งานแต่ง
“ปลาขอโทษพี่ซันด้วยนะคะ ที่เรื่องของเราต้องมาพังลงแบบนี้”
น้ำเสียงสั่นเคลือนคล้ายจะร้องไห้ออกมาของปภินดาเอ่ยขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่มที่ชื่อว่าพฤธาหรือพี่ซันคนรักของเธอ ที่เพิ่งจะมีการขอแต่งงานกันไปเมื่อต้นอาทิตย์ก่อน แต่ทว่าทุกอย่างกลับพังไม่เป็นท่าเมื่อเธอกับเขาไม่ได้แม้แต่จะเตรียมงานแต่งด้วยกัน ฝ่ายว่าที่เจ้าสาวอย่างเธอก็ต้องมาแต่งงานเพื่อใช้หนี้ให้กับคนเป็นพ่อเสียก่อนเพื่อกอบกู้บริษัทผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่เอาไว้ไม่ให้ถูกยึดไปอยู่ในมือของคนอื่น
เธอไม่ได้จะเป็นลูกกตัญญูอะไรทั้งนั้น ไม่ได้อยากตอบแทนบุญคุณของคนเป็นพ่อ เพราะเธอไม่ใช่ลูกที่ดีนักออกจะดื้อกับท่านเอามากๆด้วยซ้ำไป แต่ทว่าเพราะชีวิตสุขสบายที่ผ่านมา ที่มันสบายราวกับเจ้าหญิงของเธอนั้นมันมาจากกำไรของบริษัทนี้ เธอจึงไม่อาจเสียบริษัทเพียงแห่งเดียวของครอบครัวไปได้
ถึงแม้ว่าอีกไม่นานก็จะได้แต่งงานกับพฤธาแล้ว แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย เป็นเพียงนักธุรกิจหนุ่มที่เพิ่งจะก่อร่างสร้างตัวทำบริษัทของตัวเองได้ไม่นาน คงไม่มีเงินพอจะเลี้ยงดูเธอที่ใช้เงินสิ้นเปลืองเกินตัวได้อย่างสุขสบายในอนาคตหรอก
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเสียใจให้กับความรักที่ไม่อาจสมหวังตรงหน้านี้อยู่ดี เพราะพฤธาคือผู้ชายที่ดีและเป็นผู้ชายที่เธอนั้นยอมยกหัวใจทั้งดวงให้ไปหมดแล้ว
“ขอให้น้องปลามีความสุขมากๆนะ พี่จะรออยู่ตรงนี้เสมอ”
พฤธาทำได้แค่กล่าวอำลาอีกฝ่ายสั้นๆโดยไม่อาจรั้งอีกฝ่ายให้กลับมาเป็นเจ้าสาวของเขาได้ ด้วยเขานั้นมีเงินไม่พอที่จะเข้าไปยืนมือเป็นผู้กอบกู้บริษัทของพ่อเธอได้ เขามันเพิ่งจะเริ่มสร้างตัวเท่านั้นเอง
ทำได้แค่เพียงเป็นหมาเห่าเครื่องบินสวยๆสูงๆอย่างเธอแล้วก็ปล่อยให้เธอแต่งงานกับมาเฟียที่รวยล้นฟ้านั่นเท่านั้น
“ขอให้พี่ซันมีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ ขอให้เจอคนที่ดีที่คู่ควรกับพี่ไวๆนะคะ ห้ามรอปลานะ ห้ามทำแบบนั้น”
แม้จะยังรักเขาสุดหัวใจแต่ก็ไม่อาจรั้งเขาให้รอเธอได้อย่างคนใจดำ ถึงเธอจะไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับมาเฟียหน้าหนวดนั้นแต่ถึงกระนั้นการแต่งงานเพื่อชดใช้หนี้สินก็กินระะยะเวลาตั้งหนึ่งปี เธอจะให้ผู้ชายดีๆอย่างเขามาเสียเวลารอเธอไม่ได้ เขาควรมีชีวิตที่ดี ที่มีความสุข ให้เหมาะสมกับความดีของเขา
แต่ถ้าถึงเวลาที่เธอหย่าขาดจากมาเฟียนั้นแล้ว และเขายังไม่มีใคร ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันใหม่หรือเริ่มต้นกันใหม่ก็ยังไม่สายเกินไป
“จะร่ำลากันอีกนานไหม”
เสียงหนาเอ่ยดังมาจากด้านหลังของคู่หนุ่มสาวที่ยืนคุยกัน ที่ผู้หญิงแต่ชุดเจ้าสาวเต็มยศกับผู้ชายที่ใส่เพียงชุดง่ายๆสบายๆคล้ายอยู่บ้าน
พร้อมกับปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อให้คนทั้งคู่ที่หาเวลาแอบมาคุยได้เห็นว่าเขาเป็นใคร
พฤธารีบปลีกตัวออกไปในทันทีเพราะไม่อยากให้เจ้าสาวของงานวันนี้ต้องมีปัญหากับเจ้าบ่าวที่ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นใคร และร้ายมากแค่ไหน
ส่วนปภินดาเธอยังคงยืนนิ่งเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่สนเสียงที่ดังเอ่ยมาทางด้านหลังสักเท่าไหร่ เพราะถ้าสนใจเขาตั้งแต่ตอนนี้เธอก็เท่ากับว่ากลัวและจำยอมต่อเขานะสิ ไม่มีทางเสียหรอกที่คนอย่างเธอจะทำแบบนั้น เธอต้องเอาชนะเขาให้ได้ทุกเรื่องจะยอมแพ้ก็แค่ยอมแต่งงานด้วยเท่านั้น
“แขกข้างในเขาจะกลับกันหมดแล้ว พร้อมจะไปแนะนำตัวหรือยังล่ะ คุณเจ้าสาว”
วิกเตอร์มาเฟียหนุ่มที่ในตอนนี้นั้นเขาเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของของเจ้าสาวของเขาที่ยังคงยืนส่งอดีตคนรักอยู่แม้มันจะหนีหางจุกตูดไปแล้วก็ตาม
กระแทกเสียงใส่เธอให้เธอได้รู้เอาไว้ว่าในตอนนี้ควรจะไปทำอะไรให้เขาพอใจ ไม่ใช่มายืนอาลัยอาวรไอ้หน้าตัวเมียนั้นที่มันวิ่งหนีไปไหนแล้ว
“ตามแค่ครั้งเดียวฉันก็ได้ยินแล้ว ทำไมคุณต้องมาตอกย้ำกับฉันด้วยล่ะ”
ปภินดาหันไปทางด้านหลังตามเสียงดุดันที่กำลังเอ่ยเร่งรัดเธอนั้นด้วยความไม่พอใจกลับไป ด้วยนิสัยลูกคุณหนูที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เกิดคนอย่างเธอไม่มีทางยอมมาเฟียคนนี้ง่ายๆแน่นอน
หรือใครมันจะกล้าฆ่าเจ้าสาวตัวเองในวันแต่งงานก็เชิญเลย จะได้จบเรื่องการใช้หนี้ใช้สินบ้าบอนี้สักที
หนี้สินที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไงอย่างน่าสงสัยนั้น ทั้งที่บริษัทของพ่อเธอประกาศว่าได้กำไรเพิ่มมากขึ้นทุกปิ
หรือไอ้กำไรที่พ่อของเธอบอกกับใครๆนั้นมันเป็นเงินที่ไปยืมเขามาก็ไม่รู้ได้ เพราะพ่อของเธอเป็นพวกความลับเยอะไม่ชอบพูดคุยกับลูกหลงแต่เมียน้อยจนโงหัวไม่ขึ้น
“ฉันนึกว่าเธอไม่ได้ยิน”
เขาเดินเข้ามายืนเคียงคู่กับเธอเมื่อไอ้ชู้รักนั้นมันเดินจากไปแล้ว ทำตัวเป็นเจ้าบ่าวของเธออย่างเต็มที่ไม่ให้ใครมายืนเคียงข้างได้อีก
พร้อมกันนั้นก็แอบส่งสัญญาณทางสายตาให้ลูกน้องตามไอ้ชู้รักนั้นไปเพื่อไปดูว่าไอ้ชู้รักมันกลับบ้านจริงไหมหรือว่าคิดจะทำอะไรนอกเหนือจากนั้นกับเจ้าสาวของเขาในคืนนี้
จะได้มีเหตุผลฆ่ามันเสียให้จบปัญหาไป ไม่ต้องปล่อยให้เจ้าสาวของเขาไปอาลัยอาวรณ์กับมันแบบนี้อีก เห็นแล้วน่ารำคาญลูกนัยน์ตาเป็นที่สุด
“คุณเป็นเจ้าหนี้ของบ้านฉัน ฉันรู้ดี แต่ไม่จำเป็นต้องมาทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของฉันแบบนี้หรอกนะ ยังไงฉันก็ชดใช้หนี้ให้คุณหมดจำนวนนั่นแหละ”
เจ้าของเรือนร่างอรชรน่ามองอย่างปภินดาเป็นฝ่ายขยับตัวไปทางซ้ายมากพอสมควรให้ตัวเธอนั้นที่อยู่ในชุดราตรียาวสีขาวสะอาดตาไปยืนให้ไกลๆคนที่เธอนั้นกำลังเกลียดอย่างไอ้มาเฟียหน้าหนวดกวนส้นเท้านี้
“รู้ตัวเอาไว้ก็ดี คืนนี้จะได้เริ่มขัดดอกกันเลย”
คนหน้าด้านหน้าทนอย่างวิกเตอร์ขยับตัวตามแล้วตามเข้าไปควงแขนเจ้าสาวของเขาเอาไว้กันไม่ให้เธอหนีเขาไปยืนอยู่ไกลๆแบบก่อนหน้านั้นได้อีก
“คุณจะทำอะไรฉัน”
“คิดว่าคนแต่งงานกันแล้วเขาจะทำอะไรกันล่ะ”
สายตาคมพิศมองเจ้าสาวของเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างนึกสำรวจในความงดงามของเธอที่หาหญิงสาวคนใดเทียบเท่าด้วยอยาก
“อย่าหวังจะได้ทำอะไรฉันทั้งนั้น คนอย่างคุณแม้แต่สายเสื้อซับในฉันก็ไม่มีวันได้เห็น”
เธอส่งสายตาเป็นค้อนวงใหญ่มองไปยังคนลามกอย่างเขา แล้วก็เอ่ยต่อปากต่อคำอย่างอวดดี เพราะคนอย่างเธอไม่ยอมใช้เรือนกายใช้หนี้สินอะไรแบบนั้นหรอก ยอมแต่งงานด้วยก็แค่ในนามเท่านั้น อย่างอื่นมันจะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด
“อ๋อเหรอ”
น้ำเสียงยี่ยวนกวนประสาทถูกปล่อยออกไปเพื่อยั่วโมโหอีกฝ่าย
“ใช่”
เธอตอบกลับเสียงแข็ง พร้อมเชิดหน้าสู้อย่างไม่มีวันยอมเขาแบบง่ายๆ
“จบเวลาต่อปากต่อคำแล้ว เข้าไปในงานได้แล้ว ได้เวลาทำหน้าที่เมียขัดดอกของเธอแล้ว ปภินดา”
แล้วมาเฟียหนุ่มที่กำลังอยู่ในวัยคึกคะนองแรงเยอะมหาศาลก็ฉุดกระชากเจ้าสาวของเขาเข้าไปภายในงานเพื่อไปทำพิธีแต่งงานให้มันจบๆกันไปจะได้กลับบ้านสักที จะต้องรีบไปปราบพยศลูกคุณหนูอย่างเธอให้รู้จักคำว่าอยู่ในโอวาท