เริ่มฝึกฝน

1861 Words
หลังจากทำความเข้าใจกับแหวนมิติเก็บของหรือสิ่งของอื่นๆ ที่ทำเป็นพื้นที่เก็บของแล้ว ไพลินจึงได้เข้าใจถ่องแท้ว่าผู้ที่จะสร้างสิ่งของเหล่านี้ได้จำต้องเป็นผู้จารึกอักขระและเป็นผู้ใช้ธาตุมิติเท่านั้น แหวนมิติและอุปกรณ์เก็บของไม่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้แต่สามารถเก็บของให้สดใหม่เสมอไม่เน่าเสียแหวนมิติหรืออุปกรณ์มิติเก็บของใครๆ ก็สามารถครอบครองได้เพียงแค่เจ้าของเดิมสิ้นชีพลงก็ใช้สิทธิ์ครอบครองด้วยการหยดเลือดลงบนสิ่งของนั้นๆ แล้วคนผู้นั้นก็จะเป็นผู้ครอบครองได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนแหวนมิติของไพลินนั้นแตกต่างมันเป็นมิติสถานที่ที่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้และมิติจะขยายได้ไม่จำกัดตามพลังปราณของผู้ที่ครอบครอง มิติสถานที่ถูกสร้างโดยผู้ที่มีปราณขั้นเทพเท่านั้นถึงจะสร้างมิติเช่นนี้ได้ 'นี่ฉันมาอยู่ในที่แบบไหนกัน' ไพลินได้แต่โอดครวญในใจ มันจะแฟนตาซีไปถึงไหนหวังว่าจะไม่มีการต่อสู้เหมือนในหนังจีนกำลังภายในหรอกนะถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงแย่แน่ๆ วันนี้ต้าฝูจะสอนนางเรื่องการฝึกปราณ ไพลินเคยแค่นั่งสมาธิกรรมฐานเท่านั้นมันจะใช้ด้วยกันได้ไหมก็คงต้องลองดู มันอาจจะคล้ายๆ กันกระมัง ไว้ให้นางทำความเข้าใจกับการฝึกปราณเสียก่อนต่อจากนั้นนางจะไปตรวจสอบสมบัติที่ท่านไป๋จวินส่งมอบให้ แต่นางยังไม่ได้อ่านจดหมายน้อยที่ท่านไป๋จวินเขียนไว้ให้เลย “อรุณสวัสดิ์ขอรับนายหญิง” วันต่อมา ต้าฝูก็มารอที่หน้าบ้านแต่เช้าเหมือนเคย “อรุณสวัสดิ์ต้าฝูเรามาเริ่มเรียนกันเลยดีไหม” “ดีขอรับนายหญิง แต่ก่อนที่ท่านจะเริ่มฝึกปราณท่านอ่าน จดหมายที่ท่านไป๋จวินฝากไว้ให้ก่อนดีหรือไม่ขอรับ” “ก็ได้ข้าอ่านก่อนก็ได้ อะแฮ่ม..ในจดหมายเขียนไว้ว่า” สวัสดีผู้สืบทอดมิติต่อจากข้า ก่อนอื่นเจ้าต้องเรียกข้าว่า ศิษย์พี่ ‘ศิษย์พี่จวิน’เข้าใจหรือไม่ไป๋ลี่หลิน หลินเอ๋อร์ อ้อ..ชื่อนี้ข้าไม่ได้ตั้งให้เจ้าแต่เป็นอาจารย์ลู่เค่อจัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้ ในช่องด้านข้างหีบจะมีหีบใบเล็กอีกอันข้างในนั้นจะมีหยกประจำตัว ไว้แสดงตัวตนว่าเจ้าเป็นคนตระกูลไป๋และมีใบถือสิทธิ์ครอบครองร่วมของหอประมูลไป๋หลง ในขวดแก้วใสๆ นั้นยังมีโอสถห้าขวดสีขาวโอสถหลอมธาตุจะทำให้พลังธาตุที่เจ้ามีหลอมรวมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเวลาเรียกใช้พลังธาตุจะได้ไม่ติดขัด อีกสี่ขวดเป็นโอสถตัดปราณ มีระดับนภา,จักรพรรดิ,สวรรค์และเซียน ใช้เมื่อถึงเวลาที่เจ้าจะตัดผ่านในแต่ระดับ ต้าฝูคงจะแนะนำเจ้าได้ อีกสามหีบใหญ่ที่เหลือคือหินปราณสีเหลืองนวลนั่นคือหินปรานระดับต่ำและหินปราณระดับสูงจะเป็นสีแดงเลือด แล้วก็มีตำราฝึกยุทธต่างๆ ของตระกูลไป๋ ตำราสมุนไพรและตำราปรุงโอสถอย่างหลังท่านอาจารย์เน้นย้ำนักหนาให้เจ้าฝึกฝนให้เชี่ยวชาญเพราะมันเหมาะกับธาตุของเจ้ายิ่ง เมื่อเจ้าฝึกจนสามารถออกจากมิติได้แล้ว ข้าก็มีของขวัญให้เจ้าด้วย และเมื่อเจ้าเริ่มต้นฝึกปราณ ให้เจ้างดอาหารเสียหนึ่งวัน ให้ทานท้ออัคคีทดแทนข้าวและทานได้ไม่เกินสองลูกท้ออัคคีจะช่วยเพิ่มพลัง หยางและปรับสภาพลมปราณของเจ้าให้สมดุลยิ่งขึ้นในขณะที่เจ้าลงไปแช่ตัวในน้ำ หลังจากนั้นให้ดื่มน้ำทิพย์มรกตจากบ่อมรกตแล้วค่อยลงไปแช่ตัวในน้ำตกปราณเป็นเวลาสิบสองชั่วยาม... เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้เจ้าใช้โอสถหลอมธาตุได้...เวลาในมิตินั้นเหมาะกับการฝึกฝนพอดี หนึ่งวันข้างนอกเท่ากับสิบปีในมิติไม่ขาดไม่เกินขอให้เจ้าโชคดี ไป๋ลี่หลิน… Nice to meet you Pai Lin My name is Minato from Japan. ในอนาคตเราคงได้เจอกันนะศิษย์น้อง... ศิษย์พี่กับศิษย์น้องยังงั้นหรือ เป็นหนุ่มจากญี่ปุ่นเสียด้วยท่าทางจะเก่งเอาการนะศิษย์พี่เนี่ย แล้วนางจะไหวหรือ? เคยเจอแต่ในซีรี่ย์ในนิยาย แต่แล้วก็ต้องมาเจอกับตัวเอง เฮ้อ...เราจะต้องอยู่ให้รอดนะแทนน้อยลูกแม่ หลังจากอ่านจดหมายจบและคิดว่าตัวเองเข้าใจดีแล้วไพลินก็พับจดหมายจดหมายเก็บเอาไว้อย่างดี ไป๋ลี่หลินคือนามที่ท่านอาจารย์ไป๋ลู่เค่อตั้งให้เธอสินะ ต่อไปเธอก็คือไป๋ลี่หลิน จะไม่มีไพลินอีกแล้ว ‘โห ศิษย์พี่จวินรู้ชื่อเราด้วยแฮะ คงรู้มาจากท่านอาจารย์ล่ะสิ ว่าแต่ข้างนอกมิตินั่นจะมีคนตระกูลอีกไป๋ไหมนะ’ ลี่หลินนั่งเหม่อไปสักพักก็ถูกต้าฝูเรียกจนสะดุ้ง “นายหญิงขอรับ นายหญิง” “อ้อ ต้าฝูข้าขอโทษท่าน พอดีข้ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่น่ะ” “ท่านไป๋จวินให้ข้าเตรียมของให้ท่านใช่หรือไม่ขอรับ” “อืมใช่ ท่านรู้ว่าท้ออัคคีอยู่ที่ใดและน้ำทิพย์มรกตนั่นอีกใช่ไหม” “แน่นอนขอรับข้าย่อมรู้ ท้ออัคคีอยู่ที่หุบเขาอัคคีอยู่ทางทิศตะวันตกด้านโน้นขอรับ ข้าจะไปเอาให้ท่านเดี๋ยวนี้” รอไม่ถึงหนึ่งเค่อต้าฝูก็กลับมาพร้อมกับเรียกผลท้ออัคคีสี่ลูกออกมาจากแหวนมิติ ลี่หลินมองตามตาไม่กะพริบ นางยังรู้สึกทึ่งไม่หายกับเจ้าสิ่งนี้จริงๆ หากทุกคนที่อยู่โลกเก่าของนางมีแหวนมิติใช้บ้างละก็ บ้านเรือนคงจะเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านไม่น้อย [1เค่อ=15นาที] “ข้าเอามาเผื่อหากว่าท่านหิวตอนแช่น้ำสองลูก แค่ลูกเดียวข้าคิดว่ามันคงไม่พอ มันจะไม่เป็นผลร้ายตราบใดที่นายหญิงยังแช่ตัวอยู่ในน้ำตกปราณ มันยิ่งจะช่วยให้เส้นปราณและตันเถียนของท่านขยายและแข็งแรงยิ่งขึ้นขอรับ มาเถอะนายหญิงข้าจะพาท่านไปที่บ่อน้ำทิพย์มรกต” “ขอบคุณมากนะต้าฝู” ลี่หลินกล่าวขอบคุณทุกครั้งที่มีคนทำอะไรให้ถึงเขาจะเป็นแค่สัตว์อสูรก็ตาม มันเป็นปกติสำหรับนางแต่สำหรับที่นี่นางไม่รู้หรอก “ขอบคุณอันใดเล่านายหญิง มันเป็นหน้าที่ของข้าและข้าก็เต็มใจทำมิได้มีผู้ใดบังคับข้าสักนิด” ลี่หลินเต็มตื้นในหัวใจยิ่งนัก ถึงต้าฝูจะเป็นแค่สัตว์อสูรที่ไม่ค่อยยิ้มและมีหน้าเดียวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ให้รู้สึกอบอุ่นใจเหมือนมีญาติผู้ใหญ่คอยให้ความดูแลอยู่ไม่ห่าง ช่างแตกต่างกับโลกที่นางจากมาเหลิอเกิน ถึงแม้ที่นั่นเธอจะมีญาติพี่น้องแต่ต่างคนก็ต่างอยู่ ไม่เคยเลยที่จะมีใครไถ่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ยิ่งมีตอนที่เธอมีลูกทุกคนก็ยิ่งถอยห่างและหายเงียบไปในที่สุด คงเป็นเพราะเธอทำให้พวกเขาอับอายกระมัง “โอ๊ะ! นั่นบ่อน้ำทิพย์มรกตใช่หรือไม่ สวยจริงๆ” ลี่หลินตื่นเต้นที่เห็นบ่อน้ำสีเขียวมรกตดังชื่อที่เรียก บ่อน้ำมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่และเป็นบ่อหินสีเขียวยกสูงประมาณเอวเห็นจะได้ อีกด้านของบ่อจะเป็นเหมือนกำแพงหินหยกสีเขียวและจะมีน้ำไหลซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา...น่าอัศจรรย์ที่สุด “ใช่แล้วขอรับนายหญิง นี่เป็นแค่เพียงส่วนน้อยของมิติเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จะทำให้นายหญิงร้องว้าวว เลยทีเดียว” “ไอ้คำว่า ว้าวว...เนี่ยมันไม่ได้เข้ากับหน้าตาของท่านเอาเสียเลยนะขอบอก คิกๆ” “อะ...อา ขอรับ” ‘นี่เขาคงไม่เหมาะกับคำพูดในยุคของนายหญิงจริงๆ กระมัง เฮ้อ’ อสูรหนุ่มพยายามจะสรรหาคำพูดของยุคโน้น ที่เคยจดจำมาจากท่านไป๋จวินเพื่อจะเอาใจนายคนใหม่ เผื่อว่ามันจะทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่เห็นจะต้องพอแค่นี้กระมัง เพราะนางดูจะไม่อินกับเขาด้วยเลย “ทำไมต้องทำหน้าเศร้าเล่า ข้าเปล่าดุท่านเสียหน่อย” “ข้าเปล่าเศร้านะขอรับนายหญิง” “จริงหรือ” "จริงแท้ขอรับ" “เช่นนั้นเรามาเริ่มฝึกกันเถอะ” “ขอรับ ก่อนอื่นให้ท่านดื่มน้ำทิพย์มรกตที่ข้าเจือจางแล้วสามหยดต่อน้ำหนึ่งจอก ดื่มแล้วก็ลงไปแช่ในน้ำตกปราณได้เลยอย่าลืมกินลูกท้ออัคคีด้วยนะขอรับ เริ่มแรกอาจจะเจ็บปวดเล็กน้อย เพราะท่านใช้ตัวช่วยเยอะเหลือเกิน อดทนเข้าไว้นะขอรับนายหญิง” ต้าฝูอธิบายเสร็จสรรพก็ยกมือชูสองนิ้วเพื่อให้กำลังใจกับนาง “.......” ลี่หลินได้แต่ทำตาปริบๆ ฉีกยิ้มให้...ไร้ซึ่งคำพูดพร้อมชูสองนิ้วกลับไป ศิษย์พี่จวินของนางช่างสอนสั่งอสูรตนนี้ได้ดีเหลือเกิน “น้ำทิพย์มรกตมีตั้งเยอะแยะทำไมให้ข้าใช้แค่สามหยด ทำไมไม่ให้ข้าดื่มเป็นจอกเลยล่ะ ส่วนลูกท้ออัคคีข้าขอแค่สามลูกก็พออีกหนึ่งลูกท่านเก็บไว้ใช้เองเถอะ” “โธ่...นายหญิงคนปกติที่พลังมียุทธสูงส่งก็ใช้ไม่เกินครั้งละหนึ่งหยดนะขอรับ” “อ้อ” ฮิฮิ…คนไม่รู้ก็ถือว่าไม่ผิดใช่ไหมล่ะ เวลาต่อมา... “อ๊าาาา น้ำตกปราณทำไมมันถึงเย็นยะเยือกขนาดนี้ มิน่าพลังหยางจากลูกท้ออัคคีถึงได้จำเป็นนัก” ความหนาวเย็นจากน้ำตกปราณทำให้ลี่หลินรีบกัดกินลูกท้ออัคคีจนหมดไปหนึ่งลูกอย่างรวดเร็ว ความร้อนจากลูกท้ออัคคีได้กระจายไปทั่วร่างทั้งจุดตันเถียนและเส้นปราณ เพราะว่านางเคยฝึกนั่งสมาธิกรรมฐานมาจึงทำให้อะไรมันง่ายขึ้นแค่เพียงเพ่งจิตจากหัวคิ้วแล้วย้ายไปยังจุดตันเถียนแทน มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรแต่ความทรมานนี้เหมือนจะทำให้ตัวของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันทั้งที่นางเองก็ยังไม่เคยฝึกปราณมาก่อน แต่เหมือนกระแสปราณจากทั่วสารทิศจะถาโถมเข้ามาพร้อมกับถูกดูดเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ลี่หลินกำลังคิดว่าตัวเองนั้นช่างตะกละเสียเหลือเกิน นางเร่งดูดพลังปราณที่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวเข้าสู่ร่างกายอย่างกับเครื่องสูบน้ำติดเทอร์โบแต่มันก็ไม่เพียงพอ ไหนเลยนางจะรู้ว่าตัวตะกละตัวจริงนั้นกำลังอิ่มหนำสำราญอยู่ในท้องของนาง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD