ตอนที่ 1 บทนำ

1768 Words
ตอนที่ 1 บทนำ "กรี๊ด!!!...ท่านพ่อ ท่านแม่" เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อประตูจวนสกุลเซียวเปิดอ้าออก ร่างอรชรวิ่งเข้าไปข้างในอย่างไม่คิดชีวิต เท้าทั้งสองข้างเหยียบย่ำลงไปในสายโลหิตที่ไหลออกมาจากร่างกายบ่าวไพร่ ทั่วทั้งพื้นหญ้าเต็มไปด้วยศพของผู้คนสกุลเซียวหลายร้อยชีวิต แต่ละก้าวที่นางย่ำผ่าน เสมือนมีมีดที่กรีดลงกลางหัวใจนางจนเลือดท่วม หญิงสาววิ่งเข้าไปยังด้านในของจวน หน้าห้องบูชาป้ายวิญญาณบรรพชน มีร่างกำยำยืนนิ่งเหมือนกำลังปกป้องด้านหลังไม่ให้ผู้ใดรุกล้ำเข้าไป ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงจ้องตรงไปข้างหน้าอย่างองอาจ โลหิตไหลออกจากร่างกายหยดลงสู่พื้นกลายเป็นแอ่งสีแดงขนาดใหญ่ มือข้างซ้ายกำกระบี่ค้ำกับพื้นดิน เพื่อไม่ให้ร่างกายล้มลงไปเซียวเยวี่ยหลันยกมือขึ้นปิดปากกรีดร้องเสียงดังเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ได้รับความเจ็บปวด นางยื่นมือที่สั่นเทาของตนเองออกไปสัมผัสร่างบุรุษองอาจของผู้เป็นบิดา "ทะ...ท่านพ่อ...ฮือ ๆ ท่านพ่อเป็นอะไร เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ" ไม่มีเสียงตอบนางกลับมา มีเพียงเสียงดังของร่างบุรุษที่นางเรียกขานว่าท่านพ่อ...เซียวอู่ล้มลงกระแทกพื้น พร้อมกับกระบี่ที่หักครึ่งลง ร่างอรชรถลาเข้าไปกอดบิดาเอาไว้ ร่างกายกำยำที่เคยโอบอุ้มนางมาตั้งแต่เด็ก มือหนาที่เคยอบอุ่นบัดนี้เย็นชืด ช่างหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจของผู้เป็นลูก "ไม่!!!...ท่านพ่อ...ฮือ...ผู้ใดกัน ผู้ใดมันทำร้ายท่านพ่อ ฮือ...อย่าทิ้งหลันเอ๋อร์ไป" "หละ...หลัน...หลัน..." เซียวเยวี่ยหลันหยุดชะงักค้าง นางได้ยินเสียงเรียกอย่างแผ่วเบาจนแทบจะหมดแรงออกจากในห้องบรรพชน หญิงสาวรีบวางร่างบิดาลงอย่างเบามือ และวิ่งเข้าไปในห้อง เท้าเล็กสะดุดขาเซียวเซิ่งหมิ่นที่ล้มตายข้าง ๆ บิดา พี่ชายเพียงหนึ่งเดียวของนางบัดนี้จากไปเสียแล้ว ร่างอรชรกัดริมฝีปากตนเองจนได้กลิ่นคาวเลือด หันไปมองด้านข้างก็เห็นร่างเด็กหนุ่มรูปงามที่เบิกตากว้าง โลหิตไหลอาบใบหน้า เซียวเซิ่งซูน้องชายคนเล็กของนาง ก็จากไปเช่นกัน "พี่ใหญ่ ฮือ ๆ น้องห้า ฮือ ๆ ผู้ใดทำพวกท่านเช่นนี้" เซียวเยวี่ยหลันได้ยินเสียงเรียกตนเองจากข้างในอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เบาเสียจนแทบจะหมดแรงแล้ว นางไม่รอช้ารีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา วิ่งโซซัดโซเซดันประตูบานใหญ่เข้าไปในห้อง ทันทีที่แสงสว่างจากเปลวไฟด้านนอกส่องสว่างเข้าไปในห้อง นางก็นิ่วหน้าขึ้นริมฝีปากบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด "ทะ...ท่านแม่...หลันเอ๋อร์มาแล้วเจ้าค่ะ" นางถลาไปข้างมารดาที่นอนหายใจรวยริน ร่างเล็กพยายามจะอุ้มมารดาขึ้น ทว่ามือเล็กที่แสนอบอุ่นกลับแนบไปที่ใบหน้านางเสียก่อน "หลันเอ๋อร์...เวลาแม่ไม่มีแล้ว" "ฮือ...ไม่เจ้าค่ะ...ท่านแม่...ลูกจะช่วยท่าน หมอ!!!...ไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้" เซียวฮูหยินยิ้มพลางส่ายหน้า นางเช็ดน้ำตาให้บุตรสาวอย่างอ่อนโยน "อย่า...หลันเอ๋อร์ฟังแม่...อย่าไว้ใจสวามีของเจ้า" ดวงตาเรียวเบิกกว้าง มองใบหน้ามารดาอย่างไม่เข้าใจ ท่านแม่ต้องเข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่ พระสวามีของนางเป็นบุรุษที่อ่อนโยน เหตุใดท่านแม่จึงได้เตือนนางเช่นนี้ ถึงแม้จะคิดเช่นนั้น แต่ในใจลึก ๆ แล้วนางหวาดหวั่นยิ่งนัก "ท่านแม่...พูดอันใดเจ้าคะ เหตุใด" คำถามมากมายที่ต้องการจะเอ่ย ทว่าไม่อาจพูดออกมาได้หมดแม้แต่คำเดียว มีเพียงคำว่าทำไม แต่ท่านแม่ไม่มีทางโกหกนาง "ลูกรัก พ่อกับแม่ และพี่ใหญ่ น้องชายของเจ้า ปกป้องเจ้าไม่ได้แล้ว หนีไป...หนีจากพระสวามีของเจ้าเสีย" สิ้นเสียงคำเอ่ยเตือน ร่างอบอุ่นของมารดาก็แน่นิ่งไป พร้อมกับมือที่หลุดจากแก้มนาง "ท่านแม่!!!...ฮือ...อย่าทิ้งลูก...พระองค์ทำสิ่งใดกันแน่ ฮือ..." นางกรีดร้องจนสุดเสียง ต่อให้ร้องมากเพียงใด ต่อให้ตะโกนจนคอจะแตก ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาอีกแล้ว เซียวเยวี่ยหลันผุดลุกขึ้น นางหันไปสั่งผู้ติดตามเสียงสั่น "เฝ้าท่านพ่อกับท่านแม่ และพี่ใหญ่ น้องห้า ของข้าเอาไว้ รอข้ากลับมา" นางวิ่งออกไปข้างนอก อาชาตัวใหญ่ย่ำเท้ารออยู่หน้าจวน เซียวเยวี่ยหลันเหยียบโกลนเหวี่ยงตัวขึ้น และควบออกไปยังจวนอ๋องอย่างร้อนใจ "ท่านอ๋องอยู่ที่ใด" "พระชายาเข้าไม่ได้เพคะ ท่านอ๋องบรรทมแล้ว" นางกำนัลถลามาขวางไม่ยินยอมให้พระชายาเข้าไปใกล้ห้องบรรทม เซียวเยวี่ยหลันขมวดคิ้วขึ้น ลางสังหรณ์ร้องเตือน ทว่านางไม่มีเวลามาใส่ใจนัก มือเรียวผลักนางกำนัลเหล่านั้นออกไป ปัง!!! "ซ่งอ๋องเพคะ..."เสียงเรียกที่ร้อนรนดังแผ่วลง เมื่อสายตามองเห็นบนตั่งทองมีร่างอรชรของสตรีคุ้นหน้านางหนึ่งผุดลุกขึ้นมา "นี่มันเรื่องอันใดกันเพคะ เหตุใดน้องสี่จึง..." ร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงคู่นี้มันฟ้องนางจนหมดสิ้น เซียวอี้ซินบุตรสาวสายรองของสกุลเซียว เหตุใดจึงมาอยู่บนตั่งของสวามีนางได้ ไม่จำเป็นต้องถามแล้วกระมัง "จัดการให้เรียบร้อย" นางหันไปมองบุรุษที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับนาง เขาไม่แม้แต่จะหันมามองนางเลยสักนิด เขาเอ่ยปากสั่งสตรีข้าง ๆ แววตาที่มองกันช่างดูอ่อนโยนยิ่งกว่าที่เขาเคยมองนาง "พระองค์ทรงวางใจอี้ซินจะไม่ทำให้ผิดหวังเพคะ" เซียวเยวี่ยหลันยื่นมือออกไปหมายจะคว้าแขนของสวามี ทว่าเขากลับหลบไม่ยอมให้นางจับ นางมองดูเขาสวมเสื้อคลุมและเบี่ยงหลบอย่างเย็นชา คำพูดของมารดาย้อนกลับเข้ามาในหัว เป็นเช่นนั้น เขาหาได้ดีเช่นที่แสดงออก เขาหลอกนางมาตลอด "เป็นอย่างไรบ้างพี่สาว ตกใจหรือ" เซียวอี้ซินเอ่ยถามพลางส่งเสียงหัวเราะขำ นางลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ร่องรอยการร่วมรักเต็มหน้าอก หญิงสาวกางมือออกนางกำนัลในตำหนักรีบเข้ามาสวมอาภรณ์ให้อย่างเอาใจ ครั้นเมื่อสวมอาภรณ์แล้ว ก็หันไปพยักหน้า นางกำนัลทั้งหลายรีบเข้ามากดร่างเซียวเยวี่ยหลันให้คุกเข่าลงที่พื้น "นังโง่...ถูกขายแล้วยังช่วยเขานับเงินอีก" เซียวเยวี่ยหลันเบิกตาขึ้น นางพยายามจะลุกขึ้นทว่าไม่อาจทำได้ เพราะนางกำนัลหน้าตายผู้นั้นกดนางเอาไว้แน่น "มะ...หมายความว่าอย่างไร พวกเจ้าสังหารท่านพ่อกับท่านแม่เพราะเหตุใดกัน พวกข้าไปทำสิ่งใดให้!!!" "ฮ่า ๆ ๆ ยังต้องถามอีกหรือ พระชายาเซียวเยวี่ยหลันผู้โง่เขลา" เซียวอี้ซินจ้องมองอย่างสะใจ ต่อให้พี่สาวผู้นี้จะเคยอยู่เหนือนางมาก่อน แต่บัดนี้ชีวิตไร้ค่านั้นก็อยู่ในกำมือนางแล้ว "เพราะเหตุใดกัน" เซียวเยวี่ยหลันก้มหน้ามองพื้น ส่ายหน้าอย่างไม่ยินยอม นางสะบัดดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี จนหลุดจากนางกำนัลกระโจนใส่ร่างน้องสาวสารเลวผู้นี้อย่างเต็มแรง ฝ่ามือเรียวบีบไปที่ลำคอเล็ก จนอีกฝ่ายไอคลุ้ง ผลัวะ!! ทว่าร่างนางก็ต้องกระเด็นเพราะสวามีอันเป็นที่รัก กลับเข้ามาผลักนางจนล้มลงไปอีกครั้ง เขาหันไปประคองเซียวอี้ซินขึ้นมาอย่างห่วงใย "จะเสียเวลาทำไมกัน พูดกับนางมีประโยชน์อันใด เซียวเยวี่ยหลันหากจะแค้น ก็แค้นความโง่ของตนเองเถอะ ข้าเคยคิดอยากจะให้เจ้าเป็นพระชายาของข้าอย่างแท้จริง ทว่าครอบครัวเจ้ามันรนหาที่เอง มีเพียงคนตายเท่านั้นที่เก็บความลับอยู่ จะโทษก็โทษบิดาเจ้าที่ไม่หยุดสืบเรื่องตำหนักบูรพา ในเมื่ออยากรู้ความจริงนักข้าก็ไม่มีทางเลือก" เสียงเข้มเอ่ยออกไปพลางสะบัดมือออกจากปลายคางเซียวเยวี่ยหลัน "พระชายาเสียพระทัยเรื่องสกุลเซียวถูกลอบสังหาร จึงทำให้สติฟั่นเฟือน จำต้องรักษาตัวอยู่แต่ในตำหนัก ห้ามออกมาแม้แต่ก้าวเดียว" นางกำนัลเข้ามาหิ้วแขนทั้งสองข้างของนางออกไป เซียวเยวี่ยหลันถูกนำมาขังเอาไว้ในเรือนร้างด้านหลังตำหนัก นางถูกขังไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน นานเพียงใดก็ไม่อาจรู้ ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่สู้ตายไปเสีย แต่เหมือนสวรรค์จะได้ยินเสียงอ้อนวอนของนาง ประตูเรือนที่พระสวามีขังนางก็ถูกเปิดออก ร่างอรชรของเซียวอี้ซินเดินเข้ามา พร้อมกับแสงสว่างที่แสบตา นางหรี่ตาลง "พี่สามสบายดีหรือไม่" เซียวเยวี่ยหลันไม่แม้แต่จะมองนาง นางเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ทว่าเซียวอี้ซินก็ไม่ได้สนใจนัก นางไม่อยากรออีกแล้ว "พี่สามการมีอยู่ของท่านมันน่ารำคาญ ข้าควรจะถูกแต่งตั้งเป็นพระชายาเอกเสียที หากแต่ท่านกลับไม่ตายไปเสีย ท่านจงตายไปเถอะนะ ตามท่านลุง ท่านป้า พี่ใหญ่ น้องห้าไปเถอะ อย่าอยู่ให้เป็นที่รังเกียจอีกเลย" คำพูดสุดท้ายของเซียวอี้ซินสิ้นลงพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพระชายาเซียวเยวี่ยหลันที่มอดม้วย นางกำนัลอ้อมเข้าไปด้านหลัง และใช้ผ้ารัดคอนางเอาไว้ โดยที่นางไม่แม้แต่จะทันได้ตั้งตัว ถึงนางจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว แต่ไม่ยินยอมที่จะตายไปอย่างนี้ ตายไปโดยที่ยังไม่ได้เปิดโปงความชั่วช้าของคนเหล่านี้พวกมันรวมหัวกันหลอกลวงนาง ใบหน้าผู้คนสกุลเซียวผ่านเข้ามาในห้วงความคิด นางทำผิดต่อทุกคน ทำผิดต่อบรรพบุรุษสกุลเซียว และนางยังทำผิดต่อเขาผู้นั้น 'ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ หลันเอ๋อร์ขอโทษ เป็นข้าที่โง่เขลา' ห้วงดวงจิตสุดท้ายของนางล่องลอยออกไป ในใจยังนึกถึงคนผู้นั้น 'ไป๋ซ่งอวิ้น ข้าขอโทษ หากชาติหน้ามีจริง ข้าจะชดใช้ให้ท่าน'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD