“โอ๊ย สวยเลิศ สวยที่สุดลูกรักแม่สุ่ม”
เสียงพี่สุ่ม ผู้จัดการฉันชมฉันจนตัวแทบลอยหลังจากสวมชุดเดรสสีทองอร่ามแบรนด์ฝรั่งเศสที่จะเข้ามาตีตลาดที่ไทย
“บอกแล้วว่าชุดนี้ต้องน้องน้ำแข็งเท่านั้นถึงจะเหมาะ”
พี่บอลลูนพี่ในวงการนางแบบที่ฉันเคารพและเธอก็เป็นหนึ่งในเจ๊ดันช่วยหางานให้ฉันสารพัดงาน
“ที่จริงพี่บอลลูนใส่ชุดนี้ก็สวยนะคะ ทำไมไม่รับงานเองเลย”
เรายังคุยกันในห้องแต่งตัวเพราะยังไม่ถึงคิวถ่ายแบบ
“พี่สวย แต่นมพี่ไม่เด้งเหมือนน้องน้ำอะ”
ฉันถึงกับหน้าแดงเมื่ออีกคนชมหน้าอกฉัน
“แกก็ชมน้องมันซะตรงเลย”
นั่นสิ ทำเอาฉันไม่รู้จะดีใจหรืออายกันแน่กับคำชมนั้น
“เพราะของดีแบบนี้มีแต่สาว ๆ เท่านั้นสินะ”
พี่กุ๊กไก่สาวประเภทสองที่ทำหน้าที่แต่งหน้าทำผมให้ฉันพูดขึ้นบ้าง
“บอลลูนเพิ่งยี่สิบเจ็ดเองนะเจ๊ไก่”
“ฝากไว้ที่ธนาคารอีกกี่ปียะ หลอกใครหลอกได้ นี่ร่มหัวจมท้ายมากี่งานต่อกี่งานตั้งแต่แกเข้าวงการอย่ามาหลอกฉันให้ยาก!”
เจ๊บอลลูนกรอกตามองแรงใส่เจ๊กุ๊กไก่ที่แดกดันได้เจ็บปวดแต่คือเรื่องจริง
“แผ่นหลังนางช่างเนียนละมุน โอ๊ย ไม่อยากจะคิดตอนที่แฟนสุดหล่อเธอลูบไล้”
เพียะ!”
เสียงตีหลังมือดังขึ้นเมื่อเจ๊บอลลูนลูบหลังเปลือยเปล่าฉันแล้วถูกเจ๊สุ่มตีมืออีกที
“ตีทำไมเจ๊ เจ็บนะ!”
“พูดจาอะไรหัดเกรงใจน้องมันบ้าง แกหื่น แต่คนอื่นเขาไม่หื่นขึ้นหน้าเหมือนแก”
ฉันไม่ถือสาพวกเจ๊ ๆ เขาหรอก
นี่แหละคือนิสัยของพวกเขาที่ฉันมองว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขน่ะ
“นางแบบพร้อมแล้วใช่ไหมคะ”
ทีมงานเดินเข้ามาตาม พวกเราเลยเงียบเสียงแล้วพร้อมใจกันพยักหน้า
“อึ้งไปเลยเหรอคะคุณน้อง”
คนที่มาตามถึงกับตะลึงตาค้างมองมาที่ฉันจนถูกเจ๊บอลลูนแซว
“หนูนึกว่านางฟ้าตกสวรรค์ค่ะ”
คำชมนั้นทำเอาฉันยิ้มแก้มแทบแตก
ไม่ได้หลงตัวเแงแต่อย่างใด ก็เห็น ๆ กันแล้วใช่ไหมว่าใคร ๆ ต่างก็ชมฉันไปทางเดียวกัน
ตั้งแต่เกิดแล้วใคร ๆ ต่างบอกว่าฉันเป็นเทพธิดาลงมาจุติ
ด้วยผิวพรรณที่ผุดผ่อง ขาวมีเลือดฝาดและเบ้าหน้าฟ้าประทานสมส่วนทุกองศา
ปากเล็กจิ้มลิ้มรับกับสันจมูกที่โด่งได้รูป ดวงตาหวานหยดย้อยแม้ใครได้สบตาเป็นต้องระทวย
“ขอบคุณนะคะ”
ยิ่งเวียงที่ฉันเปล่งออกไปยิ่งไพเราะเพราะพริ้งจนบางทีเฮียมาคัสยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันพูดคุยกับใครนาน ๆ เพราะกลัวคนเหล่านั้นจะหลงเสียงฉันหัวปักหัวปำ
“รูแก็งาม เสียงก็เพราะ อยากตายแล้วเกิดใหม่เลยค่ะ”
ทีมงานคนเดิมยังชมไม่เลิก
“ถ้าตายแล้วเกิดใหม่ได้ครึ่งน้องน้ำ พี่บอลลูนจะให้เจ๊กุ๊กไก่ลองคนแรกเลย”
“เอ๊ะ! ทำไมแจ็กพ็อตมาลงที่เจ๊ได้ล่ะ แต่ถ้าได้แบบนั้นก็ยอมนะ”
เสียงหัวเราะภายในห้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไปกันเถอะ อยู่กับพวกไม่เต็มเต็งนาน ๆ เดี๋ยวราศีเราจะหมองนะลูกนะ”
มือบางถูกเจ๊สุ่มจูงออกจากห้อง เดินออกมายังห้องถ่ายแบบที่จัดแจงตกแต่งสถานที่ราวกับอยู่บนแดนสวรรค์จริง ๆ
“นางแบบมาแล้วค่า”
เจ๊สุ่มลากเสียงยาวเป็นการเปิดตัวฉัน และที่ฉันตกใจคงเป็นตากล้องที่กำลังเล็งกล้องมาทางนี้มากกว่า
“พี่สายฟ้า!”
“สวัสดีครับน้องน้ำแแข็ง”
พี่สายฟ้ายิ้มให้พร้อมถือกล้องคู่ใจเขาเดินมาทักทาย
“พี่ก็ว่าอยู่ทำไมเพื่อนพี่ถึงบ่นเสียดายที่ไม่ได้มาถ่ายงานให้นางแบบวันนี้ ที่แท้เพราะนางแบบคนสวยคนนี้นี่เอง”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ชมตั้งแต่น้ำเรียนจนนี่ผ่านมาหลายปีแล้วต้องมีแก่ขึ้นบ้างละค่ะ”
ฉันแซวอีกคนที่เจอกันทีไรเอาแต่ชมว่าฉันสวยไม่เปลี่ยน
“ตอนเราเรียนที่เดียวกันว่าสวยแล้ว ตอนนี้ยิ่งสวยครับ”
ไม่รู้จะเขินหรือเลี่ยนดี
พี่สายฟ้ากับฉันเคยเรียนที่มหาลัยเดียวกัน พี่เขาเป็นรุ่นพี่ฉันสองปีและเรียนภ่ายภาพ
จำได้ตอนนั้นฉันได้ดาวคณะนิเทศฯ แล้วต้องถ่ายรูปลงบอร์ดและนิตยสารรายสัปดาห์ทำให้ได้รู้จักกัน
พี่สายฟ้าเป็นคนคุยสนุก เราสนิทกันทั้ง ๆ ที่เรียนต่างคณะจนใคร ๆ ชอบจิ้นว่าเราคบกัน
แต่ตอนนั้นฉันเด็กเรียนน่ะ...
รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน ทำให้ไม่สนใจเรื่องคบใคร
“ถ้ายังชมน้ำอีกช่วยหาหินมาถ่วงขาทีนะคะ จะลอยกลับสวรรค์แล้ว”
ทุกขณะที่เราคุยกันมีสายตาหลายคู่จ้องมาที่เราจนรู้สึกได้
“นี่ถ้าน้องน้ำไม่มีแฟน พี่จะพายเรือลำนี้แทนแล้วนะคะ”
เจ๊บอลลูนเดินมากระซิบเบา ๆ ทำเอาฉันขึงตาดุใส่เธอ
“เริ่มงานกันดีกว่าครับ วันนี้มีถ่ายหลายชุดเลยใช่ไหม” ไม่รู้ว่าพี่สายฟ้าได้ยินที่เจ๊บอลลูนกระซิบบอกหรือเปล่าถึงได้รีบกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
“เหนื่อยไหมคนสวย”
ตอนนี้ฉันถ่ายงานจนเหลืออีกแค่ชุดสุดท้ายแล้ว แต่เหมือนชุดจะมีปัญหาตรงหน้าอกฉันที่มันยัดไม่เข้า ดูคับเกินไปจนเนื้อมันล้นออกมาแล้วไม่สวย ทีมงานเลยช่วยกันแก้ไขอยู่
“เหนื่อยแต่สนุกค่ะ”
เพราะเป็นงานที่ฉันรัก ต่อให้ต้องถ่ายสามวันสามคืนฉันก็ไม่บ่นหรอก
แถมยังได้ร่วมงานกับคนรู้จักที่สนิทกันแบบนี้อีก ฉันยิ่งรู้สึกเป็นกันเองจนไม่อยากให้เป็นชุดสุดท้ายเลย
“ยังดื่มช็อกโกแลตเย็นเหมือนเดิมใช่ไหมครับ”
แก้วเครื่องดื่มที่ว่าถูกยื่นมาให้
“ว้าว! จำได้ด้วย แถมโรงผงโอวัลตินของโปรดน้ำมาให้อีก”
ฉันยิ้มตาหยีเมื่ออีกคนซื้อเครื่องดื่มโปรดมาให้ฉัน
“คนอะไรชอบกินชื่อตัวเอง”
“คะ?”
“นี่ไง น้ำแข็งปั่น”
นี่เล่นมุกแล้วใช่ไหมเนี่ย
“เขาเรียกช็อกโกแลตปั่นราดภูเขาไฟลาวาเถอะค่ะ”
ฉันย่นจมูกใส่อีกคนที่มุกนี่ไม่เข้าท่า
แต่เหมือนพี่สายฟ้าจะเตรียมใจมาแล้วแหละถึงได้หัวเราะออกมาอย่างจริงใจ
“มือถือเราน่ะครับ”
รีบมองข้าง ๆ ตัวเองที่วางโทรศัพท์มือถือไว้
พอเห็นว่าเป็นใครโทร. มาหัวใจฉันก็พองโต
“สวัสดีค่ะ ถึงแล้วใช่ไหมคะ”
กรอกเสียงใสลงไปเมื่ออีกคนคอลมา
[ถึงแล้วครับ ตอนนี้รับมินตราไปส่งกองถ่ายแล้ว ส่วนเฮียรอเคลียร์เรื่องรถให้อยู่]
“น่ารักจังเลย แฟนใครเนี่ย”
คนอื่นชอบชมฉัน ส่วนฉันชอบชมเฮียมาคัสคนเดียว
[น่ารักก็อย่าลืมให้รักเยอะ ๆ นะครับ คืนนี้]
ใบหน้าฉันเห่อร้อนขึ้นมาทันทีเมื่ออีกคนพูดจาให้คิดไปไกล
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ หรือว่าแอร์ไม่เย็น”
[เสียงใครครับ]
เฮียมาคัสถามสุภาพแต่เส้นเสียงเหมือนจะหวง ๆ หน่อย
“รุ่นพี่ที่มหาลัยแต่วันนี้เป็นตากล้องค่ะ”
ฉันตอบอย่างไม่ปิดบัง
[นั่งใกล้กัน?]
เสียงกึ่งไม่พอใจดังขึ้น ฉันอดยิ้มไม่ได้ก่อนจะกดเปลี่ยนเป็นวิดีโอคอล แทน
“คนเยอะแยะค่ะ”
หน้าจอฉันปรากฏภาพเคลื่อนไหวผู้ชายผมสีน้ำตาลเข้มกำลังคาบบุหรี่อยู่ในปาก
ดวงตาสีเทาเข้มของเขากวาดมองรอบบริเวณที่ฉันส่องกล้องให้ดู
[ครับ ที่ถามเพราะหวง]
ไม่ต้องบอกคงรู้ว่าฉันเขินแค่ไหน
“น้ำรู้ค่ะ แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้างคะ”
[รถคงไม่เสร็จ เฮียว่าจะรอรับเพื่อนเรากลับด้วยเลย ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ]
ฉันจะไปว่าอะไรได้ล่ะ นั่นคือความคิดที่ดีเลย ยัยมินตราจะได้ไม่ต้องหารถกลับมาเอง
“ไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงน้ำน่าจะถ่ายเสร็จ เดี๋ยวกลับไปรอที่ห้องนะคะ”
[กลับเองได้ใช่ไหมครับ]
“เฮียมาคส์พูดเหมือนที่นี่หารถกลับยากงั้นแหละค่ะ”
[ก็ไม่อยากให้คนสวยนั่งแท็กซี่กลับ คนสมัยนี้ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้]
ดีใจจังคุณแฟนเป็นห่วงฉันด้วย
“เดี๋ยวน้ำให้เจ๊ ๆ ไปส่งก็ได้ค่ะ แค่นี้สบายใจหรือยังคะ”
เฮียมาคัสยิ้มพร้อมพยักหน้าให้ฉัน
“ชุดเสร็จแล้วค่ะ น้องน้ำแข็งช่วยมาลองอีกทีหน่อยนะ”
“น้ำต้องวางแล้วนะคะ คืนนี้เจอกันค่ะ”
เฮียมาคัสพยักหน้ายิ้มให้ก่อนจะวางสายไป
“แฟนเราขี้หวงเหมือนกันนะ”
พี่สายฟ้าแซวหน่อย ๆ ฉันไม่ตอบทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้พี่เขาแล้วรีบกลับเข้าห้องลองชุดเพื่อรีบทำงานให้เสร็จ