บทนำ
นี่สวรรค์หรือฉันเพียงฝันไป
ครืน..
ยามฤดูปลายฝนต้นหนาว เม็ดฝนเริ่มโหมกระหน่ำบดบังทัศนียภาพในเมืองใหญ่ เมฆหนาสีดำปกคลุมทั่วม่านฟ้า เสียงฟ้าร้องอึมขรึมแข่งขันกับเสียงฝนที่กำลังเทลงมา ผู้คนพากันวิ่งหลบพร้อมถือร่มที่กางออกไว้คนล่ะหนึ่งคัน
หนึ่งในผู้คนนับพัน หญิงสาวคนหนึ่งยืนหลบฝนอยู่ใต้จุดรอรถบัส เธอสวมใส่เสื้อฮู้ดสีดำราคาถูก มีถุงพลาสติกใส่ขนมปังหนึ่งชิ้นห้อยบนวงแขน เธอใช้เสื้อฮู้ดคลุมศีรษะเป็นสิ่งกันละอองฝนเนื่องจากไม่มีร่ม ในมือเรียวถือสมาทโฟนรุ่นเก่าขณะเลื่อนอ่านนิยายเทพเซียนที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ จุดรวมความสนใจอยู่แค่ตัวหนังสือสีดำในจอ จึงไม่ทันสังเกตเห็นคนจำนวนมากเริ่มวิ่งเข้ามาหลบฝนใต้จุดรอรถบัสที่เดียวกับเธอ
ฉากบรรยายพระเอก ‘เซียวจื่อหยาง’ โหมดคลั่งรักเป็นจุดเริ่มต้นให้เหล่าแฟนคลับนิยายเกินกว่าครึ่งเทใจไปให้ หลังจากประพฤติตัวให้คนอ่านสาปแช่งไปกว่าครึ่งบท ในขณะที่อีกส่วนยังก้าวขาออกมาจากพ่อเตาอบไมโครเวฟไม่ได้เพราะยังติดใจพระรองสายอบอุ่นเสมอต้นเสมอปลายแต่อยู่ในสายเป็นได้แค่พี่น้องกับนางเอก..
น่าสงสารโดยแท้.. ในตอนแรก ‘หลั่นเหอ’ ปักธงพระรองไปเช่นเดียวกันแต่กลับลำแทบไม่ทันเมื่อเซียวจื่อหยางเปิดโหมดคลั่งรัก!
เซียวจื่อหยางตำแหน่งคือเทพบรรพกาลหรือสัจจเทพที่ถูกกล่าวขานว่าอำมหิต ไร้ความปรานี ใช้วิธีรุนแรงลงโทษผู้ทำผิดอย่างโหดเหี้ยม เป็นที่น่ายำเกรงที่สุดในบรรดาสัจจเทพทั้งสี่ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีตบะมาก ขนาดที่ว่าต้าม่อหวัง ประมุขมารปัจจุบันยังต้องยอมอ่อนข้อให้เขาถึงแปดส่วน
แต่ตี้จวินเซียวจื่อหยางคนนั้นยามทำศึกก็ลงมือได้โหดเหี้ยม เด็ดขาด สังหารคนราวกับเป็นผักปลากลับเอาใจใส่เพียง ‘หลิงเอ๋อร์’
เรียกได้ว่าแต่ละฉากรักระหว่างทั้งสองพาลให้คนอ่านเขินจนจิกเท้า!
หลั่นเหอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฟันขาวขบลงบนริมฝีปากเมื่อกำลังอ่านถึงฉากเข้าหอที่เหล่าชะนีคนโสดอย่างเธอกำลังรอคอย กว่าจะถึงบทนี้ไม่ง่ายนักเชียวเพราะมีมารร้ายมารผจญระหว่างทางเต็มไปหมด แต่แล้วในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ปลายร่มคันหนึ่งถูกเหวี่ยงเข้ามาสู่สายตา ผ่านหน้าจอโทรศัพท์แล้ว
ปัก!
กระแทกเข้าหน้าเธอเต็มๆ!! “โอ้ย!!” เธอร้องลั่น
“หะ..เห้ย มีคนโดดลงถนน!!” คนหนึ่งตะโกนขึ้น
ไอ้เx..โดดลงถนนมารดาแกสิ!! ปากเธอขยับด่า หลั่นเหอตั้งใจจะหันไปมองหน้าคนทำแต่กลับพบว่าตัวเธออยู่ริมฟุตบาตตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ แรงกระแทกผลักจนเธอล้มหน้าก้มจูบกับถนนลูกรัง! เคราะห์กรรมซ้ำซ้อน หลั่นเหอไม่ทันได้ผยุงตัวเองลุกขึ้นด้วยซ้ำ ก็มีแสงไฟจากหน้ารถสาดมาตรงจุดที่เธอล้มลงพร้อมกับเสียงบีบแตรดังยาวเหยียด!
หลั่นเหอมีเวลาคิดในใจ นี่มันฉากตุยคุ้นเคยแสนฮอตฮิตในมังงะทะลุมิติไปต่างโลกรึเปล่าฟ่ะ?! และเมื่อเธอหันไปมอง.. ตรงปกไม่จกตา! เพราะตรงหน้าคือ ‘พี่ทรัคคุง’ กำลังพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูงปรี๊ดไม่มีแผ่ว
ใบหน้าจืดชืดไร้การตกแต่งเบิกตากว้าง ขณะภวานาในเสี้ยวจิตสุดท้ายว่าขอให้เธอไม่ตายด้วยเถอะ อย่างมากก็แค่เจ็บหนักก็พอ พระเจ้า พระโพธิสัตว์ เทพองค์ใดก็ได้!! เธอยังไม่อยากตาย ยังไม่มีหลัวเป็นของตัวเองเลย!!
และดูเหมือนว่าคำอธิษฐานของเธอจะส่งผลรวดเร็วดั่งติดจรวด เมื่อครั้นเกิดความรู้สึกราวกับร่างกายล่วงลงสู่เหวลึกไม่มีที่สิ้นสุด รอบตัวที่มืดสนิทพลันเกิดแสงสว่างพร้อมกับอะไรบางอย่างที่กระชากเธอขึ้นไปอย่างแรง
เฮือก!!
หลั่นเหอรู้สึกเหมือนมีมวลอากาศหนัก ๆ ขนาดใหญ่แล่นเข้าสู่ร่างกาย อัดแน่นอยู่บริเวณช่วงอกจนรู้สึกปวดร้าวคล้ายกลั้นหายใจใต้น้ำเป็นเวลานาน ร่างกายจึงสำลักออกมายกใหญ่ ในเวลาเดียวกันเธอก็ลืมตาโพลงขึ้นมา
“แค่ก แค่ก!” หลั่นเหอสำลักพลางทุบอกตัวเอง หยัดตัวลุกพรวดขึ้นนั่งในลักษณะเอนกายไปด้านหลัง
อาการจุกเสียดทุเลาลงในทันที ทว่าความรู้สึกต้องการอากาศบังคับให้เธอต้องอ้าปากสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ กอบโกยอากาศหนัก ๆ เข้าปอดอยู่หลายครั้ง กระทั่งลมหายใจเธอกลับมาเป็นปกติ ตอนนั้นหลั่นเหอถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าบนหัวของเธอหนักราวกับมีหินทับ เธอกำลังจะยกมือขึ้นหยิบสิ่งบนหัวออก แต่กลับต้องนิ่วหน้า เมื่อเห็นมือขาวซีดของตัวเอง
“มือ..มือใคร!!”
ทั้งขาว ทั้งเรียวยาว แล้วผิวยังดูเนียนนุ่ม ไม่เพียงเท่านั้นยังทาเล็บสีแดงเลือดประหนึ่งมือของนางร้ายในละครหลังข่าว..
บ้าน่า..
หลั่นเหอส่ายหน้า ม่านตาขยายกว้าง หว่างคิ้วเป็นรอยขมวด ยกมือสองข้างของตัวเองขึ้นมาแล้วผลิกกลับไปกลับมาอย่างงุนงง ขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นชายกระโปรงสีแดงของตัวเอง จึงสำรวจทั่วร่างกายและพบว่าตัวเองกำลังสวมชุดจีนโบราณแขนยาว ทว่าชุดนี้แตกต่างจากในซีรีย์ที่เคยดู ตรงลวดลายปักดิ้นทองตั้งแต่ชายกระโปรงถึงปลายแขนเสื้อยาวนั้น ดูงดงามและหรูหรากว่ามาก
ก่อนเครื่องเรือนและบรรยากาศต่าง ๆ ราวกับหลุดเข้ามาในนิยายเทพเซียนตามซีรีย์ดังจะดึงดูดให้ละสายตาจากชุดสีแดงนี้ไป
..โอ้ว หลั่นเหออุทานในใจ
ตรงหน้าคือเครื่องเรือนไม้หวางฮวาหลีลวดลายไม้มีริ้วหลอนประกายสีเหลืองทอง ทุกชิ้นถูกตกแต่งด้วยทองแกะสลักลวดลายแปลกตาแต่กลับงดงามจนน่าเหลือเชื่อ ละอองใบไม้สีชมพูดสดพัดมาพร้อมสายลมอ่อน ๆ ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ตามกรอบหน้าต่างเหลื่อมทองนั้นถูกแกะสลักไว้ด้วยลวดลายพิถีพิถัน
ครั้นมองตามออกไปด้านนอก ก็พบที่มาของกลีบดอกไม้ชมพูสดเหล่านั้น ซึ่งมองจากตรงนี้จะเห็นต้นไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ปกคลุมไปด้วยสีชมพูสดของกลีบไม้ กิ่งก้านแตกสาขาตัดกับท้องฟ้าสีหม่นบอกเวลาย่ำค่ำ ขณะบนท้องฟ้านั้นคล้ายกับมีกลุ่มก้อนของละออง ส่องแสงระยิบระยับประดับทั้งผืนฟ้า ทุกครั้งที่มีลมพัดผ่านก็ได้พัดพาละอองเหล่านั้นให้เคลื่อนไหว ดูคลับคล้ายหิ่งห้อยกำลังหยอกล้อแสงจันทร์
ความงดงามบนฟ้าสะท้อนเป็นภาพในดวงตาของหญิงสาว เรื่องนี้น่าอัศจรรย์ใจทำให้หลั่นเหอรีบยกมือพนมไหว้ท่วมหัว!
“นี่ต้องเป็นสวรรค์แน่ ๆ ขอบคุณพี่ทรัคคุงที่พาฉันมาขึ้นสวรรค์ ขอให้ป้ายทะเบียนรถพี่ถูกเลขเด็ดงวดนี้ ส๊าธุ๊!” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มจนตาหยี ไม่คิดสงสัยหรือแปลกใจอะไรทั้งนั้น จากนิยายหรือหนังสือเกี่ยวกับโลกวิญญาณที่เคยอ่านมันก็ประมาณนี้ทั้งนั้นแหละ!
แต่แล้วในวินาทีถัดมา ดวงตาของหลั่นเหอต้องเบิกกว้าง เธอสังเกตเห็นเส้นเลือดตรงข้อมือกำลังบวมขึ้น เป็นก้อนสีแดงจนคล้ำขนาดเท่าเม็ดถั่ว ก่อนมันจะดิ้นพรวดออกมากลายเป็นหนอนไหมสีเลือด
“กรี๊ดดดดดดด!! กรี๊ดดดดด!!”
น่าเกลียด น่าขยะแขยงที่สุด!!
หลั่นเหอผู้กลัวสัตว์แมลงเกือบทุกชนิดกรี๊ดลั่น ยิ่งมันออกมาจากข้อมือของเธอเอง เธอยิ่งขนลุกขนผองเข้าไปใหญ่!! ร่างเล็กผงะถอยหลังโดยสัญชาตญาณ ส่งผลให้ของหนักบนศีรษะล่นลงกระแทกเข้ากลางหน้าผากอย่างจัง!
“โอ้ย” หลั่นเหอร้องออกมาพลางคลำสิ่งที่กระแทกหัวเธอ
และพบว่ามันคล้ายกับที่ครอบศีรษะอันใหญ่ จากที่คลำดูแล้ว เหมือนเครื่องประดับสวมศีรษะชิ้นนี้จะถูกประดับด้วยห้อยพู่อันเล็กอันน้อยเต็มไปหมด แต่หลั่นเหอไม่ได้ให้ความสนใจมันมากนัก เธอเกรงว่าหนอนไหมที่กระเด็นออกจากตัวเธอไปเมื่อสักครู่จะยังไม่ตาย
หางตาเหลือบไปเห็นโถอันหนึ่ง เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วลุกขึ้น ในนั้นมีน้ำอยู่เกือบครึ่ง เพราะไม่อยากเข้าใกล้แมลงมาก จึงตั้งใจจะสาดน้ำใส่ให้มันดิ้นตายด้วยคิดเอาเองว่าแมลงต้องกลัวน้ำ แต่เมื่อเห็นเงาสะท้อนบนผิวน้ำ หลั่นเหอถึงกับอุทานออกมา
“คะ..ใครอ่ะ สวยเว่อร์”
เครื่องหน้าที่สะท้อนบนผิวน้ำคือความงดงามที่หลั่นเหอไม่เคยพบเห็น ดวงตากลมโตกระจ่างใสดั่งสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง หางตาเชิดขึ้นเล็กน้อยดูขี้เล่น แพขนตาหนายิ่งขลับให้ดวงตาคู่นี้เด่นชัด สีนัยน์ตาดั่งน้ำทะเลลึกน่าค้นหา จมูกโด่งรั้นรับกับคิ้วเรียวดั่งคันศร ใบหน้าเรียวรูปไข่ ปากอิ่มเป็นกระจับน้อย ๆ ที่เหมาะกับเครื่องหน้างามอย่างลงตัว
ถึงจะแต่งหน้าจัดไปหน่อยแต่ก็สวย นี่อาจเป็นเธอในเวอร์ชั่นเทพธิดาก็ได้ใครจะไปรู้.. หลั่นเหอเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่เอะใจคิดว่านี่คือคนอื่นที่เธอเข้ามาสวมร่าง พลางชื่นชมใบหน้าสวย ๆ ของตัวเองไม่ขาดปาก โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีเรื่องฉิบหายรอเธออยู่!
ในตอนนั้นเอง มีเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังเร่งรีบเพียงใด ไม่ทันไรร่างของสตรีในชุดสีขาวเรียบง่ายก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าประตู แต่สิ่งที่ทำให้หลั่นเหอตกใจจนโถน้ำหลุดมือคือสิ่งที่เธอคนนั้นพูดออกมา
“ฟู่ซินเหรินเซียนจวิน ทำอย่างไรดี เวลานี้ตี้จวินเซียวจื่อหยางกำลังตรงมาที่ตำหนักฮั่วเทียนแล้ว!” ‘ลิ่วอัน’ เดินตรงเข้ามาหน้าตาไม่สู้ดี มือไม้สั่นพัลวันกล่าวน้ำเสียงแตกตื่น