น้ำเสียงของแอลลี่ซ่อนแววกังวลจนฝานถินารู้สึกได้ เธออยากให้แม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอก ไปเจอผู้คนเสียบ้าง ไม่อยากให้อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จนเกือบลืมไปเสียสนิทว่ามารดาของเธอตาบอด “ไม่เอาหรอกลูก อย่าหาเรื่องให้ตัวเองลำบาก ลืมไปหรือเปล่าว่าแม่ตาบอด โลกของคนตาบอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีแต่สีดำเหมือนกันหมด นึกยังไงจะหอบหิ้วแม่ไปเที่ยวเมืองไทยให้เป็นภาระ แล้วเงินทองเราก็ไม่ได้มีมากมาย…เก็บเงินเอาไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นดีกว่า” แอลลี่นั่งลงใกล้ๆ “หนูไปนอนเถอะลูก วันนี้เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวแม่นั่งถักไหมพรมอีกสักครู่ก็จะนอนเหมือนกัน” “อย่านอนดึกนักนะคะ…หนูไม่อยากให้แม่นั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว” หญิงสาวขยับเข้ามากอด หอมที่แก้มของฝานถินาเบาๆ จดจำกลิ่นแป้งอ่อนๆ ที่หอมกรุ่นออกมาจากเรือนกายของมารดาได้ไม่เคยลืม เมื่อเสียงฝีเท้าของแอลลี่ลับหายเข้าไปในห้อง ฝานถินาก็ถักไหมพรมต่อไป หล่อนรับรู้ได้ในคว