Episode-๐๗ เลือกเอง

1011 Words
กลับถึงบ้านก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะไปเรียนแต่คงต้องหยุดอีกตามเคยเนื่องจากสภาพฉันตอนนี้คือไม่ไหวจริง ๆ แถมยังปวดหัวมากด้วย ไม่รู้ว่าเมาค้างหรืออะไร แกร่ก! “เพิ่งมาเหรอ” แม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ “อืม แล้วแม่ล่ะไปไหนมา” “ก็อยู่บ้านสิยังไม่ได้ไปไหนเลย แล้วทำไมเพิ่งมาทุกทีเห็นกลับบ้านตลอดนี่” ใช่ค่ะ ดึกดื่นแค่ไหนฉันไม่เคยค้างที่อื่นเลย “หนูเมาอ่ะ ก็เลยค้างที่ร้าน” โกหกไม่ใช่เรื่องดีค่ะ แต่บางทีก็จำเป็น “แล้วว่าแต่ข้าขี้เมา เอ็งก็เหมือนกันแหละ” แม่ว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะเดินมานั่งข้างฉัน “ไม่สบายเหรอ” พร้อมกับอังฝ่ามือลงบนหน้าผากฉัน “ไม่หรอก สงสัยหนูจะเมาค้าง” “เมาค้างอะไรตัวร้อนแบบนี้ เดี๋ยวไปซื้อยาให้แล้วกัน กับข้าวมีในครัวหากินเอาเอง” จบประโยคก็ออกจากบ้านไปเลยไม่รอให้ฉันได้พูดอะไรสักคำ แอบดีใจนะคะที่แม่เป็นแบบนี้ หวังว่าจะไม่กลายร่างเป็นยัยป้าขี้เมาอีก คล้อยหลังแม่ฉันก็ผล็อยหลับไป ไม่รู้เลยว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วค่ะ ข้างกายฉันมีโจ๊กกับยาแก้ไข้วางอยู่ “หลับนานขนาดนี้เลยเหรอวะ” บ่นพึมพรำกับตัวเองก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว กินข้าวกินยาแล้วออกมาทำงานต่อเลย ป่วยแหละแต่หยุดไม่ได้ไง “ไงเรา” “สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้เจ้ม่านอย่างเช่นทุกวัน “เหมือนเดิมนะ โต๊ะไกด์” “คนอื่นบ้างก็ดีนะคะ หนูเบื่อขี้หน้าพวกเขาแล้ว” ฉันพูดออกไปอย่างไม่จริงจังมากนัก ไอ้ที่จริงจังคือไม่อยากเจอหน้าเฮียไกด์มากกว่าค่ะ มันมองหน้ากันไม่ติด “เอาน่า... ท่องไว้ว่าได้ทิปเยอะ” “...” อึดอัดเป็นบ้าเลยอะไรที่ต้องเก็บเป็นความลับเนี่ย สามทุ่มครึ่งเวลาเดิมพวกเขาก็มากัน “ลืมไปทำงานหรือเปล่า?” “เปล่าค่ะ” “ได้ข่าวว่าวันนี้มึงไม่ได้ไปเรียนนะ” “บางทีเฮียก็รู้เรื่องของหนูเยอะไปนะ” ฉันว่ายิ้ม ๆ จะว่ากวนประสาทก็ใช่แหละ “เดี๋ยวนะไอ้ไกด์ มึงเป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่กูจำได้มึงไม่สนทนากับใครด้วยซ้ำ” “เออ ขนาดกับพวกกูมึงยังไม่อยากจะโต้ตอบเลย” เพื่อนเขาเอ่ยแซวเมื่อสังเกตเห็นว่าเราสองคนถกเถียงกันบ่อยครั้ง “เด็กที่ร้านกูเอง ทำไมจะพูดคุยไม่ได้?” “ห๊ะ? น้องแนนไปทำงานที่ร้านมันด้วยเหรอ” ประโยคนี้เพื่อนเขาหันมาถามฉันค่ะ ถ้าจำไม่ผิดคนนี้ชื่อพี่คิว อีกคนชื่อพี่นาย “ค่ะ พอดีแนนมีความจำเป็นนิดหน่อย” “อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง ไอ้คนโลกมืดมนมันถึงได้เปลี่ยนไป” “ขี้เสือกฉิบหาย” “...” เลิกสนใจพวกเขาแล้วหันมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ระหว่างนี้ก็จะมีสาวสวยแวะเวียนมาขอชนแก้วพวกเขาตลอดเลยค่ะ “พี่ส้ม มาแทนหนูสักสิบห้านาทีสิ ขอไปห้องน้ำหน่อย” ฉันหันไปบอกพี่ส้มที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ “โอเคเดี๋ยวพี่ดูให้ เมาไหมเนี่ย?” “ไม่ ๆ หนูโอเค” จบประโยคก็แยกตัวมาเข้าห้องน้ำทันที ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาเฮียไกด์ก็รออยู่ก่อนแล้วค่ะ “หลงเสน่ห์หนูหรือไงตามมาอยู่ได้” “หลงนมมึงต่างหาก” “ทะลึ่ง!” ฉันว่าพลางถลึงตาใส่เขา “เป็นอะไร? ทำไมไม่ไปเรียน” “ขี้เกียจ” “ตอบเหมือนเด็กเอาแต่ใจ” “แล้วเฮียยุ่งอะไรด้วย?” “มีความสุขไหมล่ะกับทางเลือกของตัวเอง” “...” “โตซะเปล่ายังไม่มีหัวคิดเลย แถมยังไม่ยอมรับฟังใครอีก” “แล้วทางที่ดีมันเป็นยังไงเหรอคะไหนพูดมาให้ฟังหน่อย... แล้วความจริงหนูจะเป็นยังไงเฮียก็ไม่ควรยุ่งเลยด้วยซ้ำ!” ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรหรือรู้สึกยังไงถึงได้พยายามเข้าหาฉันอยู่ตลอด “พูดแบบนี้แสดงว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้จริง ๆ สินะ” เขาว่าพลางเหยียดยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “มีอะไรก็ว่ามาเถอะ หนูเบื่อจะเถียงแล้ว” เฮียไกด์ไม่ตอบอะไรแต่กลับเปิดคลิปวีดิโอหนึ่งให้ฉันดู (ถ้ายังไม่หยุดกูจะถือว่ามึงยอมจริง ๆ แล้วนะ) “หนูเลือกแล้ว...หนูจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังทุกอย่างเลย” (อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน) “เฮียไม่ทำให้หนูเสียใจหรอก คิกคิก” แล้วคลิปมันก็ตัดไป เป็นฉันจริง ๆ ค่ะ สาบานเลยว่าจำไม่ได้ แต่ในเมื่อคนตรงหน้ามีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ฉันจะดิ้นยังไงไหว ดันไปรับปากว่าจะเป็นเด็กดีอีกต่างหาก! แนนเอ้ย...ทำอะไรลงไปวะ “คราวนี้ยังจะปากดีอยู่ไหม?” “ไม่รู้แหละ ก็หนูเมาเฮียอย่าทำเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายเสียหายนักเลย ขนาดหนูเป็นผู้หญิงหนูยังไม่เรียกร้องอะไรสักอย่าง” “พูดอย่างกับตัวเองถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเลยเนอะ มึงดูนี่!” เขาว่าก่อนจะเปิดเสื้อตัวเองขึ้น มีแต่รอยคริสมาร์กทั้งนั้นเลยค่ะ “โอ๊ยเฮีย!! เลิกพูดเรื่องน่าอายได้แล้วค่ะ มันผ่านไปแล้วมันจบไปแล้ว” ฉันโวยวายใส่คนตรงหน้าที่เอาแต่พูดย้ำอยู่กับเรื่องเดิม ๆ “ก็มึงเลือกเองไง แล้วทีนี้รู้หรือยังว่าทำอะไรโดยไม่มีสติผลเสียมันเป็นยังไง แล้วอีกอย่างนะเลิกพยศใส่กูได้แล้ว ไหนรับปากว่าจะเป็นเด็กดี?” ไม่พูดเปล่าเขายังเล่นหูเล่นตาใส่ฉันอีกด้วย “พูดอย่างกับเป็นพ่อไปได้” “ไม่ได้เป็นพ่อ แต่เป็นผัว!” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD