เปิดเทอม
วันนี้เป็นวันเปิดเทอม หลังจากที่มหาลัยปิดตัวลงเพราะต้องปรับปรุงตึกเรียน ก็งงๆ นะว่าเปิดเทอมได้แค่วันเดียวก็สั่งปิดการเรียนการสอน ที่สำคัญคือต้องเลื่อนทุกอย่างในตารางสอน กิจกรรม และการฝึกงานที่อุตส่าห์เตรียมตัวมาอย่างดี แต่ก็ต้องปล่อยไปเทอมสอง เพราะเทอมแรกของปีห้าหนักพอดูเลยล่ะ
“มาแล้ว”
“ไปซั่มกับผัวมาคงมันส์น่าดูเนาะ”
“ไอ้โย!” มาถึงไอ้โยก็จัดการปล่อยหมาออกจากปากใส่โฟมทันที เพื่อนสาวฉันคนนี้ออกจะนิ่งเฉยไปบ้าง แต่สวยสะดุดตาหนุ่มๆ สาวๆ แต่ว่าคงได้แค่มองนะ เพราะเธอมีเจ้าของแล้ว ดุมากด้วย
“พูดจริงทำรับไม่ได้ ใช่มะ พ่อมีเมียเด็ก หุหุ”
“โดนถีบปากแตก”
“โอ้โห มีเมียเด็กงี้ล่ะ หน้าตาสดใสเชียว อิจฉา” วกไปหาเถื่อนที่ตอนนี้มีแฟนเด็กม.ปลาย น่ารักซึ่งฉันก็คิดว่าเหมาะกับเถื่อนมากเลยล่ะ หมอนี่มีใบหน้าที่หล่อนิ่ง แต่ตอนนี้ไม่ได้หล่อนิ่งแล้วล่ะ หล่อมุ้งมิ้งตามประสาคนมีเมียเด็กอะนะ
“จะว่าไป กลุ่มเราก็ผัวมีเมียเด็กกันหมดเลยนะ”
“ดาว”
“ฮ่าๆ หรือไม่จริงอะ โฟมก็แก่กว่านัม เถื่อนก็แก่กว่าน้องข้าวหอม”
“ใช่ แม่งแดกเด็กแล้วอมตะปะ กูจะได้หาแดกบ้าง”
“แดกไร คราวก่อนกูเห็นมึงควงรุ่นพี่อายุยี่สิบเจ็ดอยู่เลย ไอ้ควาย!” ฉันชะงักมือที่กำลังหยิบของดองเข้าปาก หันไปมองเถื่อนที่กำลังทะเลาะกับโย หมายความว่ายังไง?
“ยังไงอะเถื่อน” ถามออกไป ทั้งที่หัวใจมันเต้นแปลกๆ แล้วตอนนี้
“ก็วันก่อนฉันพาข้าวหอมไปซื้อของทำรายงาน เห็นไอ้โยควงรุ่นใหญ่อยู่”
“ใหญ่พ่อมึงสิ ห่างแค่สี่ห้าปี” มันทำหน้าหงุดหงิด แต่เป็นฉันเองต่างหากที่เงียบไป ถึงจะรู้ว่าโยมันทะเล้น หม้อสาวไปเรื่อย แต่ไม่คิดว่าจะควงใครจริงจังสักคนเลยนะ
“แล้วไง ตอนนี้คบหรือเลิก?”
“ไม่ได้คบ คุยๆ กัน ก็เขาน่ารักดี ดูเป็นผู้ใหญ่ สำคัญคือ... เอามันดี”
“เหี้ย!”
“ทุเรศนะโย...” ฉันก้มหน้าลงหยิบของดองเข้าปาก ไม่ได้สนใจคนตรงหน้าเลยสักนิด แต่กำลังคิดต่างหากว่าทำไมมันถึงไม่ยอมบอกฉันเรื่องนี้ ถ้าเถื่อนไม่เห็นมันจะบอกเรื่องนี้กับฉันหรือเปล่า?
“เดี๋ยวไปคณะก่อน อาจารย์เรียกคุยเรื่องรับน้อง”
“โอเค” เถื่อนลุกเดินจากไป ก็เหลือแต่ฉัน โฟมและโยที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ โดยไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น โฟมสบตากับฉันที่ปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม
“ไปเที่ยวหาพ่อกับแม่เป็นไงบ้างอะ?”
“ก็ดีนะ เดี๋ยวว่างๆ จะเอาของที่ไร่มาฝากนะ ลืมหยิบ”
“อืม ว่าแต่พี่ฟินกับนัมนี่ลงรอยกันยังอะ”
“ยัง ทะเลาะกันมากกว่าเดิมจนพ่อกับแม่ปวดหัวอะ นัมชอบกวนประสาทพี่ฟิน” โฟมทำหน้าหงุดหงิด แต่ก็นะ แค่เห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็ดีใจแล้วล่ะ โฟมเคยทุกข์ใจเพราะเรื่องของนัมมานาน และตอนนี้ก็สุขสมหวังสักที
“โฟม”
“อ้าว มาทำไมอะ คณะไม่มีเรียนเหรอ?”
“เพิ่งเปิดเทอมปะ ไปกินข้าวที่โรงอาหารกัน หิว”
“เมื่อเช้าเพิ่งกินไปไม่ใช่เหรอ”
“โธ่ ไม่อิ่มหรอก ไปกันปะดาว โย” ฉันส่ายหน้าไปมา ส่วนโยก็โบกมือไล่ให้ไป ใครจะไปเป็นก้างกับเพื่อนล่ะถามจริง เมื่ออยู่กันสองคน ฉันก็เลยได้จังหวะที่จะถามเรื่องที่สงสัย
“แกคุยกับใครเหรอ?”
“ใครอะ”
“ก็ที่เถื่อนพูดถึง”
“อ๋อ รุ่นพี่น่ะเหรอ เธอเป็นนางแบบอะ รู้จักกันตอนฉันไปงานเลี้ยงกับพ่อ”
“เหรอ แล้วแกก็ชอบ”
“มั้ง” มันไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด ตอบเสร็จก็จับจ้องมือถือเพราะเล่นเกม ROV ฉันถอนหายใจและนั่งเท้าคางมองไปยังหน้าคณะ หากแต่ว่ากลับพบเจอกับร่างสูงของคนที่คุ้นตา เด็กนั่นสวมชุดนักศึกษาได้แบบแบดบอยมากๆ กำลังเดินตรงมาหาฉัน
“สวัสดีครับ”
“หือ... นาย? เพื่อนนัม”
“ครับ ผมลืมแนะนำตัวไปนะ ผมชื่ออาร์ครับ เพื่อนไอ้นัม”
“อ๋อ แล้วมาทำไมอะ?”
“มาหาคุณดาวเหนือครับ” สองมือเท้าลงกับโต๊ะหินอ่อน โน้มตัวลงมาใกล้จนฉันตกใจ รอยยิ้มสดใสถูกส่งมาทำให้ฉันหันไปมองโยมันมองฉันและอาร์สลับกันไปมา แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมานอกซะจาก...
เล่นเกม ROV ต่อ เฮ้ย! ปกป้องกันหน่อยสิวะ เดี๋ยวก็จับล็อกคอเลยนี่
“หิว”
“แล้ว?”
“อยากพาคนสวยไปนั่งกินข้าวด้วย” ฉันเหวอไปในทันที เด็กคนนี้มันยังไงวะเนี่ย! ฉันถอนหายใจสบตากับเขาที่เอียงคอมองอย่างกวนตีน
“ฉันไม่สวย”
“เหรอครับ แต่ผมมองว่าคุณดาวเหนือสวยมากเลยนะ”
“ไปเรียนไป”
“ไม่มีครับ ถึงได้มาชวน”
“ไปกินกับเพื่อนนายสิ ผู้หญิงที่นายเคี้ยวก็ได้ ทำไมต้องฉัน!” อาร์ยังคงไม่ลดละการตื้อฉัน และไอ้ตัวที่ควรจะช่วยดันนั่งเล่นเกมสบายใจเฉิบ มันน่าจะต่อยทั้งคู่เลยนะเอาจริง
“ในมหาลัยยังไม่มีผู้หญิงคนไหนโดนผมเคี้ยวนะ”
“เรื่องของนายสิ ไปๆ เดี๋ยวจะโดนอัด”
“อัดผมเหรอ? เอาสิ แต่ขอบนเตียงนะ”
“นี่!” ฉันลุกขึ้นก่อนจะคว้าต้นคอคนตัวสูงให้โน้มเข้ามาใกล้ เขาไม่ตกใจกับการกระทำของฉัน แต่กลับเอาแต่ยิ้ม ยิ้มและก็ยิ้ม จนเป็นฉันเองที่โมโหกดเล็บลงท้ายทอยของเขาหวังให้รู้สึกเจ็บ แน่นอนว่าเห็นสีหน้าความเจ็บปวดพร้อมรอยยิ้มด้วยล่ะ
“น่าขยะแขยง”
“ก็ผมชอบให้คุณทำร้ายร่างกายนี่นา”
“โรคจิตชะมัด!” ผละจากร่างสูงฉันก็หยิบหนังสือขึ้นมาและฟาดไปยังศีรษะของเขาอย่างแรงจนอาร์ฟุบลงนั่งกับเก้าอี้หินอ่อน สองมือกุมศีรษะตัวเองแต่รอยยิ้มยังคงไม่หายไปจากใบหน้าของเขา
“อยากโดนอีกสักป้าบมะ”
“สักป้าบนี่ขอเป็นมือได้ไหมครับ ตบตรงนี้นะ” เขาจิ้มนิ้วไปที่แก้มตัวเอง รู้สึกต้องระงับอารมณ์ตัวเองให้มากเข้าไว้ หันไปมองอีกคนก็เอาแต่เล่นเกมจนฉันคว้าต้นแขนมันให้ลุกขึ้นยืน
“ไรวะ เดี๋ยวตายห่ากันพอดี!”
“ถ้าแกไม่อยากตายคาตีนฉัน ก็ตามมาดีๆ” ฉันกระชากแขนโยให้เดินตามมา แต่ก็ยังไม่วายหันกลับไปมองเด็กคนนั้นที่ยกมือโบกให้พร้อมรอยยิ้ม เราสองคนเข้ามานั่งในห้องกิจกรรม พูดง่ายๆ คือเป็นห้องของเถื่อนเดือนคณะที่มักจะเป็นที่สิงสถิตพวกเรา ฉันนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ข้างกายก็เป็นโยที่ทำหน้าหงุดหงิดเกาหัวตัวเอง
“แกทำฉันด้อมแตก”
“อยากหัวแตกปะละ? นั่งนิ่งอยู่ได้ แทนที่จะช่วยกัน”
“ช่วยไร เพื่อนนัมแค่มาชวนไปกินข้าว”
“นี่แกดูไม่ออกเหรอว่าเด็กคนนั้นมันมาชวนฉันกินข้าวทำไมอะ!” ตวาดโยที่อึ้งไป ปกติฉันจะไม่เคยตวาดมันเลยสักครั้ง นอกจากด่าแบบเล่นๆ ซึ่งมันรู้ดี
“รู้ แต่นั่นมันเรื่องของแกนี่ แกจะให้ฉันไล่มันในฐานะอะไรล่ะ แค่เพื่อนนะเว้ย” ฉันเม้มปากตัวเอง หันหน้าหนีมันอย่างหงุดหงิดใจ
“เออ เพื่อนก็เพื่อนไง! แต่ช่วยกันหน่อยไม่ได้”
“จะให้ช่วยอะไร มันไม่ได้มารุ่มร่ามกับแก ไม่ได้มาหื่นใส่ ก็แค่มาจีบ”
“...”
“ไม่ชอบหรือไง เด็กมาจีบอะ”
“เคยเห็นฉันชอบใครไหมล่ะ จะเด็ก จะรุ่นเดียวกัน หรือรุ่นพี่ แกเคยเห็นว่าฉันชอบหรือไง” มันส่ายหน้าไปมา ก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมต่อ ฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เออ ไม่สนใจก็ไม่ต้องสน!
“จะไปไหน?”
“ไปไหนก็ได้โตแล้ว”
“กวนตีนนะมึง”