เสียงรถยนต์ดัง ลูกสาวกำนันรีบมายืนชะโงกหน้าจากหน้าต่างห้องนอน เห็นร่างคุ้นเคยก้าวลงมา พร้อมกับของมากมายในมือ ริมฝีปากบางเม้มสนิท ความรู้สึกบางอย่างเข้าแทรก ภาพเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนมันย้อนกลับมา เธอหันหน้ากลับเข้าห้อง ระบายลมหายใจ ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มธุรดารีบหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ไม่อยากให้ไอ้วัวนมสนทนากับพ่อนานนัก เดี๋ยวจะติดนิสัยเจ้าชู้ไร้ยางอายมาด้วย เธอไม่ไว้ใจผู้ชายประเภทนี้ ยิ่งกับหมอนี่ยิ่งแล้วใหญ่ สิบนาทีคนสวยออกจากห้องน้ำ แล้วแต่งตัว เช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง จึงรีบเร่งลงบันได ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาเบ้ปาก ก่อนที่เธอจะเดินมาหย่อนกายกลางวงอย่างไม่นึกเกรงใจ เธอไม่เข้าใจทำไมพ่อต้องเอาอกเอาใจ และแสดงอาการชอบพอในตัวผู้ชายคนนี้นัก กำนันมงคลชะงัก เหลือบมองบุตรสาวแล้วระบายลมหายใจ
“แกจะมานั่งทำไม ไม่เข้าไร่ไปล่ะ” คนเป็นพ่อถาม
“ไม่ล่ะคะ ดากลัวพ่อโดนหลอก”
ทว่าคนถูกแขวะกลับยิ้มกว้าง จ้องมองใบหน้าของคนพูดไม่วางตา
“ดีแล้วล่ะครับ คุณดานั่งตรงนี้ด้วย ทำเอาผมรู้สึกว่าห้องมันสว่างไปหมดเลยครับ”
มธุรดาชะงักสบตาคนพูด เห็นส่งแววตาทอประกายทำเอาหัวใจหล่นกระตุกวูบรีบหลบ ผิวแก้มเริ่มแดงขึ้นมาด้วยความประหม่า มาไม้ไหนกันแน่ ทว่าชายชราผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน กับรู้สึกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของหนุ่มไร้ข้าง ๆ อะไรดลใจหนอ เขาอยากจะรู้
“ดาไปไร่ก่อนนะคะพ่อ ขืนอยู่นานกว่านี้อาจได้ต่อยปากใครบางคน!” มธุรดาลุกยืน แล้วเดินกระแทกส้นเท้าออกไป โดยมีสายตาคมกริบจ้องมองไม่ห่าง
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของเจ้าบ้านดังขึ้น
เมธาสิทธิ์ชะงักหันกลับมาแล้วยิ้มเจือน ๆ ในหัวกลับนึกถึงริมฝีปากบางนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัสมาเมื่อวาน มันทำเอาเลือดในกายสูบฉีด หัวใจเต้นแรงพิกล
“ลูกสาวผมมันดื้อ หัวรั้น ไม่ฟังใคร สิทธิ์ไหวเหรอ” เสียงกำนันเอ่ยแทรก ทำเอาคนฟังนิ่งงันไป
“อะไรนะครับ”
“ถ้าสิทธิ์จริงจังอาก็โอเค” พูดจบช้อนสายตามอง
“เอ่อ..” ชายหนุ่มพูดไม่ออก หันรีหันขวางรู้สึกขัดเขิน
“รีบทำคะแนนเข้าล่ะครับ อีกหน่อยมันคงสวยกว่านี้เป็นกอง นี่มันไม่ค่อยแต่งตัว แถมทำตัวเหมือนผู้ชาย เลยไม่ค่อยมีใครกล้ามาขายขนมจีบ ขนาดไม่ได้แต่งอะไร ยัยดายังสวยเหมือนแม่เลย” เขาเอ่ยชมลูกสาวเปราะ
“ผมรู้แล้วครับ ว่าคุณดาสวย” เมธาสิทธิ์เผลออมยิ้ม
คนเป็นพ่อกระตุกยิ้มมุมปาก
“แล้วไม่รีบไปทำคะแนนเหรอสิทธิ์” กำนันเอ่ยถาม
ทำเอาคนฟังดวงตาเบิกกว้างรีบยืน “ผมขอตัวก่อนนะครับอา”
ร่างสุงใหญ่รีบเร่งฝีเท้าออกนอกตัวบ้าน แล้วกวาดตามองหา ก่อนตัดสินใจตรงไปยังเรือนพักริมน้ำ มั่นใจว่าเธอต้องอยู่ที่นั้นแน่นอน
เห็นคนงานมหลับตาพริ้มบนแค่ไม้ไผ่ ลมเย็นพัดผ่านกระทบผิวหน้า เขาชะโงกมองแพขนตางอน ผิวแก้มแดงระเรื่อ จนกระทั่งเจ้าของมันลืมตา จังหวะสบตา มธุรดาตระหนกยกมือผลักดันอย่างแล้วลุกนั่งอย่างรวดเร็ว
“มาทำบ้าอะไร!”
“มาเดินชมนกชมไม้”
“ที่อื่นก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องมาแถวนี้ด้วย!” คนสวยย้อน สีหน้าไม่พอใจ
เขายักไหล่ สีหน้ายิ้มแย้ม
“ก็ที่นี่มันสวยกว่าที่อื่นไงล่ะ ฉันก็เลยมา”
มธุรดาชะงักกัดฟันกรอด พฤติกรรมของเขาทำเอาเธอไปไม่ถูก อยู่ ๆ ก็แสดงท่าทีแปลก ๆ
“นายไม่มีสิทธิ์มายุ่งพื้นที่ส่วนตัวของฉัน ออกไปเลยนะ!” ไม่พูดเปล่า มือบางยกผลันดันแผ่นหลังให้อีกคนเดิน แต่เขาหันกลับมาแล้วจับเรียวแขน
“ปล่อยฉันนะ!” มธุรดาร้องสีหน้าไม่พอใจ
“ทำไมต้องร้องให้ปล่อย กลัวผมเหรอ” เขาย้อนถาม แล้วหัวเราะในลำคอ
คนตัวเล็กพยายามขัดขืน ไม่ยอมให้ร่างกายถูกโอบรัดแนบแน่นมากกว่าเดิม ทำไมพักหลังเขาถึงได้ทำตัวแบบนี้กันนะ
รู้จักคนอย่างเธอน้อยไป เห็นยอมเข้าหน่อยทำเป็นได้ใจ คนสวยเล่นทีเผลอ ใช้เท้าเกี่ยวท่อนขาแกร่งเอาไว้ ตั้งใจให้อีกฝ่ายลมกองกับพื้น แต่กลับผิดคาด เมื่อเขาดันล้มทับเธอบนแคร่ไม้แทน
มธุรดารีบยกมือดันแผงอกสีหน้าตื่นตระหนก ขาสองข้างยกขึ้นเพื่อไม่ให้ร่างกายเบียดเสียดไปมากกว่านี้ อีกฝ่ายกลับอมยิ้มชอบอกชอบใจที่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก”
“นายออกไปให้พ้นจากตัวฉันเลยนะ ไอ้วัวนม!”
“ถ้าฉันไม่ทำล่ะ จะทำอะไร!”
คนถูกย้อนปากสั่น พยายามสรรหาคำพูดมาเพื่อจัดการอีกฝ่าย แต่กลับไม่รู้ว่าควรโต้ตอบอย่างไรดี เมื่อก่อนเธอยังต่อล้อต่อเถียงกันตลอด แต่พอเขากลับกลายเป็นแบบนี้ เล่นเอาเธอไปไม่ถูกเลย
“ฉันจะฟ้องพ่อคอยดู!”
คำพูดนี้เล่นเอาคนด้านบนกลั้นคำแทบไม่อยู่ เจ้าตัวคงไม่รู้เลยสินะ ว่าพ่อตนเองเป็นคนเปิดทางให้เขาทำอะไรตามใจ
“อุ้ย! ฉันกลัวจังเลย กำนันคงยิงฉันไส้แตกแน่!”
เธอรู้ อีกฝ่ายกำลังยอกย้อน มันเกิดบ้าอะไร ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไป ทำเอาใจคอไม่ดีเลย
“บอกให้ปล่อยได้ยินไหม หูตึงหรือไง!”
“หูไม่ตึง แต่ไม่ปล่อย!”
คนโกรธกัดฟันแน่น ใช้ข้อศอกกระทุงลงไปตรงบริเวณท้อง แต่ไม่อาจทำให้อีกคนสะทกสะท้าน เลยกระทืบเท้าอีกฝ่ายชายหนุ่มสะดุ้งโหย่งปล่อยร่างบางหลุดจากอ้อมกอด
“โอ้ย! มันเจ็บรู้ไหม!”
“ดี! สมน้ำหน้า อยากหาเรื่องเอง”