทานข้าวเย็นที่ร้านเหรอครับ? รูปโปรไฟล์และข้อความทำให้ฉันนึกได้ว่าเขาคือใคร เจ้าของร้านอาหารคนนั้น ฉัน : วันนี้คงไม่แล้วค่ะ พอดีฉันพึ่งเลิกงาน คุณนนท์ : วันนี้ผมคงรอเก้อเลยนะครับ ฉัน : คุณนนท์รอฉันเหรอคะ? คุณนนท์ : ครับ ฉัน : ไว้โอกาสหน้าฉันจะไม่พลาดค่ะ คุณนนท์ : ได้ครับ เจอกันครับ ฉันกดออกจากไลน์ของคุณนนท์ นี่เขาดูชัดเจนมากเลยว่าจะจีบฉัน ส่วนฉันอาการตื่นเต้นที่ได้เห็นข้อความจากเขากลับไม่มีเลย แตกต่างจากเขาคนนั้นที่แค่เห็นหน้าใจฉันก็เต้นตึกตึกระรัวเลย ตอนเช้า เช้าวันสดใสวันที่สองที่ฉันจะต้องไปทำงาน แต่ก่อนไปอาบน้ำขอออกไปยืนรับลมจากระเบียงก่อนแล้วกัน ฉันยืนบิดขี้เกียจแล้วสูดอากาศข้างนอกลงปอด ดวงตามองไปทางท้องถนนที่เห็นการจราจรติดขัดในกรุงเทพความรู้สึกสดชื่นก็หายไปในทันที เฮ้อ…ชีวิตในกรุงน่าเบื่อจัง บ่นไปก็เท่านั้นสุดท้ายก็ต้องไปทำงานอยู่ดี ฉันที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนชะงักกับระเบียงห้องที่อยู่ตรงข้าม เห็นแก้วกาแฟวางไว้บนโต๊ะข้างนอกสงสัยเขาคงจะออกมารับลมเหมือนกัน อยากอยู่รอทักทายนะ แต่ถ้าช้ากว่านี้ฉันอาจจะไปทำงานสายได้ "วันนี้มีออกไปพบลูกค้าเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วก็ต้องเซ็นเอกสารนิดหน่อยค่ะ" พี่นุ่นรายงานตารางวันนี้ให้ฉันฟัง ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วก้มลงอ่านรายละเอียดที่ต้องไปคุยกับลูกค้า บริษัทฉันเป็นบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องเพชร พลอย อัญมณีต่างๆ ฉันต้องศึกษาไว้มากๆ เพราะลูกค้ารายใหญ่ไม่ใช่ย่อยเลย . . "ทางเรายินดีที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ อย่างคุณพายนะคะ" การเจรจาธุรกิจกับลูกค้าลุล่วงไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ฉันคาด เพราะฉันมั่นใจว่าฉันศึกษาลูกค้าคนนี้มาเยอะพอสมควร งานแรกฉันไม่ควรพลาด "ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจบริษัทเรา" ฉันก้มหัวเล็กน้อยเพื่อขอบคุณลูกค้า แล้วหันไปยิ้มให้พี่นุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่นุ่นก็ยิ้มกลับให้ จากนั้นเราก็ทานอาหารด้วยกันแล้วกลับมาทำงานต่อ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการทำงาน และแล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดของฉัน ฉันนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนอย่างสบายใจเฉิ่ม ไม่ได้นอนตื่นสายหนึ่งมาสัปดาห์เต็มแล้ว มันสบายแบบนี้นี่เอง แต่ตามตารางวันนี้ฉันนัดเพื่อนไว้ ต้องรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะเรานัดกันจะไปร้านน้ำฟ้า ตั้งแต่เพื่อนเปิดร้านยังไม่ได้ไปแสดงความยินดีเลย @ร้านคาเฟ่ 'สายน้ำ' "อ้าว…พะพายมาแล้วเหรอ มานั่งๆ" น้ำฟ้าเดินมาทางฉัน แล้วลากมือให้ฉันลงนั่งที่เก้าอี้ของร้าน ฉันกวาดสายตามองบรรยากาศการตกแต่งร้านโทนสบายตา สวยมากสมกับเป็นร้านในฝันของเธอเลย "ร้านสวยจังน้ำฟ้า" ฉันเอ่ยชมน้ำฟ้า ที่แววตาดูมีความสุขมากเมื่อมองดูร้านตัวเอง "ขอบคุณนะ พะพายทานอะไรเดี๋ยวน้ำฟ้าไปทำให้" "เอาสตอเบอร์รี่ปั่นกับเค้กชาเขียว" ว่าจบเพื่อนตัวเล็กก็รีบเดินไป ตามด้วยเสียงอันเสียงดังของเพื่อนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะเสียงดังก่อนเจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก "ฮายค่า…คุณเพื่อน" ยัยเกรซคนดีคนเดิม มาพร้อมกับเพียงขวัญที่กลอกตาใส่ด้วยความเอือมระอา "มึงเบาๆ หน่อยได้ไหมอีเกรซ เดี๋ยวลูกค้าร้านน้ำฟ้าก็หายหมดหรอก" ทันทีที่เกรซนั่งลงข้างๆ ฉันก็พูดขึ้นทันที "เวอร์ไปอีพาย น้ำฟ้าอะ" "นู้นน…ทำน้ำให้กูอยู่ มึงเดินไปสั่งดิ" ฉันชี้ไปทางน้ำฟ้าที่กำลังทำน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นให้ พร้อมกับลูกน้องในร้านสองสามคน "มึงน้องว่าน้องน้ำฟ้าหล่อปะ" ยัยเกรซพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องน้องน้ำหนาวอยู่ "ให้น้องเขาไปมีอนาคตที่ดีเหอะอีเกรซ" เพียงขวัญพูดขัดขึ้นทำให้ยัยเกรซหันขวับมามองแล้วทำตาขวางใส่เพียงขวัญเลย "ฮ่าๆ…เออกูเห็นด้วย" แล้วฉันกับเพียงขวัญก็หัวเราะออกมาโดยที่มียัยเกรซคอยทำตาขวางใส่พวกเราไม่เลิก แต่ฉันกับเพียงขวัญก็ทำเป็นไม่สนใจ พวกเรานั่งเม้ามอย ถ่ายรูปกันสักพัก โดยที่น้ำฟ้าเดินมาคุยบ้างเป็นบางช่วง สลับกับรับลูกค้าบ้าง แล้วแยกย้ายกันกลับ ฉันว่าจะกลับไปหาม้าสักหน่อย รับปากไว้ว่าจะกลับบ่อยๆ ถ้าไม่โผล่หน้าคงด่าเจ็ดวันแปดวัน "เป็นไงคะลูกสาว ทำงานได้ไหม" ผู้เป็นแม่เดินมานั่งด้านข้างแล้วลูบหัวถาม "ได้ค่ะม้า ลูกสาวม้าอะเก่งอยู่แล้ว" ฉันบอกม๊าพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ "ดีแล้วแหละ งั้นวันนี้อยู่ทานข้าวเเย็นกับม้านะ" พูดจบม้าก็เดินเข้าไปในครัว ส่วนฉันก็เล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาสลับกับเดินเข้าไปช่วยในครัวบ้างเป็นบางครั้ง "ทำงานเป็นยังไงบ้างพะพาย ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" หัวโต๊ะพูดเสียงเข้มแล้วปรายตามองฉันในระหว่างทานข้าว "ไม่มีค่ะป๊า" "เอ่อ…ป๊าคะ" "??" "บริษัทเรามีผู้ถือหุ้นคนใหม่เหรอคะ?" ฉันตัดสินใจถามในสิ่งที่ยังค้างคาในใจ แล้วอยากรู้คำตอบด้วยว่าเขาเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ "อืม คุณคมสันพึ่งขายหุ้นเพราะธุรกิจล้มละลาย ป๊าตั้งใจจะซื้อต่อ แต่ก็มีคนมาตกลงซื้อก่อนป๊า นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงไว้ใจได้ แถมเรายังรู้จักเขาอย่างดี ก็เลยไม่ได้ขัดอะไร ลูกมีอะไรหรือเปล่า?" "เปล่าค่ะ" ฉันคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดทาง ถ้าเป็นผู้ถือหุ้นจริงจังงั้นแสดงว่าฉันต้องเจอกันตลอดงั้นเหรอ? ครืดดดดดด! LINE(NANONT) พี่นนท์ : วันนี้เหงาแย่เลย พายไม่มาทานข้าวที่ร้าน ฉัน : เดี่ยวพรุ่งนี้เข้าไปค่า พี่นนท์ : โอเคครับ งั้นเราไปนอนเถอะ ฝันดีครับ ฉัน : ฝันดีค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD