บทที่ 4
คับแน่น
เรียวขาสั่นเทาอ้าน้อยๆ พลางยกกระดกขึ้นเมื่อนิ้วเรียวถูไถชักเข้าชักออกด้วยจังหวะกระชั้นจนลมหายใจของคนตัวเล็กถึงกับขาดห้วง
“คะ...คุณขา นะ...หนูไม่ไหว อะ...อื้อ”
แก้มใสครวญเสียงสั่นอยู่กับอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา เขายกร่างเธอให้นั่งบนตัก สะโพกสวยกดทับลงบนตอแข็งขึงที่ดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงสีดำของเขา
หัวใจของเธอเต้นแรง!
อดคิดไม่ได้ว่าแค่เพียงปลายนิ้วของเขาเธอยังเสียวจนแทบคลั่ง แล้วถ้าเป็นเอ็นอุ่นแข็งขึงนี่เล่าเธอจะสุขเสียวสักเพียงใด
“อ๊า!”
ความคิดเตลิดหายวับเมื่อนิ้วร้อนเร่งบดขยี้เมล็ดเสียวรัวเร็ว แก้มใสกางสองแขนโอบกอดเขาเอาไว้แน่น ปลายเล็บเผลอจิกลงบนแผ่นหลัง หอบหายใจแรงจนเผลอเป่าลมร้อนออกจากริมฝีปากรินรดลงบนแผงอกเขย่าหัวใจของคนตัวโตให้เต้นผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นกับหญิงคนใดมาก่อน
“เงยหน้าขึ้น”
คำสั่งของเขาทำให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตาคม เนิ่นนาน...ปรเมศเอาแต่จ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตฉ่ำหวาน ภายในดวงตาของเด็กสาวคลอไปด้วยหยาดน้ำใสที่ระยิบระยับสะท้อนแสงแชนเดอเลียร์จนก่อเกิดเป็นความงามที่น่าลุ่มหลง
ขนตางามงอนกะพริบไหว ดวงตาค่อยๆ ปรือต่ำฉ่ำไปด้วยอารมณ์หวามไหว จมูกเล็กเชิดรั้นแดงระเรื่อ ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอน้อยๆ ครวญเสียงกระสันในขณะที่นิ้วกลางยังคงแหย่เข้าออกในรูไม่หยุด ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงต่ำแล้วครอบครองริมฝีปากของเธอเอาไว้
บดจูบอย่างรุกเร้ารุนแรงไปพร้อมๆ กับเร่งจังหวะเรียวนิ้ว ก่อนที่ร่างเล็กจะเกร็งกระตุกหวามด้วยความซ่านหฤหรรษ์ ใบหน้าแดงเห่อร้อน ภายในกายตอดรัดนิ้วของปรเมศอาไว้ด้วยจังหวะกระชั้น
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
“บีบแน่นมาก”
ชายหนุ่มพึมพำ ไม่คิดเลยว่าจะมีหญิงคนใดตอดนิ้วเขาได้แน่นและรุนแรงเช่นนี้
ปรเมศหยัดกายลุกขึ้นยืน ทิ้งให้ร่างเล็กทอดกายลงนอนบนที่นอนนุ่มราวกับตุ๊กตาที่ไร้เรี่ยวแรงเพราะสิ้นไร้สายชักใยจากเขา
ทันทีที่เขาถอดกางเกงออกเอ็นอุ่นก็ดีดผึ่งดันบ็อกเซอร์สีเข้มให้ตุงชี้ไปยังเบื้องหน้า แน่นอนว่าเขาถอดบ็อกเซอร์ออกเพื่อปล่อยให้แกนกายของเขาได้เป็นอิสระ ก่อนจะย่างเท้าเข้าไปหานางบำเรอแสนหวาน
แก้มใสมองไปยังท่อนเนื้อใหญ่ยาวแล้วถึงกับเผลอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและคาดคะเนจนเผลอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
“นะ...หนูคิดว่าหนูคงรับคุณไม่ไหว”
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพูดออกไป ก่อนจะกระถดถอยจนแผ่นหลังชิดหัวเตียง
ปรเมศได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับหัวเราะในลำคอ ปฏิกิริยาของนางบำเรอคนนี้แตกต่างไปจากคนอื่น ที่ผ่านมาไม่ว่าหญิงสาวคนใดเห็นแกนกายของเขาก็ต่างหลงใหลในความใหญ่ แข็ง อึด และถึกทนจนแทบจะถวายวิญญาณ พวกหล่อนมีความสุขกับการถูกเขาสอดใส่จนแทบจะร้องขอให้เขาหลับนอนด้วยทุกครั้งที่พบหน้า
ทว่าหญิงสาวคนนี้กลับบอกว่าเธอคงไม่สามารถรับเขาเข้าไปในร่างกายของเธอได้
มุกใหม่งั้นเหรอ?
ช่างน่าสนใจดีนี่!
“มันใหญ่เกินไปสำหรับเธองั้นสิ”
หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ หวังว่าเขาจะเมตตาเปลี่ยนจากตำแหน่งนางบำเรอเป็นสาวใช้หรือตำแหน่งอะไรก็ได้ที่เหมาะสมกว่านี้
“หรือว่าที่ผ่านมาเธอเคยเจอแต่ขนาดเล็ก”
“เอ่อ...”
หญิงสาวถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ พยายามนึกถึงแท่งอัลตราซาวด์ที่สูตินรีแพทย์สอดเข้ามาเพื่อตรวจภายใน เจ้าสิ่งนั้นมันเล็กไปถนัดตาเมื่อเทียบกับอาวุธรร้ายของเจ้าพ่อธุรกิจสีเทาผู้นี้
ไม่ทันที่แก้มใสจะทันตั้งตัว ปรเมศก็สืบเท้าไปยืนอยู่ข้างเตียงแล้วจับมือของนางบำเรอสาวให้มากอบกุมลำเอ็นเอาไว้
“อื้อ”
คนตัวเล็กตกใจที่เขาดึงมือเธอไปจับเอ็นอุ่นและเธอพบว่ามันกำลังขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนมือเล็กไม่สามารถกำมันได้รอบ
“ไม่ต้องห่วง ธรรมชาติของผู้หญิงมีไว้เพื่อรองรับผู้ชาย”
เขาก้มลงกระซิบที่ข้างหูก่อนจะใช้ฟันขบกัดลงไปจนขนอ่อนบริเวณนั้นลุกชัน ก่อนจะเลื่อนปลายจมูกคมไซ้ไปตามนวลแก้มแล้วปล้นปิดริมฝีปากของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วช่ำชอง
ร่างหนานักก้าวขึ้นบนเตียงแล้วคร่อมทับร่างเล็กของหญิงสาวเอาไว้ จูบหวามปลุกเร้าอารมณ์กระสันให้ซ่านสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาโลมไล้กอบกุมเต้าหวาน บีบแน่นและฟอนเฟ้นจนปลายถันชี้ชันในขณะที่แกนกลางกายของหญิงสาวเปียกชื้นขึ้นมาอีกครั้ง
เขาเล้าโลมเธอมากกว่านางบำเรอคนอื่นๆ เพราะเข้าใจว่าเธอไม่เคยผ่านผู้ชายที่มีขนาดอวัยวะเพศใหญ่ตามไซส์มาตรฐานยุโรป คงพบเจอไซส์มาตรฐานชายเอเชียทั่วไป ดังนั้นยิ่งเล้าโลมมากเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งเจ็บน้อยลงและมีความสุขกับการสอดใส่มากขึ้น
“เปียกหมดแล้ว”
เขาพึมพำเมื่อใช้นิ้วสอดเข้าไปในกลีบอวบอูมแล้วถูไถเมล็ดสวาทไปมาจนเธอถึงกับบิดกายเร่า จังหวะนี้เขาจึงไม่รอเช้าที่จะจับสองเรียวขาให้อ้าออกแล้วจ่อปลายหัวหยักอุ่นร้อนเข้าไปที่ปากทางสวรรค์
“อื้อ”
แก้มใสหลับตาพริ้มเมื่อถูกเสียดสีด้วยปลายหัวหยัก เขาถู เขาไถจนน้ำของเธอไหลเยิ้มเปื้อนปลายเอ็น ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ชำแรกแทรกเข้าไปช้าๆ
“อื้อ...จะ...เจ็บ”
ดวงตาที่หลับพริ้มเบิกกว้างด้วยความเจ็บ ทว่าเขากลับโน้มตัวลงมาแล้วปิดเรียวปากของเธอเอาไว้แนบแน่น บดจูบอย่างรุกเร้า มือหนาเลื่อนลงไปเคล้าเคลียทรวงอกอิ่มจนเธอลืมสิ้นซึ่งความเจ็บแปลบจากการสอดใส่ที่คับแน่น
“แน่นมาก ฉันไม่เคยเจอใครแน่นเท่าเธอมาก่อนเลย”
คนตัวโตบ่นพึมพำราวกับไร้สติ เขากัดฟันกรอดกดข่มความเสียวซ่านเอาไว้อย่างสุดกำลัง
แน่นราวกับสาวบริสุทธิ์!
เกร็งจนเส้นเลือดที่ขมับปูดโปน ทิ้งกายลงกอดรัดร่างเล็กก่อนจะจูบไซ้ไปตามลำคอระหง ไล่เรื่อยลงมายังเนินอกอิ่ม
จูบแล้วดูดดุนฝังรอยแดงราวกับตีตราประทับว่าเธอได้กลายเป็นนางบำเรอของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว
“อะ...อื้อ”
คนตัวเล็กครวญเสียงแผ่ว เมื่อเธอเริ่มขยับแล้วพบว่าความคับแน่นที่เบียดเสียดล่วงล้ำเข้ามากำลังทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ
“ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะพร้อมแล้ว”
นิ้วเรียวเกลี่ยหยาดเหงื่อที่ปลายจมูกรั้นของหญิงสาวด้วยสัมผัสแผ่วเบาทะนุถนอม จ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อเขินอายของเธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เพราะเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน
เหตุใดเขาจึงหวงแหนและเป็นฝ่ายปรนเปรอให้เธอเล่า ในขณะที่นางบำเรอคนอื่นเป็นฝ่ายมอบความสุขให้เขา พวกเธอเหล่านั้นใช้ปากและขึ้นขี่เพื่อให้เขาเสร็จสมโดยไม่ต้องเหนื่อย ทว่ากับผู้หญิงคนนี้เธอดูไร้เดียงสาและไม่ประสาในกามจนเขารู้สึกแปลกใจ จนเผลอเป็นฝ่ายโลมไล้มอบความสุขให้แก่เธอเสียเอง
สะโพกสอบที่กดแช่ค่อยๆ ขยับเขยื้อนอย่างช้าๆ ดึงลำเอ็นออกจากช่องแคบชื้นจนปลายหัวหยักคาอยู่ที่ปากทาง ก่อนจะดันกลับเข้าไปจนมิดลำ รับรู้ได้ว่าปลายหัวหยักชนกับสุดทางของรูสวาท
“ฮะ...ฮึก อะ...อื้อ”
แก้มใสครางเสียงสั่น เสียวรูจนร้อนเห่อไปทั้งใบหน้า เธอหลับตาแน่น ปัดป่ายมือไปทั่วก่อนจะคว้าจับที่แขนแข็งแกร่งของเขาเอาไว้ราวกับต้องการหาหลักยึดเหนี่ยว