Chapter 3

1382 Words
@ห้างสรรพสินค้า "แม่เลือกให้นะคะคนสวย" ขนมผิงยิ้มออกมาก่อนจะหยิบชุดเอี๊ยมวัยน่ารักไปทาบลงบนตัวของลูกสาว เธอไปสำรวจตู้เสื้อผ้าของลูกมาแล้วมีแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบเต็มชั้น ของแบรนด์เนมไม่มีเลยซักใบมีแต่กระเป๋าหนังที่เธอเคยซื้อให้ตอนวันเกิดสองปีที่แล้ว เธอเลี้ยงลูกมาแบบให้เงินเยอะมากแต่แปลกที่เด็กสาวไม่ใช้จ่ายอะไรเลย "น่ารักไปมั้ยคะคุณแม่ น้ำหวานใส่เหมาะที่ไหนกัน" "มันเหมาะกับหนูแน่นอนถ้ารู้จักปล่อยผม แต่งหน้า หาชุดน่ารักๆมาใส่บ้าง" "มันไม่ชินนี่คะ ใส่ไปเพื่อนก็แซวกันอีก" น้ำหวานเอ่ยออกมาก่อนจะมองไปรอบๆอย่างถูกใจ จริงๆชุดพวกนี้มันสวยมากเธอชอบมองเวลาคนอื่นใส่ แต่พอเป็นตัวเองไม่กล้าใส่ซะอย่างนั้น "ถ้าหนูไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นทอมก็ต้องหัดแต่งตัวบ้าง อีกอย่างจะฝึกงานแล้วด้วยเราต้องมีบุคลิกที่ดีเหมาะสำหรับทำงานบริการนะ" น้ำหวานรับฟังคุณแม่ของเธออย่างตั้งใจ ส่วนคุณพ่อพักหลังท่านก็ไม่ว่าอะไรที่คุณแม่จะจับเธอแต่งตัวสวยๆ แต่เป็นเธอเองมากกว่าที่ไม่เคยชินก็เลยต่อต้านมาโดยตลอด "เชื่อแม่เขาเถอะ ปกติพ่อไม่ชอบนะให้หนูแต่งตัวสวยๆมันจะเด่นเดี๋ยวผู้ชายมาจีบเยอะ แต่ก็นั้นแหละหนูโตแล้ว ยิ่งวัยนี้ต้องฝึกงานด้วยพ่อว่าหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริการ ไม่ได้แต่งมากแต่ควรดูดีในระดับหนึ่ง" คนเป็นพ่อเอ่ยแนะนำลูกสาว เขาหวงลูกมากโชว์นั่นนี่เขาไม่ชอบที่สุด แต่หลายปีมานี้ได้ภรรยาปรับทัศนคติให้จึงดีขึ้นเยอะมาก และยอมที่จะปล่อยลูกสาวใช้ชีวิตแบบวันรุ่นดูบ้าง แต่คงเป็นความเคยชินของน้ำหวานเองจึงไม่ยอมทำตามที่แม่แนะนำ "ก็ได้ค่ะซื้อไว้ก็ได้" เด็กสาวยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปเลือกพร้อมกับคุณแม่ วันนี้ท่านใจดีมากซื้อชุดให้หลายชุดแถมเครื่องประดับพวกนาฬิกา ตุ้มหู สร้อยคอ กำไร รองเท้าแบบผู้หญิงเขาใส่กัน มีกระเป๋าแบรนด์เนมให้อีกด้วย "พอแล้วมั้ยคะทำไมซื้อเยอะจัง" "ก็หนูเล่นไม่ซื้ออะไรเลยนี่คะ แม่ให้เงินเดือนหนึ่งหลายหมื่นนะลูก หรือว่ากินข้าวจนหมดมันไม่เหลือไปซื้อพวกของใช้แบบนี้" ขนมผิงเอ่ยประชดลูกสาว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกินเดือนหนึ่งสี่ห้าหมื่น มันต้องมีเหลือเยอะมากถ้าไม่ซื้อของอะไร  "ก็อยู่ในธนาคารค่ะคุณแม่ คุณย่าก็ให้บ่อยแต่น้ำหวานไม่รู้จะซื้ออะไรนี่คะ" คนเป็นแม่หันไปมองสามีก่อนจะกระทุ้งศอกใส่อย่างอารมณ์เสีย "เพราะพ่อเลี้ยงคนเดียวเลยค่ะที่ทำให้ลูกกลายเป็นแบบนี้" "โทษพี่ได้ยังไงเล่า ก็ตอนนี้ปล่อยแล้วไง ลูกไม่สนใจเองให้พี่ทำไง" พ่อเลี้ยงคาวีไม่ยอมโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้ลูกสาวกลายเป็นแบบนี้ น้ำหวานมองคุณพ่อคุณแม่ของเธอเถียงกันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข "ไม่รู้แหละ ต่อจากนี้ห้ามบงการชีวิตลูกแล้ว ผิงไม่ยอมพ่อเลี้ยงแล้ว" "จ้าๆ พี่ยอมแพ้แล้วค่ะ" พ่อเลี้ยงหอมแก้มภรรยาอย่างยอมแพ้ รู้สึกว่าตัวเองยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งกลัวเมียจนน่าใจหาย หรือเพราะอยู่กันมานานเมียถึงไม่เกรงใจเหมือนก่อน ตอนนี้กลายเป็นเขาเองที่ต้องฟังภรรยาทุกเรื่องยอมทุกอย่างจริงๆ "ดีมากค่ะ น้ำหวานลูกไปซื้อโทรศัพท์ใหม่กันหนูใช้เครื่องนี้มาสองปีแล้วเปลี่ยนใหม่ได้ค่ะ แม่ซื้อให้นะ" "คุณแม่ใจดีที่สุดเลยค่ะ รักคุณแม่จังเลย" น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะกอดแขนคุณแม่เดินตรงไปยังร้านโทรศัพท์ ส่วนพ่อเลี้ยงคาวีเดินถือของตามสองสาวไปอย่างเอ็นดู เมื่อก่อนเมียยอมทุกอย่างเดี๋ยวนี้สามียอมทุกอย่าง... ให้มันรู้กันไปเลยว่าใครใหญ่กว่าใคร "ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะคะ" "ค่ะ เอาจอใหญ่เลยค่ะ เอาความจำเยอะๆด้วยน้ำหวานมีข้อมูลเยอะค่ะคุณแม่" "ได้เลย แม่เลือกให้นะ" ขนมผิงหันไปสอบถามพนักงานเกี่ยวกับราคารุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนน้ำหวานที่มีโทรศัพท์ดังเข้ามาก็กดรับสายทันที "สวัสดีค่ะน้ำหวานพูดค่ะ" (น้องน้ำหวานนะคะ พี่โทรศัพท์มาจากบริษัท CG groupค่ะ จะมาแจ้งว่าพรุ่งนี้ท่านประธานนัดสัมภาษณ์ตอนสิบโมงเช้า น้องจะสะดวกมั้ยคะ) "สะดวกค่ะ สะดวกมาก" น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น ในที่สุดเธอจะได้ไปสัมภาษณ์กับท่านประธานแล้ว แสดงว่ามีโอกาสได้ไปฝึกงานที่นั่นสูงมากเลยด้วย (งั้นพรุ่งนี้สิบโมงพี่ลงนัดไว้ให้นะคะ เจอกันนะ) "เจอกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" (จ้า เจอกันนะ) น้ำหวานวางโทรศัพท์ก่อนจะวิ่งไปสวมกอดคุณพ่อของเธออย่างดีใจ และจะแจ้งข่าวดีให้ทราบด้วย "คุณพ่อขา น้ำหวานมีข่าวจะมาแจ้งให้ทราบด้วย" "ข่าวอะไร ทำไมดูดีใจขนาดนั้นลูก" พ่อเลี้ยงคาวีเอ่ยถามลูกสาว น้ำหวานยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยออกมา "โรงแรมที่หนูไปยื่นเขาเรียกให้ไปสัมภาษณ์พรุ่งนี้ค่ะ คุณพ่อรู้มั้ยคะว่าโรงแรมนั้นนะระดับห้าดาวและไม่รับนักศึกษาฝึกงานมั่วๆด้วยนะคะ เห็นว่ามีคนมายื่นแต่ถูกปฎิเสธไปเยอะ รุ่นพี่น้ำหวานมายื่นก็ไม่เคยมีใครได้เข้าฝึก แต่เขาเรียกน้ำหวานไปสัมภาษณ์ด้วยนะคะ มันต้องมีข่าวดีแน่นอนเลยค่ะ" "จริงเหรอ... นี่คนเก่งอย่างลูกพ่อนี่ยังต้องไปลุ้นอะไรแบบนี้อีกเหรอเนี่ย เซอร์ไพรส์พ่อมากเลยนะ" พ่อเลี้ยงคาวีทำหน้าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ลูกสาวของเขาฉลาดมาทั้งแต่เด็กไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งภาษาผลการเรียน ทุกอย่างลูกของเขาทำได้ดีเสมอ แปลกใจที่ไปยื่นฝึกงานยังต้องรอสัมภาษณ์พิจารณาอีก "ก็ที่โรงแรมเครือ CG group เขาดังมากเลยค่ะ ค่าห้องราคาหลักหมื่นหลักแสนกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นต่างชาติ และเค้ายังมีบริษัททัวร์ด้วย เอาง่ายๆว่าถ้าได้เข้าไปฝึกงานก็จะได้ทำเหมือนพนักงานคนอื่นๆเลยค่ะเพราะเขาไม่มีพี่เลี้ยงคอยสอน คนที่จะเข้าไปฝึกงานได้จะต้องเก่งมากเท่านั้นค่ะ ถ้าสมมติว่าลูกสาวของคุณพ่อผ่านล่ะก็ หนูจะได้ปฎิบัติงานจริงเหมือนพนักงานคนหนึ่งและจะได้ประสบการณ์จากโรงแรมหรูๆมาพัฒนารีสอร์ทของเราต่อ" เด็กสาวอธิบายคนเป็นพ่อให้เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการ การไปฝึกงานที่นั่นมันคือความใฝ่ฝันของเด็กที่เรียนการท่องเที่ยวและการโรงแรมในมหาวิทยาลัยดัง มันจะมีแค่ไม่กี่โรงแรมที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ระดับเอเชีย ซึ่ง CG group เป็นหนึ่งในนั้นที่คนยอมรับมากที่สุด เธอจะต้องเข้าไปฝึกงานด้วยความสามารถของตัวเองให้ได้เลย "มองการณ์ไกลดีมากลูก พ่อขออวยพรให้หนูสมหวังนะ การฝึกงานมันก็เหมือนการทำงานจริงซึ่งหนูเคยผ่านมันมาแล้วในหลายปีมานี้ จดจำในสิ่งที่เคยเรียนรู้มาจากรีสอร์ทแล้วแสดงฝีมือออกมาให้คนอื่นเห็น พ่อเชื่อว่าหนูจะทำหน้าที่ตรงนั้นได้ดีที่สุด" "ขอบคุณค่ะคุณพ่อ ถ้าพรุ่งนี้ผ่านแล้วต้องพาหนูไปฉลองนะคะ" "ได้เลย พ่อให้คุณแม่พาไปจัดมื้อใหญ่เลย" ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาทันที สองพ่อลูกมีนิสัยคล้ายกันมากเข้ากันได้ดีมากกว่าลูกชายซะอีก รายนั้นเหมือนแม่มีนิสัยอ่อนโยนอะไรยอมได้ก็ยอมทุกอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD