3

2123 Words
“ค่ะ ทานด้วยกันไหมคะ” เขมมิกาเอ่ยชวนอย่างเสียมิได้ “ครับ ผมกำลังหิวพอดีเลย” คนหล่อหน้าด้าน เอ๊ย! หน้ามึนขานรับทันใด เพราะมีเรื่องร้อนอกร้อนใจที่อยากจะถามกับสาวเจ้าให้รู้เรื่อง หรือ อย่างน้อย ก็ต้องได้คำตอบที่ชัดเจนกลับไป ไม่อย่างนั้นคืนนี้อาจจะนอนไม่หลับเหมือนเมื่อคืนอีก “สวัสดีครับ คุณเป็นแฟนคุณโยโกะเหรอครับ” เบิ้มถามอย่างอดไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาบุตรสาวของเจ้านายผู้ล่วงลับ ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายมาก่อน จะมีก็แต่...นารีดา ที่มาเที่ยวเล่นในไร่เป็นประจำ “เอ่อ...ผมชื่อขุนพันครับ เป็นเพื่อนของน้องโยโกะ” ขุนพันตอบยิ้มๆ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อเบิ้มเป็นหัวหน้าคนงานของที่นี่” เบิ้มยิ้มก่อนจะส่งมือไปจับกับอีกฝ่าย “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับลุงเบิ้ม” ขุนพันจับมือตอบเบาๆ อย่างมีมิตรไมตรี “เอ่อ...เชิญทางนี้หน่อยค่ะ” เขมมิกาเอ่ยพร้อมกับผายมือเชิญแขกผู้มาเยือน “ขอตัวก่อนนะครับ” ขุนพันเอ่ยก่อนจะเดินตามนางฟ้าคนสวยไปด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เขมมิกาที่เดินห่างออกมาราวๆ สิบเมตร หันไปเอ่ยถามชายหนุ่มมาดผู้ดีด้วยน้ำเสียงที่เบา เพราะไม่อยากจะให้คนงานได้ยินหรือรับรู้การสนทนาด้วย “คุณมาทำไมคะ?” “คุณเปิดอ่านข้อความของผม แต่ไม่ยอมตอบใดๆ” ขุนพันต่อว่าเบาๆ อย่างกระวนกระวายใจ เพราะสาวเจ้าอ่านกฎข้อห้ามต่างๆ ของตนเสร็จ ก็เงียบหายไปเลย มันทำให้เขาคาดเดาไม่ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “คือฉันกำลังยุ่งๆ อยู่น่ะค่ะ” เขมมิกาอมยิ้มกับท่าทีร้อนรนของ อีกฝ่าย “ครับ ผมเข้าใจแล้ว” ขุนพันหันไปมองคนงานที่กำลังรับประทานหมูกระทะไปพลาง ส่งสายตาจ้องมองมาที่ตนกับสาวเจ้าอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย “คุณจะกินหมูกระทะจริงๆ เหรอคะ” เขมมิกาถามย้ำอีกครั้ง “ครับ เว้นซะแต่คุณไม่อยากให้ผมกินด้วย” แขกไม่ได้รับเชิญกลั้นใจตอบไปอย่างหน้าด้านๆ “กินได้ค่ะ แต่กลัวจะไม่ถูกปาก เอ่อ...คุณนั่งโต๊ะตรงนั้นนะคะ พอดีโต๊ะทางนี้คนงานนั่งกันเต็มแล้วค่ะ” เขมมิกาบอกพลางชี้ไปยังโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าบ้าน “ได้ครับไม่มีปัญหา” ขุนพันยิ้มรับอย่างเต็มใจ “เชิญค่ะ” เขมมิกาบอกพร้อมกับผายมือเชิญอีกฝ่ายให้เดินตามไปที่โต๊ะ จากนั้นก็เดินไปบอกคนงานให้ยกเตาถ่านไปตั้งให้ และยกหมูหมัก น้ำจิ้ม รวมไปถึงของต่างๆ ไปวาง เพื่อจะทานหมูกระทะร่วมกับอีกฝ่าย สิบนาทีต่อมา... “วันนี้อากาศดีนะครับ” ขุนพันชวนคุย ขณะคีบหมูหมักขึ้นไปย่างบนเตาหมูกระทะด้วยสีหน้ายิ้มๆ “ใช่ค่ะ! ตอนแรกว่าจะเลี้ยงคนงานตอนเย็น แต่หัวหน้าคนงานบอกว่า...พรุ่งนี้ต้องเก็บลำไยแต่เช้า” “พวกเขากลับมาช่วยคุณเหรอครับ” ขุนพันถามอย่างสงสัย เพราะเมื่อวานมาไม่เห็นมีใครสักคน นอกจากสาวสวยตรงหน้าแค่คนเดียว “ค่ะ พวกเขาจะอยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายของไร่เดชา” เขมมิกาบอกอย่างรู้สึกตื้อไปทั้งหัวใจ “คุณคงไม่มีเวลาได้อ่านข้อสัญญา” “ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ “พรุ่งนี้เช้าผมคงจะได้คำตอบใช่ไหมครับ” คนที่ห่างหายเรื่องความสัมพันธ์บนเตียงกับสาวๆ มานาน เอ่ยถามเข้าเรื่องทันที “...” เขมมิกาเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มหล่อมาดผู้ดีนิ่ง “ถ้าคุณตกลง คนงานพวกนี้จะได้ทำงานต่อ ผมจะให้คนเข้ามาควบคุมและบริหารงานแทนคุณ รวมไปถึงการจ่ายเงินเดือนต่างๆ ให้กับคนงาน ระหว่างอยู่ในสัญญาคุณอยากให้ปรับเปลี่ยนตรงไหนของไร่ หรือปลูกอะไรเพิ่ม ก็สามารถบอกคนของผมได้เลย ผมจะช่วยฟื้นฟูไร่เดชาให้คุณเอง” ขุนพันบอกถึงสิ่งที่จะตามมา เขมมิกาใจสั่นกับข้อเสนอ “มันเป็นการลงทุน ที่มองไม่เห็นกำไร ทำไมคุณถึง...” “เงินแค่นี้เรื่องเล็กสำหรับผมครับ แค่คุณทำให้ผมพอใจ นั่นก็ถือว่าคุ้มแล้ว” “คุณเป็นพวกซาดิสหรือมีรสนิยมที่แปลกไปจากปกติไหมคะ” เธอกัดฟันถามเรื่องที่สงสัย ขุนพันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธ “ไม่ครับ ผมปกติดี สรุปคือคุณจะ...” โยโกะหันไปมองคนงานที่กำลังทานหมูกระทะกันอย่างมีความสุข ก็ถึงกับแน่นไปทั้งหน้าอก ใช่! บางคนเธอรู้จักมาตั้งแต่เด็ก เป็นเหมือนคนในครอบครัว และหากเธอยอมเสียสละเป็นนางบำเรอให้กับผู้ชายตรงหน้า เธอก็จะสามารถรักษาไร่แห่งนี้รวมไปถึงคนงานทุกคนก็จะยังมีงานทำต่อไป “ขอเวลาคิดอีกคืนหนึ่งได้ไหมคะ?” เธอต่อรอง แม้จะมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ก็อยากจะมีเวลาคิดอีกสักหน่อย “ครับ แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าเวลามันใกล้เข้ามาแล้วนะโยโกะ” “ฉันรู้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลอบถอนหายใจ “โอเค งั้นเราพักเรื่องส่วนตัวเอาไว้ก่อน แล้วกินหมูกระทะกันดีกว่าครับ” ขุนพันเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อเห็นใบหน้างามของสาวเจ้าดูเศร้าลงไปนิดๆ “ค่ะ” เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะคีบเนื้อย่างที่สุกแล้ววางลงในชามของเขา “ขอบคุณครับ” ขุนพันคีบเนื้อย่างไปแตะน้ำจิ้ม ก่อนจะทาน “อื้ม... อร่อยจังเลยครับ” “จริงเหรอคะ?” เขมมิกาฉีกยิ้มถามอย่างดีใจ “ครับ คุณหมักหมูเองเหรอ?” คนที่เป็นนักชิมตัวยง วิจารณ์เรื่องรสชาติแบบตรงไปตรงมา ขมวดคิ้วถามและรอฟังคำตอบ “ใช่ค่ะ” เขมมิกาขานรับทันใด “แล้วน้ำจิ้มนี่ล่ะ” “ฉันทำน้ำจิ้มสุกี้ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดป้าดาวทำค่ะ” “สุดยอดคุณเปิดร้านได้เลยนะ” ขุนพันเอ่ยชมจากใจ “จริงเหรอคะ?” “จริงสิ! ผมขอกินแบบไม่เกรงใจแล้วกัน” “ตามสบายค่ะ” “คุณหนูครับ ขอเปิดเพลงฟังเบาๆ ได้ไหมครับ” อาทินเดินเข้ามาขออนุญาตด้วยสีหน้ายิ้มๆ “เต็มที่ได้เลยค่ะพี่ทิน” เขมมิกาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะบรรยากาศมันเงียบเกินไป “ขอบคุณครับ” อาทินรีบเดินตรงไปยังเครื่องเล่นอย่างดีใจ “ถ้ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ด้วยน่าจะดี ผมขอโทรสั่งมาได้ไหม?” ขุนพันเอ่ยถามหญิงสาวต่อ “เอ่อ...เดี๋ยวฉันให้คนงานไปสั่งก็ได้ค่ะ” เขมมิกาบอกอย่างเกรงใจ “ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมสั่งลูกน้องให้เอามาเองดีกว่า” ขุนพันบอกเสร็จ ก็ล้วงมือถือมาต่อสายหาลูกน้องแล้วสั่งการทันที สิบห้านาทีต่อมา...รถกระบะคันใหญ่ขับเข้ามาจอดที่หน้าเรือนใหญ่ “นั่นใช่...” เขมมิกาเอ่ยค้างไว้อย่างรู้สึกอึ้ง ที่เห็นชายหนุ่มร่างสูงสองคนก้าวออกมาจากรถกระบะ “ครับ ลูกน้องผมเอง” ขุนพันพยักหน้ารับยิ้มๆ “ทำไมมาเร็วจังคะ” “พวกเขามากับผครับ แต่ไม่ได้เข้ามาในไร่ด้วยเท่านั้น” “งั้นก็ชวนมาทานด้วยกันสิคะ” “คุณสะดวกหรือเปล่า?” ขุนพันถามอย่างเกรงใจ “สะดวกค่ะ เพิ่มอีกแค่สองคนเอง ไม่มีปัญหา” เขมมิกาฉีกยิ้มหวานส่งให้ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ขอบคุณครับ” ขุนพันลุกขึ้นยืนตามพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องยกเครื่องดื่มลงจากท้ายรถกระบะ เขมมิกาเดินไปบอกคนงานชายที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ “พี่ทินค่ะ ช่วยยกเครื่องดื่มลงจากรถหน่อยค่ะ” “ได้ครับคุณหนู” อาทินขานรับก่อนจะพยักหน้าให้คนงานลุกตามไปด้วยสองคน เบิ้มเองก็ลุกตามไปดูอย่างแปลกใจ พอไปถึงที่รถกระบะคันใหญ่ ก็เอ่ยถามชายสองคนที่ยืนอยู่อย่างตกใจ เพราะมีเบียร์ราวๆ 20 กล่อง น้ำอัดลมอีก 10 กล่อง “ทำไมขนมาเยอะจังครับ” “คำสั่งบอสครับ” อรรถพลบอกยิ้มๆ “ขอบคุณมากๆ เลยนะครับคุณขุนพัน” เบิ้มหันไปเอ่ยกับชายหนุ่มที่เดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับตน “ยินดีครับ” ขุนพันบอกพร้อมกับก้มหัวลงนิดๆ “ทุกคน...คุณขุนพันเอาเครื่องดื่มมาให้” เบิ้มหันไปตะโกนบอกคนงานที่กำลังจ้องมองมาอย่างสนใจ “ขอบคุณครับคุณขุนพัน / ขอบคุณค่ะคุณขุนพัน” คนงานชายหญิงเอ่ยอย่างดีใจ เพราะมีทั้งเบียร์และน้ำอัดลม ขุนพันหันไปรับไหว้อย่างเขินๆ เขมมิกาอมยิ้มตาม พอเห็นคนงานยกลังเบียร์กับน้ำอัดลมลงรถจนหมดแล้ว ก็เอ่ยชวนลูกน้องของหนุ่มมาดผู้ดี “เดี๋ยวทานหมูกระทะด้วยกันนะคะ” “เอ่อ...คือว่า...” อรรถพลกับสายชลกำลังจะเอ่ยปฏิเสธ แต่ถูกผู้เป็นนายเอ่ยแทรกขึ้น “มาทานด้วยกันสิ” ขุนพันเอ่ยชวนพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องมือดีทั้งสองคนลงจากรถ “ครับ/ครับ” อรรถพลและสายชลขานรับก่อนเดินตามผู้เป็นนายไปติดๆ ขณะเดียวกันก็แอบชื่นชมบุตรสาวคนเดียวของพ่อเลี้ยงธนินที่สวยสมคำล่ำลือที่ได้ยินมา มิน่า! ผู้เป็นนายของตนถึงได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ชั่วโมงต่อมา...