ต้องรีบถอนพิษ

1348 Words
ยังคงอยู่ที่หอประมูลไป๋หลง… หลังจากที่ประมูลเหยี่ยวเหมันต์มาแล้วไป๋ลี่หลินได้ขอเอาเหยี่ยวเหมันต์มาเก็บไว้กับตัวซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหา ทางหอประมูลได้จัดการให้นางในทันที... “ทำไมเจ้าถึงอยากได้นางนักดูนางป่วยมากทีเดียวนะอาหลิน อ้อ..แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็น ‘นาง’ มิใช่ว่าเป็นเพศผู้หรอกหรือ” “ต้าฝูกระซิบบอกข้าว่านางต้องการความช่วยเหลือ ตอนนี้นางป่วยหนักพวกนั้นถึงได้เอานางมาประมูลอย่างไรล่ะ ข้าจะเป็นคนรักษานางเอง อีกอย่างข้าก็ยังไม่มีสัตว์อสูรในพันธสัญญา ท่านคิดว่านางเหมาะกับข้าไหม” “อืม..นางก็งดงามเหมาะกับเจ้ายิ่งข้ามองเห็นภาพเจ้ากับนางโผบินสู่ท้องนภาไปด้วยกันคงจะงดงามปานเทพเซียนเชียวล่ะ” ‘อ่า..อะไรกันนายท่าน..ท่านกลายเป็นคนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน แต่ละคำที่พรั่งพรูออกมามันหวานจนเลี่ยนไปแล้ว’ หลุนคุนและเหล่าองครักษ์ต่างก็มองตากันปริบ ๆ กับคำเกี้ยวพาสาวงามของเจ้านาย ฟังแล้วถึงกับทำให้ขนลุกกันเลยทีเดียว “เทียนหรงพอทีเถอะท่านจะปากหวานเกินไปแล้ว ปกติท่านเป็นคนเช่นนี้หรือ” คิก ๆ พูดจาอย่างกับพระเอกลิเกอยู่ด้วยกันนานไปเห็นทีนางคงโดนเบาหวานถามหาเป็นแน่ “จะหวานหรือไม่เจ้าย่อมรู้ดี ข้าก็พูดเช่นนี้กับเจ้าคนเดียวเท่านั้นแหละ ที่จริงปากของเจ้าเองก็หวานนะอาหลิน” เทียนหรงพล่ามเหมือนคนเพ้อทั้งสายตาก็ไม่ได้ละไปจากริมฝีปากอิ่มเลย ก็รสจูบในคืนนั้นยังตราตรึงอยู่เลย ‘เฮ้อ..นี่เขาเผลอไผลไปกับความคิดของตัวเองอีกแล้ว’ ‘นายท่านขอรับท่านควรพานายหญิงกลับไปหวานกันที่ห้องนะขอรับ’ หลุนคุนหมดคำที่จะกล่าวแล้วตอนนี้ นายท่านของพวกเขาเคยเป็นแบบนี้ซะที่ไหน อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กยันโตเคยเกี้ยวพาสตรีที่ไหนกัน ดูสิพวกเขาไม่สนใจการประมูลด้วยซ้ำ ‘โอ้..ดูนั่น ท้อทิพย์มรกตและท้ออัคคีของนายหญิงราคาทะลุถึงลูกละยี่สิบล้านแล้วนะขอรับ’ หลุนคุนเอ๋ยหลุนคุน เจ้าก็ได้แต่เอ่ยภายในใจเท่านั้นแหละตอนนี้พวกเขาหาได้สนใจสิ่งของหรือแม้แต่คนรอบข้างไม่... การเกี้ยวสาวของนายท่านหอประมูลยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่สักพักลี่หลินก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ สีหน้าและท่าทางของเทียนหรงเริ่มเปลี่ยนไป เขาหอบหายใจหืดหาดบ้างก็สะดุดเป็นห้วง ๆ ‘คงไม่ใช่ว่าพิษนั่นกำลังจะกำเริบหรอกนะ’ ลี่หลินคิด และจากที่ดูอาการแล้ว มันไม่น่าจะผิดจากที่นางคาดเดา “เทียนหรงท่านไหวไหม พิษของท่านจะกำเริบวันไหน ใช่วันนี้หรือไม่” ลี่หลินถามด้วยความเป็นห่วง “วันนี้..แต่ข้าจะไม่บังคับเจ้าหรอกนะอาหลินหากว่าเจ้าไม่พร้อม” เทียนหรงพยายามจะตัดใจจากเรื่องที่เขาและนางเคยตกลงกันเอาไว้ หากเขาย่ำยีนางวันนี้นางจะเกลียดเขาหรือไม่ ตัวนางก็เล็กนิดเดียวนางจะทนรับเขาไหวหรือ แม้จะรู้สึกยินดีที่ได้นางเป็นคนถอนพิษให้ แต่เชาเป็นกังวลต่อตัวนางไม่ได้อยู่ดี “ข้าพร้อมเทียนหรง เรารีบกลับกันเถอะ” นางตอบอย่างมั่นใจ เมื่อเห็นว่านางไม่มีทีท่าอิดออดเทียนหรงก็ใจชื้น เขา เขารีบลุกขึ้นพร้อมกับช้อนตัวนางขึ้นสู่อ้อมแขนแล้วดีดตัวเร้นกายออกจากหอประมูลทันทีโดยทิ้งเหล่าองครักษ์ไว้ข้างหลัง “ทะ..เทียนหรงจำเป็นต้องอุ้มด้วยหรือ” “ก็ไม่จำเป็น แต่ข้าอยากจะอุ้ม” “......” ฮื้ออ..ว่าที่ป่าป๊าของแทนแทน พระเอกสุด ๆ “หึ ๆ ๆ พี่หลุนคุนนายท่านลืมพวกเราไปแล้ว” เสียงเอ่ยออกมาจากหนึ่งในองครักษ์เงาที่เร้นกายอยู่แถวนั้น ที่หุบเขามังกร... เรือนวายุของเทียนหรงไม่ได้อยู่ใกล้กับเรือนหลังอื่น ๆ เลยสักนิด เรือนหลังนี้ถูกสร้างแยกออกมาต่างหาก บ่าวไพร่ก็ไม่ได้พลุกพล่านเพราะเจ้านายคนนี้ชอบความเป็นส่วนตัวสูง จึงเป็นที่รู้กันว่าหากเจ้านายเรือนนี้ไม่เรียกหาก็ห้ามใครเข้ามาในเขตเรือนวายุเป็นอันขาด มันจึงเป็นสถานที่เดียวที่สงบเงียบที่สุดในหุบเขามังกร พรึ่บ! “โอ้ว..ไหนท่านว่าในเมืองไม่ควรใช้วิชาตัวเบายังไงล่ะ แล้วที่นี่คือที่ไหนหรือเทียนหรง” ลี่หลินไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดนางจึงหาเรื่องถามไปอย่างนั้น “ตอนนี้ใช้ได้เพราะมันเป็นเหตุอันควร ที่นี่คือห้องของข้า เรือนวายุแห่งหุบเขามังกร” “เงียบดีจังเลย” “เจ้าชอบหรือไม่” เสียงแหบพร่าที่เขาเอ่ยออกมา เทียนหรงแทบไม่เชื่อว่านั่นคือเสียงของตัวเอง “ช..ชอบสิ” ลี่หลินตอบตะกุกตะกักคล้ายกับคนติดอ่าง เพราะอาการหายใจหืดหาดและเสียงที่แหบพร่าของเขาเทำให้นางหวาดหวั่น ความใจกล้าบ้าบิ่นที่คิดจะหาปะป๋าให้ลูกเริ่มสั่นคลอน ‘นี่เขาจะเริ่มแล้วหรือนางยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะ’ “ท..เทียนหรงเราควรต้องเตรียมตัวก่อนหรือไม่ และท่านก็ควรวางข้าลงก่อน” “อืม” เขาตอบรับและวางร่างบางของนางลงบนที่นอนหนาอย่างนุ่มนวลพร้อมกับนั่งลงเคียงข้างกายนาง มือเรียวยาวยื่นไปถอดหน้ากากของนางออกอย่างเบามือและไม่ลืมที่จะถอดหน้ากากของตัวเองออกด้วยเช่นกัน สองสายตาประสานพลันก็ทำให้ใจทั้งสองนั้นเต้นระรัวไม่รู้ว่าใจของใครกันแน่ที่เต้นรัวแรงกว่ากัน “อาหลินหากว่าข้าไร้ซึ่งสติอาจจะเผลอทำเจ้าเจ็บ ได้โปรดอย่าโกรธเคืองข้านะ อึก อืออ” ตอนนี้พิษกำหนัดกำลังจะกำเริบ อีกไม่ถึงครึ่งเค่อเขาคงได้กลายเป็นปีศาจราคะแน่ ๆ เพราะความปรารถนาที่มีต่อลี่หลินเป็นทุนเดิมทำให้เขากลัวว่าตัวเองจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ไหว “เทียนหรงให้ข้าเริ่มก่อนดีไหม” สิ้นคำพูดลี่หลินก็ยกตัวขึ้นวาดแขนเรียวโอบกอดรอบคอหนาและรั้งท้ายทอยของชายหนุ่มลงมาแล้วจูบที่ริมฝีปากหนาอย่างหาญกล้า ก่อนที่นางจะถอนริมปากออกมากลับถูกรั้งไว้ด้วยมือใหญ่แล้วเขาก็เริ่มบทชายหนุ่มผู้หิวโหย เขาบดจูบนางทั้งเร่งเร้ารุนแรงและเรียกร้องจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบน่าอาย ลิ้นร้อนสอดลึกเข้าพัวพันและดูดดึงลิ้นบางอย่างชอบใจ “อื้ออ อือออ” ลี่หลินได้แต่ส่งเสียงครางหวานในลำคอ นั่นก็ยิ่งทำให้เขาได้ใจหนัก มือใหญ่เริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กายแล้ววนขึ้นสู่ดอกบัวคู่งามสร้างความเสียวซ่านแปลก ๆ ลี่หลินเริ่มจะทนไม่ไหว ทั่วกายนางนั้นร้อนวูบวาบปานจะเป็นไข้ สมองของนางเริ่มขาวโพลนความนึกคิดก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนกระทั่งไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของนางหลุดร่วงไปตอนไหนตัวของเทียนหรงนั้นก็ไม่ต่างกัน ร่างกายหนาที่เปลือยเปล่าช่างน่ามองและน่าหลงใหลยิ่งนัก นางเองก็อยากลองลูบไล้ร่างกายของเขาเช่นกันลี่หลินได้แต่คิดอย่างเหม่อลอย เมื่อจูบนางจนพอใจปากหนาก็เคลื่อนไหวลงสู่ดอกบัวคู่งามทั้งกอบกุมเคล้นคลึงและดูดดึงยอดถันงามจนนางต้องแอ่นอกให้อย่างเผลอตัว สร้างความพอใจให้กับร่างหนาไม่น้อย ชายหนุ่มพยายามควบคุมสติอย่างหนักที่จะไม่กระทำการผลีผลามต่อนาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD