“ไอ้พวกนี้กินยังไง”
มาเฟียหนุ่มไม่มีทางยอมปล่อยเมียของตัวเองออกจากอ้อมแขนแม้เธอจะดิ้นจนเกือบจะหลุดออกจากอ้อมแขนอยู่หลายต่อหลายรอบแล้วก็ตาม แต่เขาก็ตามกอดเกี่ยวเอาไว้แน่นเหมือนเดิมโดยที่ไม่รู้กอดโดนอะไรต่อมิอะไรของเธอไปบ้างรู้แต่ว่ามันนุ่มนิ่มน่าสัมผัสไปหมดทั้งตัวเลย
และเขาก็พยายามยุ่มย่ามกับจานข้าวของเธอด้วยการจะป้อนอาหารใส่ปากเธอด้วยตัวเอง แต่ทว่าเขากลับกินอาหารไทยไม่เป็นเลยด้วยเขาไม่ใช่คนไทยและไม่มีสายเลือดเป็นคนไทยด้วย มีแต่เพียงภาษาไทยเท่านั้นที่เขาพูดได้เพราะตั้งใจไปร่ำเรียนมาเพื่อมาใช้คุยกับเธอโดยเฉพาะ
ก็เลยจำเป็นต้องให้ลูกน้องอย่างพ่อบ้านโชช่วยอธิบายวิธีการกินอาหารไทยให้เขาได้ฟังเพื่อจะได้ตักให้ปภินดานั้นกินได้อย่างถูกต้อง
“ตักใส่บนข้าวครับ แล้วค่อยนำเข้าปากครับ”
“แบบนี้เหรอวะ”
วิกเตอร์ใช้ช้อนที่อยู่ในจานข้าวของหญิงสาวก่อนหน้านี้ไปตักสิ่งที่ดูมีสีสันสีแดงสวยงามหน้ากินตรงหน้าที่เรียกว่ากับข้าวมาชิ้นหนึ่ง ก่อนจะนำมาวางบนข้าวสีขาวแล้วถึงตัดทั้งข้าวแล้วก็ไอ้สีแดงๆที่ตักมาใส่กลับไปที่ช้อนอีกครั้ง
แล้วเงยหน้าขึ้นถามพ่อบ้านโชเพื่อความแน่ใจว่าเขาทำถูกต้องหรือไม่
ปภินดาเอียงคอเล็กน้อยเพื่อหันไปมองใบหน้าของมาเฟียหน้าหนวดนั้นด้วยความสงสัย นี่คนอย่างเขากินอาหารไทยที่เขาสามารถออกเสียงพูดได้อย่างชัดเจนไม่เป็นจริงๆนะเหรอ หรือว่ากำลังแกล้งอะไรเธออยู่
“อ้าปากซิ”
มาเฟียหนุ่มประคองช้อนที่เต็มไปด้วยข้าวและก็อาหารสีแดงที่โปะอยู่บนข้าวเป็นอย่างดีด้วยมือข้างซ้ายที่ถนัดขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากบางของเธอ ส่วนมือข้างขวานั้นก็ออกแรงเต็มที่ในการกอดรัดร่างบอบบางของเธอเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
“ไม่”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมปิดปากสนิทมิดชิดแม้แต่อากาศก็รอดเข้าไปไม่ได้
“อื้อๆ”
มือขวาของมาเฟียหนุ่มขยับจากเอวคอดกิ่วของหญิงสาวขึ้นมาด้านบนด้วยความรวดเร็วแล้วเข้าบีบจมูกของเธอ
ปภินดาตกใจไม่น้อยที่เขาทำแบบนั้น และด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด เธอนั้นรีบอ้าปากออกทันใด
ทันใดนั้นข้าวที่อยู่ในช้อนก็ถูกป้อนเข้าไปในปากของเธอในทันที ราวกับกะจังหวะมาเป็นอย่างดี ไม่มีหกตกลงพื้นสักเม็ดเดียว
“เป็นไงอร่อยไหม”
“อืม”
คนเริ่มหิวอย่างปภินดาได้แต่พยักหน้าและเคี้ยวอาหารที่มีอยู่เต็มปากนั้น ไม่อาจโต้แย้งในรสชาติของอาหารได้เลย ด้วยเธอนั้นอ้าปากพูดอะไรไม่ได้ด้วยข้าวมันจะหกจากปาก
“ไอ้โช อันนี้ก็ทำเหมือนกันก่อนหน้านี้ใช่ไหม”
วิกเตอร์เริ่มจัดการกับอาหารอย่างที่สองบนโต๊ะอาหารต่อ และยังคงมีผู้ช่วยเป็นพ่อบ้านโชเหมือนเดิม เพราะเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอาหารไทยที่มีอยู่สามอย่างตรงหน้ามันคืออะไร และกินยังไง
“ครับนาย”
พ่อบ้านหนุ่มก้มหัวให้กับเจ้านายเล็กน้อย เมื่อเจ้านายนั้นทำได้อย่างถูกต้อง
“อ้าปากซิ หรือต้องให้บังคับอีก”
ตักอาหารเสร็จเตรียมจะป้อนใส่ปากเธออีกรอบ ก็หันไปสั่งให้เธอรีบจัดการกับตัวเองเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องบีบจมูกของเธอเหมือนก่อนหน้านี้อีก
“ฉันกินเองได้นะ เลิกวุ่นวายสักทีเถอะนะ”
“แต่ฉันว่าฉันชอบให้เธอคิดแบบนี้นะ ฉันชอบวุ่นวายกับเธอ”
“ฉันไม่ชอบ”
“ฉันชอบ”
“พอแล้ว ฉันอิ่มแล้ว ขอตัว”
ปภินดายอมกินอาหารจากการป้อนจากเขาอีกแค่คำเดียว แล้วก็อาศัยจังหวะที่เขาเอาแต่สนใจจะตักอาหารใส่จานลุกออกจากตักของเขาไป
ไม่กงไม่กินมันแล้วถึงแม้จะหิวก็ตาม ใครมันจะไปกินลงเมื่อมือที่ใช้ฆ่าคนนั้นมาป้อนอาหารใส่ปากเธอ
“คอยดูแลไว้ ถ้าเธอต้องการอะไรก็หามาให้ด้วยก็แล้วกัน หรือไม่ก็โทรหากู”
วิกเตอร์ไม่ได้ตามตื๊อเธอต่อเพราะเขาหมดเวลาที่จะตามเธอแล้วก็เลยจำใจต้องปล่อยเธอไปก่อนถึงแม้จะไม่ค่อยถูกใจที่เธอกินอาหารเข้าไปน้อยนิดแค่นั้นก็งอนเขาจนไม่กินต่อแล้ว
เขาต้องรีบออกไปเคลียร์เรื่องงานให้จบก่อนจะมืดค่ำ แต่ก่อนจะออกไปก็ไม่ลืมที่จะให้คนของเขาคอยเฝ้าดูแลเธอให้ดีไม่ให้เธอต้องรู้สึกขาดเหลืออะไรแม้เขาจะไม่มีเวลาดูแลเธอด้วยตัวเองก็ตาม
“ครับนาย”
พ่อบ้านโชก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อรับคำสั่ง ก่อนจะเดินไปส่งเจ้านายขึ้นรถที่จอดรอเทียบท่าอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน
ทำหน้าที่ทั้งลูกน้องของเจ้านาย และก็หน้าที่เพื่อนคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง
“ไอ้คนบ้า ไอ้คนทุเรศ ไปให้พ้นๆเลยไป ขอให้รถแหกโค้งตายไม่ต้องกลับมาอีกเลย สาธุ”
ปภินดาพอหลุดไปจากการจับกุมที่โต๊ะอาหารได้ก็รีบขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเก็บตัวอยู่แต่ในนั้นเพื่อความปลอดภัย และก็ไปแอบดูด้วยว่าเจ้าของบ้านจะออกไปข้างนอกอีกเมื่อไหร่เธอจะได้รู้สึกโล่งใจเมื่อเขาไม่อยู่
แล้วพอได้เห็นว่าเขานั้นขึ้นรถขับออกไปแล้ว เสียงหวานๆที่น่าฟังของปภินดาก็เอ่ยสาปแช่งตามหลังเขาไปด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟัง ไม่เหมาะกับน้ำเสียงของเธอเลยแม้แต่นิดเดียวในทันที
หวังให้เขาหายไปจากเธอสักที เธอจะได้ไม่ต้องมาอยู่ในกรงทองของเขาแบบนี้ ยอมเป็นหม้ายดีกว่ามีเขาเป็นสามี
“โอ๊ย ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย คนบ้าอะไรกอดมาได้เจ็บไปหมดเลย”
แต่พอขึ้นเสียงดังๆก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาจนต้องกลับไปนั่งที่เตียงนอนเพื่อพัก คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ถูกเขากอดรัดอย่างหนักจนคนตัวบางๆอย่างเธอสู้แรงเขาไม่ไหวจนบาดเจ็บมาแน่ๆ
คงไม่ใช่เขามีพระคุ้มครองหรอกนะพอว่านิดว่าหน่อยของก็กระเด็นกลับมาใส่ตัวเธอ อืม แต่คนอย่างเขาไม่ใช่คนดีอะไรคงไม่มีพระที่ไหนคุ้มครองหรอกมีแต่ผีนะสิที่เฝ้าขี่คอเพื่อให้เขาชดใช้บาปกรรมที่ทำลงไป
“บ้าเอ๊ย หน้าอกก็เจ็บ เขาจับนมฉันเหรอเนี่ย ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้คนบ้า”
แล้วเธอก็พาลเจ็บขึ้นมาถึงยังบริเวณหน้าอกเมื่อในใจยังก่นด่าเขาไม่เลิกสักที ทำเอาต้องยกมือขึ้นมาประคองหน้าอกเอาไว้แล้วค่อยๆล้มตัวลงนอนพักเพื่อให้หายจากอาการทุกอย่าง หยุดที่จะต่อว่าสาปแช่งเขาเอาไว้ก่อน
เพราะนี่อาจเป็นบาปกรรมจากการที่เธอคิดไม่ดีต่อเขาอยู่ก็เป็นได้ คนจิตใจร้ายกาจอย่างเขาไม่น่ามีเทวดาคุ้มครองตัวเลย ให้ตายเหอะ