ทันทีที่บุตรสาวเจ้านายลุกเดินไปเข้าห้องน้ำในบ้าน เบิ้มก็รีบลุกมาทำความรู้จักกับหนุ่มที่ตนเคยเห็นออกสื่ออยู่หลายครั้ง ไม่คิดว่าตัวจริงจะหล่อมาก “ขอชนแก้วหน่อยครับ” “ได้ครับ ว่าแต่...เมื่อวานที่ผมมาเจอแต่คุณโยโกะ?” ขุนพันยกแก้วขึ้นตอบชายวัยห้าสิบบอกอย่างแปลกใจนิดๆ “วันก่อนพวกผมพากันเดินทางกลับบ้านครับ แต่ขับรถไปได้ครึ่งทาง ก็เปลี่ยนใจขับรถกลับมาที่นี่เพราะรู้สึกผิดครับที่ทิ้งคุณหนูเอาไว้คนเดียว ทั้งที่ลำไยก็เต็มสวน ผลไม้อย่างอื่นก็รอให้เก็บเกี่ยว” หัวหน้าคนงานบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “ไร่นี้กำลังจะถูกธนาคารยึดใช่ไหมครับ” ขุนพันถามกลับอย่างแปลกใจ ขณะเดียวกันก็ซึ้งใจแทนนางฟ้าคนสวย ที่มีคนงานดีๆ อยู่เคียงข้าง “ใช่ครับ แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกตั้งเดือนหนึ่ง ผมและคนงานจะอยู่กับคุณหนูจนวินาทีสุดท้าย แล้วค่อยกลับไปบ้านเกิดครับ” คนที่จากบ้านมาทำงานที่ไร่แห่งนี้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม จนกระทั่งมีภรรยาและบุตรชาย เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง หากจะว่าไปแล้ว ไร่แห่งนี้ ก็เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของตน “ถ้าหากไร่นี้ไม่ถูกธนาคารยึดล่ะครับ?” ขุนพันถามความเห็น “ก็ต้องถามคุณหนูครับว่าจะเอายังไง จะสู้ต่อหรือว่าจะพอแค่นี้ หากเลือกที่จะลุยต่อพวกผมก็ยินดีจะอยู่เคียงข้าง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณหนูจะต้องรู้คือการจะฟื้นฟูไร่เดชาใหม่จะต้องใช้เงินจำนวนมาก” เบิ้มประเมินสถานการณ์ “พูดต่อได้เลยครับ ผมฟังอยู่” ขุนพันเอ่ยพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นกับ อีกฝ่ายเบาๆ เบิ้มยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจ “ผมและคนงานทุกคนอยากให้คุณหนูขายไร่นี้แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ครับ อย่าพยายามแบกรับอะไรอีกเลย ผมรักคุณหนูเหมือนลูกสาว แม้ว่าคุณหนูจะเป็นลูกสาวของเจ้านายก็ตาม บลาๆๆ” ด้านเขมมิกาที่ไปเข้าห้องน้ำและแวะคุยกับคนงาน พอกลับออกมาที่โต๊ะก็พบว่าขุนพันเดินไปคุยกับหัวหน้าคนงานที่ศาลาริมสระน้ำ ซึ้งห่างไปประมาณหนึ่งร้อยเมตร เธอจึงเข้าไปทักทายลูกน้องของอีกฝ่ายที่ติดตามมาด้วยพร้อมกับเอาส้มตำไปให้ “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับคุณโยโกะ ขอบคุณมากๆ ครับ” อรรถพลส่งยิ้มให้อย่างขอบคุณ เพราะตนกับลูกน้องพากันทานหมูกระทะอย่างเอร็ดอร่อย จากตอนแรกก็รู้สึกเกร็งๆ อยู่สักนิด แต่พอทานไปสักพักแล้วเครื่องติด ก็หยุดกินแทบไม่ได้ เพราะหมูหมักกับน้ำจิ้มอร่อยมาก บวกกับได้จิบเบียร์เย็นๆ ฟังเพลงเพราะๆ คือดีเว่อร์ “ขอบคุณครับ หมูกระทะกับน้ำจิ้มรสชาติดีมากๆ เลยครับ” สายชลเอ่ยชมอย่างรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก “ขอบคุณค่ะ ทานเยอะๆ นะคะ” เขมมิกาดีใจทุกครั้งที่ทำอาหารแล้วมีคนเอ่ยชม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD