#คอนโดอลัน
อลันเงียบมาตลอดทางมันยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้สึกผิดมากกว่าเดิม อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นฉันก็พยายามจะรับผิดชอบเต็มที่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่ใช่แค่รถของเขาที่เสียหาย รถฉันก็เหมือนกัน
“พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอารถมาให้นายนะ….”
“ไม่ต้อง” อลันตอบกลับเสียงเย็นก่อนจะหันหน้ามามองฉันด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก “ไม่ได้อยากได้รถใหม่”
“แต่รถนายเอาไปซ่อมคงใช้เวลาเป็นเดือนๆ เลยนะ”
“อืม”
“เดี๋ยวฉันโทรปรึกษากับอลิชก่อนดีกว่า” ฉันก้มหน้าลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรออกโทรศัพท์ในมือก็ถูกอลันแย่งไป “จะโทรบอกพี่อลิชเพื่อ ?”
“ก็….”
“ยุ่ง!!” ยังไม่ทันที่จะตอบอะไรอลันก็พูดสวนขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
เวลาฉันอยู่กับเด็กคนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ถูกเขากดขี่ตลอดเวลา ฉันไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองอายุเยอะกว่าผู้ชายคนนี้เลย
“โอเคฉันจะไม่บอกอลิช ถ้านายไม่อยากให้ฉันเอารถมาทิ้งไว้ให้ในระหว่างที่รถของนายซ่อมอยู่ก็ได้ ฉันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถทั้งหมดให้ แค่นี้ใช่ไหมที่นายต้องการ ถ้าอย่างนั้นฉันขอโทรศัพท์คืนด้วย” ฉันแบมือขอโทรศัพท์ตัวเองคืนจากอลัน แต่เขากลับนิ่งเฉยไม่ยอมคืนให้
“ได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าหรือนายต้องการแบบไหนก็พูดมาสิ”
“มารับไปส่งที่มหาวิทยาลัยทุกวันจนกว่ารถจะซ่อมเสร็จ” อลันพูดเสียงเรียบ
“ห๊ะ! มะ หมายถึงให้ฉันมารับนายที่คอนโดไปส่งที่มหาวิทยาลัยหรอ ?”
“อืม ตอนเลิกเรียนก็ต้องไปรับ อยากไปที่ไหนก็ต้องพาไป”
“มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ฉันให้นายเอารถไปขับนายก็ไม่เอา”
ฉันโวยวายเมื่อได้ฟังสิ่งที่อลันต้องการ ทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากหน้าที่คนขับรถ มันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่เลยนะ ฉันก็มีงานต้องทำจะให้คอยไปรับไปส่งเขาทุกวันมันเกินไปหรือเปล่า
“ปลดล็อกหน้าจอมือถือ” อลันยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันปลดล็อก
“ไม่ นายจะทำอะไร”
อลันไม่ตอบอะไรเขาเอาหน้าจอโทรศัพท์ยกขึ้นมาสแกนที่ใบหน้าของฉัน แค่นั้นมันก็ปลดล็อก จากนั้นเขาก็กดๆ อะไรสักอย่างก่อนที่โทรศัพท์ของเขาจะมีเสียงเรียกเข้า
“นายเอาโทรศัพท์ฉันโทรหาตัวเองงั้นหรอ ?”
ฉันขมวดคิ้วมองอลันที่ทำหน้าเรียบนิ่ง เขายื่นโทรศัพท์คืนมาให้ฉันโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ
“เด็กคนนี้พิลึกคนจริงๆ” ฉันบ่นพึมพำคนเดียวอยู่ในรถพลางมองแผ่นหลังของอลันที่เดินไปจนสุดสายตา
ถ้าฉันขับรถไปชนท้ายรถคนอื่นก็คงจะไม่วุ่นวายขนาดนี้ ช่วงนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ทำไมฉันต้องเจอกับอลันบ่อยๆ
#คลับหรูใจกลางเมือง
“ยัยแพร ชนแก้วค่ะ” ขวัญยกแก้วขึ้นมาชนกับฉันที่นั่งนิ่งๆ เหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับการมาดื่มในครั้งนี้
“บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามาดื่มอย่าเศร้า เมื่อไหร่ฉันจะได้เพื่อนคนเดิมกลับมาสักที” มินนี่บ่นพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
“ฉันไม่ได้เศร้าสักหน่อย” ฉันค้านเพื่อน
“หรอออออ!!” ทั้งมินนี่แหละขวัญต่างแย้งขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“แกเฮียเฟยมา” มินนี่สะกิดฉันก่อนที่เธอกับขวัญจะยกมือไหว้เฮียเฟยผู้ที่เป็นเจ้าของคลับ
“วันนี้มาดื่มไม่เห็นบอกเฮียก่อนเลย”
“ยุ่งๆ น่ะค่ะแพรเลยไม่ได้ทักบอก”
“ขอเฮียนั่งดื่มด้วยคนนะ”
“นี่คลับเฮียหนิ แพรห้ามได้หรอ ?” ฉันถามกลับอย่างยียวนทำให้เฮียเฟยหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ยัยแพรเดี๋ยวฉันกับขวัญไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” มินนี่บอกจากนั้นก็รีบดึงตัวขวัญออกไป “อื้อ ฉันไม่ได้จะไปห้องน้ำสักหน่อย”
ขวัญปัดมือมินนี่ออกแต่ถูกมินนี่ลากตัวไปอยู่ดี ทำไมฉันจะมองไม่ออกว่าเพื่อนของตัวเองกำลังเปิดทางให้ฉันนั่งอยู่กับเฮียเฟยสองต่อสอง
“แพรชอบผู้ชายแบบไหน ?” ผ่านไปครู่หนึ่งเฮียเฟยก็ถามขึ้น
“ชอบคนที่อายุเยอะกว่าค่ะ”
พอได้ฟังคำตอบของฉันเฮียเฟยก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วถามฉันต่อ “ชอบตรงไหน ?”
“ชอบที่เขาเรียกเราว่าน้องแล้วแทนตัวเองว่าพี่ค่ะน่ารักดี เป็นพี่น้องกันก็ดีแล้วเนอะ ^_^”
“อืม ชัดเจนดี” เฮียเฟยเบ้บปากใส่ฉัน
ครืด~ ขณะที่นั่งคุยกับเฮียเฟยอยู่โทรศัพท์ในมือของฉันก็สั่นแรงๆ เพราะมีสายเรียกเข้า
“เดี๋ยวแพรขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
“ตามสบายครับ”
ฉันก้มมองเบอร์ที่ไม่รู้จักอย่างแปลกใจก่อนจะเดินออกมาจากคลับ ปกติฉันไม่รับสายเบอร์แปลกเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆ มานี้ฉันมักจะรับเบอร์แปลกบ่อยๆ เพราะคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะเป็นพี่เพิร์ทก็ได้
( ฮัลโหลค่ะ ) ฉันกดรับสายด้วยหัวใจที่เต้นรัว
( หิวข้าว )
เสียงของปลายสายไม่ใช่เสียงของพี่เพิร์ท แล้วเป็นใครกัน
( นั่นใครหรอคะ )
( อลัน )
พอได้ยินชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามาฉันก็เงียบไปครู่ใหญ่
( อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอก มารับหน่อยดิ )
นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้องแต่เป็นประโยคคำสั่ง ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อได้ฟังคำสั่งจากอลัน
( มันดึกแล้วนะ ทำไมนายไม่สั่งแกร๊ปจะออกไปซื้อกินเองทำไม )
( ให้เวลาสิบนาที )
เขาพูดสั้นๆ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ให้เวลาสิบนาทีฉันจะไปทันได้ยังไง บ้าหรือเปล่า!!
ฉันกดส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอเวลาออกไปทำธุระหนึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะกลับมา จากนั้นก็ขับรถตรงมาที่คอนโดอลัน
ครืด~ โทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์ของอลันที่โทรมา ฉันจำได้ไม่ผิดแน่
( อื้อ ฉันกำลังไปตอนนี้ติดไฟแดงอยู่ ) ฉันกรอกเสียงออกไปอย่างเบื่อหน่าย
( ไม่ต้องมา )
( วะ ว่าไงนะ แต่ฉันใกล้จะถึงคอนโดนายแล้วนะ แกล้งกันอย่างนั้นหรอ ) ฉันตะเบ็งเสียงถามออกไปอย่างหัวเสีย คนอุตส่าห์รีบขับรถมาแท้ๆ
( หรืออยากจะมานอนรอที่ห้องก็ได้นะ เดี๋ยวเอาคีการ์ดไว้ให้ )
( บะ บ้าหรอ! ใครอยากจะนอนห้องนายกันไอ้เด็กโรคจิต!!)
ฉันรีบกดตัดสายทิ้งทันที คิดแล้วก็หงุดหงิดที่ถูกหลอกให้ขับรถออกมาแบบนี้ ทำไมฉันต้องเสียท่าให้กับอลันบ่อยๆ แบบนี้ด้วย
คงต้องรีบเร่งให้ช่างจัดการซ่อมรถของอลันให้เสร็จเร็วๆ แล้วแหละ ไม่อย่างนั้นชีวิตของฉันคงไม่สงบสุขแน่ๆ